ซีน่าเน็ต – ผู้เชี่ยวชาญจีนระบุอาหารมันทำมีผลต่อการดูดซับแคลเซียม พร้อมแนะนำให้กินอาหารจากถั่วอาทิเต้าหู้ ฟองเต้าหู้ หรืออาหารจากนม เช่นนมวัว นมเปรี้ยว โยเกิร์ต เพื่อให้ได้แคลเซียมที่เพียงพอ แต่เตือนว่า การได้รับแคลเซียมที่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวันจะเป็นผลเสียต่อร่างกาย
การเสริมแคลเซียมอาจจะไม่ใช่หัวข้อที่แปลกใหม่ เพราะในปัจจุบัน ด้วยผลจากการโฆษณา ทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่รับประทานอาหารเสริมแคลเซียม แต่ล่าสุดคณะกรรมการโภชนาการของจีนจากโรงพยาบาลฉางไห่ ได้ออกมาระบุว่า การกินของมันเยิ้มมีผลต่อแคลเซียมของร่างกาย
โดยหน่วยงานด้านสารอาหารของจีนชี้ว่า อาหารที่มีไขมันมากกว่า 25% หลังจากที่ไขมันถูกแยกออกเป็นกรดไขมันแล้ว จะทำให้ลำไส้ดูดซับแคลเซียมได้ยาก จนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแคลเซียมได้เท่าที่ควร
ยกตัวอย่างเช่น หลายคนเชื่อว่าน้ำต้มกระดูก เป็นเมนูสุดยอดสำหรับการเสิรมแคลเซียม แต่ในความเป็นจริง สารอาหารหลักในน้ำแกงต้มกระดูกจะเป็นโปรตีนกับไขมัน ด้านแคลเซียมนั้นมีน้อยมาก
นอกจานั้นยังได้แนะนำว่า ในอาหารที่ทำจากถั่ว อย่างเต้าหู้ ฟองเต้าหู้ก็มีแคลเซียมอยู่ไม่น้อย โดยในเต้าหู้ 100 กรัม จะมีแคลเซียมอยู่ถึง 140-160 มิลลิกรัม นอกจากนั้นในเต้าหู้ยังมีแมกนีเซียมที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ถือเป็นอาหารเสริมแคลเซียมอย่างดี โดยเฉพาะในฟองเต้าหู้ เต้าหู้แห้ง หรือเต้าหู้ที่แข็งหน่อยจะมีปริมาณแคลเซียมที่มากกว่า
นอกจากนั้น การดื่มนมวันละ 250-500 ซีซี ก็จะสามารถช่วยให้ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอได้ ซึ่งหากใครที่แพ้นม คือดื่มแล้วมีอาการท้องเสีย ก็สามารถทดแทนด้วยการดื่มนมเปรี้ยว หรือผลิตภัณฑ์จากนมอื่นเพื่อทแทนได้
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละวันผู้ใหญ่ควรจะได้รับแคลเซียมประมาณ 800 มิลลิกรัม ทว่าการได้รับแคลเซียมมากไปคือเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม ก็จะเป็นผลเสียต่อร่างกาย เช่นอาจจะทำให้เป็นโรคนิ่วได้เป็นต้น