ถึงแม้จะงานยุ่งรัดตัวแค่ไหน แต่เหล่าดาราก็ยังเจียดเวลาไปเดินชอปปิ้งซื้อหา "ของสะสมชิ้นโปรด" มาเชยชมให้เจริญตาเจริญใจ เป็นรางวัลให้แก่ชีวิตเสียหน่อย....
เจ้าตำรับฟัดอย่าง เฉินหลง นิยมสะสมชุดถ้วยกาแฟเป็นที่สุด ได้ข่าวว่าเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 600 ชุดแล้ว ส่วนใหญ่ราคาเฉลี่ยก็ประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ (ราว 3,500 บาท) แต่ที่แพงที่สุดราคาเหยียบ 300 กว่าเหรียญ (ราว 10,500 บาท)...เป็นของสะสมที่แพงใช่ย่อย
สมบัติในบ้านที่เซี่ยะถิงฟงรักที่สุดก็คือ กีต้าร์ เซี่ยะถิงฟงยอมรับว่าเพราะได้รับแรงสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ซึ่งเป็นศิลปินทั้งคู่ ทำให้เขาสามารถซื้อหากีต้าร์ที่คนอื่นสะสมมาหลายปีและถึงมีเงินมากแค่ไหนก็ซื้อหาไม่ได้ มาเป็นของตัวเองอย่างง่ายดาย กีต้าร์ตัวแรกของเขาเป็นคุณแม่และน้าๆ หุ้นกันซื้อให้ คาดว่าอีกสัก 2 ปี เซี่ยะถิงฟงก็น่าจะสามารถเปิดนิทรรศการกีต้าร์ได้แล้ว
จางเหว่ยเจี้ยน นิยมสะสม “ของชิ้นแรก”....ตอนเด็กๆ ครอบครัวของจางเหว่ยเจี้ยนไม่ได้มีฐานะร่ำรวย เขาต้องหยุดเรียนกลางคันเพื่อหาเงินช่วยเหลือทางบ้าน รองเท้าแบรนด์เนมคู่แรกสำหรับเขาเป็นสมบัติที่ล้ำค่า ถึงแม้ต่อมาเขาจะเข้าวงการบันเทิง ทำงานหาเงินได้ไม่น้อยแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมทิ้งสมบัติชิ้นแรกที่ตัวเองลำบากลำบนซื้อหามาได้ นอกจากรองเท้าคู่แรกแล้ว กล้องถ่ายรูปตัวแรก โทรศัพท์มือถือเครื่องแรก เพจเจอร์เครื่องแรก ซีดีเพลงอัลบั้มแรกของตัวเอง รวมทั้งไมโครโฟนตัวแรก ก็เป็นของสะสมล้ำค่าของเขา แม้สำหรับคนทั่วไปของเหล่านี้ไร้ราคา แต่สำหรับจางเหว่ยเจี้ยนแล้ว มันเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายกว่าจะมาเป็นจางเหว่ยเจี้ยนในวันนี้
สาวสมัยใหม่อย่างหลีจือชอบซื้อแว่นกันแดด ถ้าเจอที่ชอบเป็นต้องซื้อเก็บ ซื้อมาแต่กลับไม่ค่อยใส่ซะนี่ ส่วนนักร้องเท้าไฟอย่างกัวฟู่เฉิง นี่ก็ชอบสะสมแว่นกันแดดเหมือนกัน เจ้าตัวยอมรับสะสมได้มากกว่า 100 อัน แถมส่วนใหญ่ยังเป็นแบรนด์เนม เจ้าตัวชอบขนาดทำธุรกิจผลิตแว่นกันแดดโดยใช้ชื่อตัวเองเป็นยี่ห้อเลยทีเดียว
เยิ่นต๊ะหัว ได้รับการขนานนามว่าเป็นดาราฮ่องกงคนหนึ่งที่แต่งตัวเก่ง ที่ชอบสะสมที่สุดก็คือ เน็คไท เฉพาะที่บ้านก็มีอยู่ประมาณ 300 กว่าเส้น ส่วนใหญ่เป็นตัวเองซื้อ บางทีเพื่อนๆ และภรรยาก็ซื้อให้บ้าง
ไช่เส้าเฟิน นางเอกลูกหม้อทีวีบี ตั้งแต่เล็กก็ชอบสะสมโปสเตอร์และใบปิดภาพยนตร์ต่างๆ แม้แต่โปสเตอร์โค้กและนักกีฬาฟุตบอลชื่อดังเธอก็ยังเก็บ ไช่เส้าเฟินเล่าว่าเธอชื่นชอบ โรแบโต้ บักโจ้ นักเตะอิตาลี เป็นที่สุด
หลี่หวั่นหัว สาวสวยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ทุกครั้งไม่เคยลืมซื้อเข็มกลัดที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับมาด้วย “ฉันเริ่มชื่นชอบเข็มกลัดที่ระลึกตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อนแล้ว อย่างเข็มกลัดงานกีฬาโอลิมปิกนี่ฉันไม่เคยพลาด เพราะ 4 ปีมีครั้ง”
หลี่หวั่นหัวเล่าถึงสาเหตุที่สะสมเข็มกลัดว่า เก็บรักษาง่าย มีรูปร่างและรูปภาพต่างกันไป หลายครั้งที่เธอนำเข็มกลัดมาติดกับกางเกงยีนส์บ้าง กระเป๋าบ้าง เข็มกลัดของเธอมาจากประเทศต่างๆ อย่างเช่น สหรัฐฯ สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย
คนนี้ไฮโซ...โจวหยุนฟะนิยมสะสมรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์โบราณและอะไหล่ ที่แพงที่สุดก็คือรถยนต์โบราณยี่ห้อดัง 4 คัน แต่ละปีค่าซ่อมไม่ใช่ถูกๆ เลย
หลินจื้ออิ่งเริ่มชื่นชอบการถ่ายภาพตั้งแต่ครั้งเรียนที่คณะการแสดงที่วิทยาลัยศิลปะหัวกั่ง เพื่อให้ได้ภาพหลากหลายสไตล์ หลินจื้ออิ่งพอหาเงินได้ เป็นต้องเข้าร้านไปถอยกล้องรุ่นใหม่มาใช้ “เพื่อสนองความชื่นชอบของตัวเอง ต้องเสียเวลาและหยาดเหงื่อไปไม่ใช่น้อย ถึงแม้ว่าเป็นดาราจะไม่ค่อยมีเวลา แต่พอว่างปุ๊บ ผมก็จะไปขอคำชี้แนะเรื่องกล้องกับอาจารย์” ไม่เพียงเท่านั้น หลินจื้ออิ่งยังได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนเปิดสตูดิโอถ่ายภาพชื่อว่า “Always” ด้วย
ไม่น่าเชื่อพระเอกหน้าแบ้ว “ม่อเส้าชง” ชอบสะสมของคิกขุอย่างมิคกี้เม้าส์เอามากๆ ขนาดที่ว่าแม้แต่ชุดนอนยังต้องเป็นลายมิคกี้เม้าส์เลยทีเดียว เจ้าตัวเผย เพราะรู้สึกว่าดวงตากลมโต รอยยิ้ม และหน้าตาของมิคกี้เม้าส์คล้ายคลึงกับตัวเองจึงปลื้มตัวการ์ตูนตัวนี้มาก แถมยังว่า เคยเกือบตั้งชื่อภาษาอังกฤษของตัวเองว่า “มิคกี้” ซะแล้ว
แต่ที่ไม่น่าเชื่อยิ่งกว่าคือ หนุ่มมาดเท่ เจิ้งอีเจี้ยน จะชอบคอลเล็คชั่น “มินนา” (Minna no ta bo) ของซาริโอ “ที่จริงผมไม่รู้หรอกว่าตัวนี้เรียกว่าอะไร รู้แต่ว่าพอเห็นเจ้าตัวนี้อ้าปากกว้าง แล้วรู้สึกว่ามันน่ารักดี ก็เลยเรียกมันว่า “เจ้าปากกว้าง” ต่อมาถึงรู้ว่าคนอื่นก็เรียกมันแบบนี้เหมือนกัน (ในฮ่องกงเรียก มินนา ว่า “大口仔” แปลว่าเจ้าเด็กปากกว้าง)”
เจิ้งอีเจี้ยนเล่าที่มาของความชอบว่า เพื่อนของเขาเคยซื้อถุงผ้าเล็กๆ ลายมินนามาให้ เขาเห็นแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักมาก ก็เลยเริ่มเป็นสาวกตั้งแต่นั้นมา
หลิวเต๋อหัวชอบสะสมรถยนต์รุ่นเจ้าคุณปู่ นาฬิกาข้อมือ และกางเกงยีนส์ ได้ข่าวว่ามีไม่ต่ำกว่าร้อยตัวแล้ว
โจวฮุ่ยหมิ่นมีคอลเล็คชั่นตุ๊กตาหมี ตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 50 ตัวแล้ว
ส่วนซือเจ๊หลิวเจียหลิงชอบสะสมนาฬิกาข้อมือเก่าแก่
เจ้าตำรับฟัดอย่าง เฉินหลง นิยมสะสมชุดถ้วยกาแฟเป็นที่สุด ได้ข่าวว่าเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 600 ชุดแล้ว ส่วนใหญ่ราคาเฉลี่ยก็ประมาณ 100 เหรียญสหรัฐ (ราว 3,500 บาท) แต่ที่แพงที่สุดราคาเหยียบ 300 กว่าเหรียญ (ราว 10,500 บาท)...เป็นของสะสมที่แพงใช่ย่อย
สมบัติในบ้านที่เซี่ยะถิงฟงรักที่สุดก็คือ กีต้าร์ เซี่ยะถิงฟงยอมรับว่าเพราะได้รับแรงสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่ซึ่งเป็นศิลปินทั้งคู่ ทำให้เขาสามารถซื้อหากีต้าร์ที่คนอื่นสะสมมาหลายปีและถึงมีเงินมากแค่ไหนก็ซื้อหาไม่ได้ มาเป็นของตัวเองอย่างง่ายดาย กีต้าร์ตัวแรกของเขาเป็นคุณแม่และน้าๆ หุ้นกันซื้อให้ คาดว่าอีกสัก 2 ปี เซี่ยะถิงฟงก็น่าจะสามารถเปิดนิทรรศการกีต้าร์ได้แล้ว
จางเหว่ยเจี้ยน นิยมสะสม “ของชิ้นแรก”....ตอนเด็กๆ ครอบครัวของจางเหว่ยเจี้ยนไม่ได้มีฐานะร่ำรวย เขาต้องหยุดเรียนกลางคันเพื่อหาเงินช่วยเหลือทางบ้าน รองเท้าแบรนด์เนมคู่แรกสำหรับเขาเป็นสมบัติที่ล้ำค่า ถึงแม้ต่อมาเขาจะเข้าวงการบันเทิง ทำงานหาเงินได้ไม่น้อยแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมทิ้งสมบัติชิ้นแรกที่ตัวเองลำบากลำบนซื้อหามาได้ นอกจากรองเท้าคู่แรกแล้ว กล้องถ่ายรูปตัวแรก โทรศัพท์มือถือเครื่องแรก เพจเจอร์เครื่องแรก ซีดีเพลงอัลบั้มแรกของตัวเอง รวมทั้งไมโครโฟนตัวแรก ก็เป็นของสะสมล้ำค่าของเขา แม้สำหรับคนทั่วไปของเหล่านี้ไร้ราคา แต่สำหรับจางเหว่ยเจี้ยนแล้ว มันเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายกว่าจะมาเป็นจางเหว่ยเจี้ยนในวันนี้
สาวสมัยใหม่อย่างหลีจือชอบซื้อแว่นกันแดด ถ้าเจอที่ชอบเป็นต้องซื้อเก็บ ซื้อมาแต่กลับไม่ค่อยใส่ซะนี่ ส่วนนักร้องเท้าไฟอย่างกัวฟู่เฉิง นี่ก็ชอบสะสมแว่นกันแดดเหมือนกัน เจ้าตัวยอมรับสะสมได้มากกว่า 100 อัน แถมส่วนใหญ่ยังเป็นแบรนด์เนม เจ้าตัวชอบขนาดทำธุรกิจผลิตแว่นกันแดดโดยใช้ชื่อตัวเองเป็นยี่ห้อเลยทีเดียว
เยิ่นต๊ะหัว ได้รับการขนานนามว่าเป็นดาราฮ่องกงคนหนึ่งที่แต่งตัวเก่ง ที่ชอบสะสมที่สุดก็คือ เน็คไท เฉพาะที่บ้านก็มีอยู่ประมาณ 300 กว่าเส้น ส่วนใหญ่เป็นตัวเองซื้อ บางทีเพื่อนๆ และภรรยาก็ซื้อให้บ้าง
ไช่เส้าเฟิน นางเอกลูกหม้อทีวีบี ตั้งแต่เล็กก็ชอบสะสมโปสเตอร์และใบปิดภาพยนตร์ต่างๆ แม้แต่โปสเตอร์โค้กและนักกีฬาฟุตบอลชื่อดังเธอก็ยังเก็บ ไช่เส้าเฟินเล่าว่าเธอชื่นชอบ โรแบโต้ บักโจ้ นักเตะอิตาลี เป็นที่สุด
หลี่หวั่นหัว สาวสวยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ทุกครั้งไม่เคยลืมซื้อเข็มกลัดที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับมาด้วย “ฉันเริ่มชื่นชอบเข็มกลัดที่ระลึกตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อนแล้ว อย่างเข็มกลัดงานกีฬาโอลิมปิกนี่ฉันไม่เคยพลาด เพราะ 4 ปีมีครั้ง”
หลี่หวั่นหัวเล่าถึงสาเหตุที่สะสมเข็มกลัดว่า เก็บรักษาง่าย มีรูปร่างและรูปภาพต่างกันไป หลายครั้งที่เธอนำเข็มกลัดมาติดกับกางเกงยีนส์บ้าง กระเป๋าบ้าง เข็มกลัดของเธอมาจากประเทศต่างๆ อย่างเช่น สหรัฐฯ สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย
คนนี้ไฮโซ...โจวหยุนฟะนิยมสะสมรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์โบราณและอะไหล่ ที่แพงที่สุดก็คือรถยนต์โบราณยี่ห้อดัง 4 คัน แต่ละปีค่าซ่อมไม่ใช่ถูกๆ เลย
หลินจื้ออิ่งเริ่มชื่นชอบการถ่ายภาพตั้งแต่ครั้งเรียนที่คณะการแสดงที่วิทยาลัยศิลปะหัวกั่ง เพื่อให้ได้ภาพหลากหลายสไตล์ หลินจื้ออิ่งพอหาเงินได้ เป็นต้องเข้าร้านไปถอยกล้องรุ่นใหม่มาใช้ “เพื่อสนองความชื่นชอบของตัวเอง ต้องเสียเวลาและหยาดเหงื่อไปไม่ใช่น้อย ถึงแม้ว่าเป็นดาราจะไม่ค่อยมีเวลา แต่พอว่างปุ๊บ ผมก็จะไปขอคำชี้แนะเรื่องกล้องกับอาจารย์” ไม่เพียงเท่านั้น หลินจื้ออิ่งยังได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนเปิดสตูดิโอถ่ายภาพชื่อว่า “Always” ด้วย
ไม่น่าเชื่อพระเอกหน้าแบ้ว “ม่อเส้าชง” ชอบสะสมของคิกขุอย่างมิคกี้เม้าส์เอามากๆ ขนาดที่ว่าแม้แต่ชุดนอนยังต้องเป็นลายมิคกี้เม้าส์เลยทีเดียว เจ้าตัวเผย เพราะรู้สึกว่าดวงตากลมโต รอยยิ้ม และหน้าตาของมิคกี้เม้าส์คล้ายคลึงกับตัวเองจึงปลื้มตัวการ์ตูนตัวนี้มาก แถมยังว่า เคยเกือบตั้งชื่อภาษาอังกฤษของตัวเองว่า “มิคกี้” ซะแล้ว
แต่ที่ไม่น่าเชื่อยิ่งกว่าคือ หนุ่มมาดเท่ เจิ้งอีเจี้ยน จะชอบคอลเล็คชั่น “มินนา” (Minna no ta bo) ของซาริโอ “ที่จริงผมไม่รู้หรอกว่าตัวนี้เรียกว่าอะไร รู้แต่ว่าพอเห็นเจ้าตัวนี้อ้าปากกว้าง แล้วรู้สึกว่ามันน่ารักดี ก็เลยเรียกมันว่า “เจ้าปากกว้าง” ต่อมาถึงรู้ว่าคนอื่นก็เรียกมันแบบนี้เหมือนกัน (ในฮ่องกงเรียก มินนา ว่า “大口仔” แปลว่าเจ้าเด็กปากกว้าง)”
เจิ้งอีเจี้ยนเล่าที่มาของความชอบว่า เพื่อนของเขาเคยซื้อถุงผ้าเล็กๆ ลายมินนามาให้ เขาเห็นแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักมาก ก็เลยเริ่มเป็นสาวกตั้งแต่นั้นมา
หลิวเต๋อหัวชอบสะสมรถยนต์รุ่นเจ้าคุณปู่ นาฬิกาข้อมือ และกางเกงยีนส์ ได้ข่าวว่ามีไม่ต่ำกว่าร้อยตัวแล้ว
โจวฮุ่ยหมิ่นมีคอลเล็คชั่นตุ๊กตาหมี ตอนนี้มีไม่ต่ำกว่า 50 ตัวแล้ว
ส่วนซือเจ๊หลิวเจียหลิงชอบสะสมนาฬิกาข้อมือเก่าแก่
