xs
xsm
sm
md
lg

ขงจื่อฟีเวอร์สะท้อนความหิวโหยทางจิตวิญญาณสังคมจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Notes on reading the Analects
ผู้จัดการออนไลน์--ในงานแจกลายเซ็นนักเขียนที่ร้านหนังสือใหญ่ที่จงกวนชุน แฟนๆงานของอี๋ว์ตัน ถือหนังสือ “เชิงอรรถจากการอ่านหลักคำสอนของขงจื้อ” เบียดเสียดกันเข้ามารอ ขอลายเซ็นจากผู้เขียน อี๋ว์ตันจรดลายเซ็นบนหนังสือของเธอมือเป็นระวิง ถึง 12,600 ลายเซ็น นานเกือบ 10 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 60-70 คน คอยคุมเชิง มิให้เกิดเหตุวุ่นวาย

“Notes on reading the Analects” หรือในชื่อฉบับภาษาจีน“于丹 《伦语》心得” เขียนโดยอี๋วตันอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยชั้นนำในปักกิ่ง Beijing Normal University มียอดขายพุ่งกระฉูด ติดอันดับหนังสือขายดีของประเทศจีนในต้นปีนี้ ด้วยยอดขายมากกว่า 3 ล้านเล่มในเวลา 4 เดือน นอกจากนี้ อี๋ว์ตันยังออกหนังสือบันทึกถึงนักปราชญ์ใหญ่ของจีนอีกเล่ม คือ “Notes on reading The Work of Zhuangzi” หรือในชื่อฉบับภาษาจีน“于丹 《庄子》心得” ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้อ่านอย่างคึกคักไม่แพ้หนังสือเล่มแรกของเธอ

สำหรับ Analects นั้น เป็นคัมภีร์หลักรวบรวมคำสอนของขงจื่อหรือขงจื้อ ปราชญ์ใหญ่ผู้ก่อตั้งสำนักคิดหยู คัมภีร์เล่มนี้ บันทึกการถกเถียงระหว่างปราชญ์โบราณกับบรรดาสานุศิษย์ในยุคขงจื่อ ซึ่งตรงกับช่วง 551-479 ปีก่อนคริสต์ศักราช ส่วน The Work of Zhuangzi เป็นงานเขียนของจวงจื่อปราชญ์ยิ่งใหญ่อีกท่านในสำนักคิดเต๋า ผู้มีชีวิตอยู่ราวยุคสงคราม 400 ปี ก่อนคริสต์ศักราช

“เป็นเรื่องดีที่ได้อ่านคำสอนเหล่านี้ เพราะขณะนี้ ประชาชนกำลังเห็นแก่ตัวกันมากขึ้นทุกวัน ทุกคนมัวแต่หมกหมุ่นเรื่องทำเงิน ไล่กวดกระแสปฏิรูปเศรษฐกิจ ” นักการบัญชีวัย 60 ปีในปักกิ่ง คนหนึ่งกล่าว

สำหรับผู้เขียนอี๋ว์เริ่มมีชื่อเสียงในเดือนตุลาคม หลังจากที่เธอออกรายการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับ Analects ต่อมา เธอได้นำเนื้อหาการบรรยายผ่านรายงานโทรทัศน์นี้ รวบรวมเป็นหนังสือ “Notes on reading the Analects” ที่กลายเป็นหนังสือขายดีของจีนดังกล่าว

กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ว่าปรากฏการณ์ที่ผู้คนที่ให้ความสนใจแก่งานของอี๋ว์ตันอย่างคึกคักนั้น สะท้อนถึงความวิตกกังวลอย่างลึกล้ำเกี่ยวกับความเชื่อและจริยธรรมในสังคม ที่แฝงตัวอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านยุคสมัยไม่กี่ 10 ปีมานี้

“พวกเขาสอนลัทธิมาร์กซิส และเลนินในโรงเรียน เมื่อตอนที่เรียนอยู่ในวิทยาลัย ฉันได้เห็นพวกอาจารย์รับสินบนทุจริต และก็รู้สึกว่า คำขวัญเก่าๆ อย่าง “รับใช้ประชาชน” นั้น ใช้ไม่ได้เสียแล้ว” เทียนน่า คุณครูวัย 25 ปี ที่ซื้อหนังสือ “Notes on reading the Analects” ผ่านอินเทอร์เน็ต

สำหรับกลุ่มคนที่สนใจงานของอี๋ว์ตันนั้น มีหลากหลายวัยหลายประสบการณ์ ตั้งแต่คนวัยหนุ่มสาวอย่างเทียน ที่ผ่านประสบการณ์แห่งยุคปฏิรูปเศรษฐกิจระหว่างทศวรรษที่ 1980 -90 ไปถึงวัยเฒ่าชราอายุ 89 ปี ที่เคยร่วมผจญมรสุมความไม่แน่นอนสมัยเหมาเจ๋อตง ก็ยังดั้นด้นมาจากเมืองเทียนจิน เพื่อมาขอลายเซ็นของอี๋วตัน

ปรัชญาขงจื่อ ที่มุ่งเน้นจริยธรรมส่วนบุคคลและลำดับความสัมพันธ์ระหว่างคนในสังคมอย่างเคร่งครัด ได้รับการรับรองจากยุคราชวงศ์กษัตริย์จักรพรรดิจีนเมื่อกว่า 2,000 ปี ที่ผ่านมา กระทั่งปัจจุบัน ยังคงมีอิทธิพลใหญ่เหนือชาติในเอเชียตะวันออกอื่นๆด้วย

สำหรับในประเทศจีน การปฏิรูปสู่ระบบตลาดในช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 ได้กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างร้อนแรง พร้อมๆกับได้ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แต่ก็ก่อช่องว่างระหว่างกลุ่มคนมั่งคั่งและคนจนอย่างน่าวิตก จนสร้างความตึงเครียดในสังคม

แนวคิดลัทธิคอมมิวนิสต์ที่กระจัดกระจาย และกระแสตะครุบช่วงชิงความมั่งคั่ง กลายเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จเพียงประการเดียว

“ชาติที่เคยให้คุณค่ากับจริยธรรมเหนือสิ่งใดทั้งหมด จู่ๆกลับต้องมาตกอยู่ในสถาการณ์ที่ไร้บรรทัดฐานทางจริยธรรม ซึ่งก่อความวิตกกังวลอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงขึ้นในสังคม” จูต้าเก๋อ อาจารย์ และนักวิจารณ์สังคม แห่งมหาวิทยาลัย ถงจี้ ในเซี่ยงไฮ้ ชี้

ชี้หนังสือของอี๋วตัน ใบสั่งยาห่วยๆ แก้ความป่วยไข้ทางสังคม

ทว่า อีกด้านหนึ่ง ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มนักวิชาการที่มีชื่อเสียงของจีน “กลุ่ม 10 ดร.” จากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างมหาวิทยาลัยชิงหัว มหาวิทยาลัยปักกิ่ง มหาวิทยาลัยนอร์มัลแห่งปักกิ่ง มหาวิทยาลัยจงซัน มหาวิทยาจี้หนัน เป็นต้น ถึงกับออกโรงอัดงานเขียนของอี๋ว์ตันอย่างดุเดือดผ่านเวทีถกเถียงทางอินเทอร์เน็ต ประณามอี๋วตันว่า “ไร้ความคิดอย่างเชิงสิ้น ก่อความเข้าใจผิด จนกระทั่งทำลายแนวคิด”

บ้างกระแสเสียงโจมตีชี้ว่าอี๋ว์ฉกฉวยประโยชน์จากความไม่รู้ไม่เข้าใจวรรณกรรมคลาสสิก และความสำเร็จของเธอก็เป็นเพียงอาการ ที่ไม่มากไปกว่าใบสั่งยารักษาความเจ็บป่วยจากลัทธิการค้าการพาณิชย์อันบ้าคลั่ง และความเสื่อมถอยทางจริยธรรมของจีนในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีกลุ่มผู้ที่ออกโรงมาปรามกระแสวิจารณ์อย่างตกขอบ โดยผู้อ่านคนหนึ่งบอกว่า เขาไม่เห็นว่า อี๋ว์ตันจะไม่มีความรู้ขนาดนั้น และเธอก็ไม่ได้เสนอสิ่งที่ผิด หรือทำลายแนวคิดแต่ออย่างใด

“10 ดร.นั้น ทุกข์ร้อนเรื่องอะไรหรือ พวกเขากลัวว่าความคิดของอี๋ว์ตันจะมาแทนที่ขงจื่อ จวงจื่อหรือ? ผมคิดว่าเธอไม่ได้คิดอย่างนั้น เธอเพียงแต่ต้องการอธิบายแนวคิดของขงจื่อ และจวงจื่อเท่านั้น”

และการที่รายการบรรยายและหนังสือของอี๋ว์ตัน ซึ่งแท้จริงๆจะมีคุณภาพระดับไหนก็ตาม ได้ดังระเบิดในจีน ก็ด้วยเงื่อนไข 2 ประการ ได้แก่ ประการที่หนึ่ง สังคมจีนนั้นอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนในด้านต่างๆ ประชาชนถูกกดดันจากด้านต่างๆมากเกิน ช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนที่ถ่างกว้างมากนั้น ยิ่งทำให้จิตใจผู้คนไม่สงบ ขณะนี้ จีนมีสถิติการฆ่าตัวตายในแต่ละปีถึง 250,000 คน ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันอย่างดี

ประการที่สอง ทัศนะตัดสินคุณค่าของประชาชนในปัจจุบันมีความหลากหลาย อาจกล่าวได้ว่า เกิดความสับสนทางความคิด หรือไม่ก็ว่างเปล่าทางความคิด ผู้คนต้องการการชี้แนะทางแนวคิดที่ทรงคุณค่า แนวคิดของอี๋วตันนั้น ไม่ได้จัดอยู่ในระดับดีที่สุด แต่ได้เสนอออกมาในจังหวะเวลาที่เหมาะเจาะ ทำให้ผู้คนได้รับลาภทางจิตวิญญาณ ไม่ผิดอะไรกับคนที่กำลังกระหายน้ำขาดใจตายอยู่รอมร่อ และได้พบกับน้ำพุ ได้คลายอาการกระหายได้บ้างไม่มากก็น้อย.
กำลังโหลดความคิดเห็น