เอเยนซี – สื่อฮ่องกงเผยถึง ประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 17 ที่จัดขึ้น 5 ปีครั้ง จะระบุให้คนที่เกิดก่อนปี 1940 โดนเกษียณออกจากกรรมการกรมการเมือง โดยแหล่งข่าวชี้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากระดับสูงในพรรคแล้ว ซึ่งเจิงชิ่งหง รองประธานาธิบดีจีน กับรองนายกรัฐมนตรีอู๋อี๋ ซึ่งล่าสุดนิตยสารฟอร์บสจัด ให้เป็นผู้หญิงที่มีบทบาทสำคัญของโลกติดหางเลขไปด้วย
หลังกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประกาศเมื่อปลายเดือนส.ค. ว่าจะเปิดประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกพรรคทั่วประเทศจีนครั้งที่ 17 ในวันที่ 15 ต.ค. 2007 ที่กรุงปักกิ่ง ขณะนี้ก็มีกระแสข่าวออกมาจากสื่อฮ่องกง ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ทำการตกลงกัน โดยมีความตั้งใจที่จะใช้ปี 1940 มาเป็นเกณฑ์กล่าวคือ ผู้ที่มีอายุ 68 ปีขึ้นไปจะต้องเกษียณออกจากการเป็นกรรมการกรมการเมือง
โดยรายงานข่าวดังกล่าวได้ระบุว่า นับตั้งแต่มีการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 16 ก็มีการกำหนดกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษียณอายุผู้นำระดับสูงขึ้น โดยปัจจุบันหากเป็นสมาชิกระดับมณฑลจะเกษียณที่อายุ 65 ปี ส่วนรองจากนั้นก็จะอยู่ที่ 60 ปี ทว่าที่ผ่านมา ยังไม่มีการกำหนดตัวเลขที่แน่นอนสำหรับกรรมการกรมการเมืองระดับสูงสุด
ซึ่งในครั้งนี้ หากมีการใช้เกณฑ์อายุที่ 68 ปีจริง กรรมการกรมการเมืองที่เข้าข่ายบุคคลต้องเกษียณในครั้งนี้ก็จะมีนายเจิงชิ่งหง (เกิดในปี 1939) อู๋กวนเจิ้ง (เกิดปี 1938) หลอกั้น (เกิดปี 1935) อู๋อี๋ (เกิดปี 1938) จางลี่ชัง (เกิดปี 1939) เฉากังชวน (เกิดปี 1935) และเจิงเผยเอี๋ยน (เกิดปี 1938) นอกจากนั้นก็ยังมีเจี่ยชิ่งหลิน ที่คาบลูกคาบดอกพอดี เพราะเกิดในเดือนมี.ค. 1940
นอกจากนั้น ตามกฎแล้ว โดยปกติกรรมการกรมการเมือง นอกจากจะมีเหตุผลพิเศษ อาทิมีปัญหาด้านสุขภาพ หรือมีปัญหาเกี่ยวพันเรื่องคอรัปชั่น มิฉะนั้นแล้วจะต้องอยู่จนครบว่าระ ซึ่งในครั้งนี้ อาจจะมีการดึงตัวหัวเล่อเฉวียน เลขาธิการกรรมการพรรคฯในซินเจียง (ซินเกียง) อี๋ว์เจิ้งเซิง เลขาธิการกรรมการพรรคฯมณฑลเหอเป่ย และนายจางเต๋อเจียงเลขาธิการกรรมการพรรคฯมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) เข้ามารับหน้าที่ในปักกิ่ง
โดยแหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า หวังเล่อเฉวียน อาจจะเข้ามารับตำแหน่งมุขมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ ส่วนอี๋ว์เจิ้งเซิงกับจางเต๋อเจียง ถือว่าเป็นตัวเลือกสำหรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะถูกจัดให้ไปแทนตำแหน่งที่อาจว่างลงของเจิงเผยเอี๋ยนกับอู๋อี๋
ส่วนเฮ่อกั๋วเฉียง กับโจวหย่งคัง ก็อาจจะได้เลื่อนขั้นขึ้น ด้านหลิวฉีเลขาธิการกรรมการพรรคฯประจำปักกิ่ง หลิวหยุนซันผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และหวังเจ้ากั๋ว รองกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนนั้นยังไม่มีข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใด
นอกจากนั้น ในด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ ฝ่ายเสนาธิการ ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในสี่ของหน่วยงานสำคัญในคณะกรรมาธิการทหารแห่งชาติ ในช่วงที่ผ่านมาก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลไปบ้าง โดยปัจจุบันมีพลเอกเฉินปิ่งเต๋อดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเสนาธิการ และรองทั้ง 5 นั้นได้แก่พลเอกเก๋อเจิ้นเฟิง พลเอกจางหลี พลเอกหลิวเจิ้นอู่ พลเอกสวี่ฉีเลี่ยง และพลโทหม่าเสี่ยวเทียน
ทั้งนี้ การประชุมสมัชชาพรรคในครั้งนี้ กำลังถูกจับตาของนานาชาติเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสลับสับเปลี่ยนโครงสร้าง ตำแหน่งบุคคลสำคัญทางการเมือง การเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงด้านความมั่นคง และการทูต
