ไชน่าเดลี่ - ช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ศิลปวัฒนธรรมการแสดงอุปรากรจีน หรือ งิ้วจีนโบราณสูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 100 แบบ โจวเหอผิง รองรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของจีน กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยช่วงศตวรรษที่ 1950 จีน มีงิ้วกว่า 368 รูปแบบ, ต้นศตวรรษที่ 1980 เหลือ 317 แบบ และเมื่อสิ้นปี 2005 เหลือเพียง 267 แบบ

“เมื่อเราพิจารณาถึงความจริงที่ว่า มีงิ้วจำนวนมากที่สูญเสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมของตนเองไปโดยผสมผสานตัวเองเข้ากับวัฒนธรรมกระแสหลัก ดังนั้น จำนวนรูปแบบงิ้วที่สูญพันธุ์อาจมีมากกว่าที่ประเมินไว้” หวังคุ่ย ผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยอุปรากร ของบัณฑิตยสถานด้านอักษรศาสตร์ กล่าว
“การอนุรักษ์รูปแบบงิ้วท้องถิ่นต่างๆ เป็นหนึ่งในความพยายามหลักของทางการจีนในการปกป้องมรดกวัฒนธรรมวิถีชนของชาติ” โจวเหอผิง กล่าวในงานแถลงข่าวก่อนเทศกาลวันมรดกวัฒนธรรมครั้งที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ โดยคณะรัฐมนตรีจัดให้มีเทศกาลดังกล่าวขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปกป้องมรดกวัฒนธรรมของชาติ และสร้างสังคมที่ปรองดอง

ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้วจีนได้เพิ่มรายชื่องิ้ว 110 รูปแบบ เข้าไปในรายการมรดกวัฒนธรรมวิถีชนจากทั้งสิ้น 518 รายการ
“งิ้วเหล่านี้ส่วนใหญ่กำเนิดจากพื้นที่เล็กๆ และกำลังถูกวัฒนธรรมป็อปที่รุกแพร่กระจายอย่างดุเดือดกลบกลืนอย่างรวดเร็ว ขนาดงิ้วที่ได้รับความนิยมมาก เช่น งิ้วหลัวกู๋ หรืองิ้วฆ้อง และกลองของมณฑลซันซีทางภาคเหนือของจีน หรืองิ้วซือผิง ของมณฑลฝูเจี้ยน ทางภาคตะวันออกของจีน ก็มีคนนำไปแสดงน้อยมาก” หวังกล่าว
งิ้วพื้นเมืองบางแห่งเอาตัวรอดด้วยการผสมผสานตัวเองเข้ากับวัฒนธรรมกระแสหลัก เช่น งิ้วผูเสียนอายุนับพันปีของมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรูปแบบการแสดง ที่นักแสดงจะเคลื่อนไหวเหมือนหุ่นกระบอก แต่ในตอนต้นศตวรรษที่ 20 งิ้วผูเสียนเริ่มเลียนแบบงิ้วปักกิ่ง และสูญเสียรูปแบบดั้งเดิมของตนจนหมดสิ้นเมื่อสิ้นสุดศตวรรษที่ 20

“เพื่อปกป้องมรดกวัฒนธรรมวิถีชน การให้เงินทุนแก่ศิลปินพื้นบ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะศิลปินพื้นบ้านเหล่านี้ยังคงฝึกศิลปะต่างๆ ที่ใกล้สูญพันธุ์อยู่ ดังนั้น เขาจึงสามารถถ่ายทอดให้นักเรียนวัยหนุ่มสาวได้ ซึ่งทางกระทรวงจะให้เงินทุนแก่ศิลปินที่มีชื่อของจีน 138 รายก่อนสิ้นปีนี้” โจวกล่าว
ทั้งนี้ งิ้วจีนเป็นศิลปะการแสดงที่รวมเอาศาสตร์หลายแขนงไว้ด้วยกัน โดยเอาการร้อง, ท่อง, เคลื่อนไหว, ต่อสู้ มาเป็นพื้นฐานในการแสดง นอกจากนี้ ยังรวมเอาความงดงามของท่วงทำนอง, ดนตรี, การแต่งหน้า และอาศัยท่วงทำนองที่พิเศษมาหลอมรวมศิลปะเหล่านี้ไว้ด้วยกัน เดิมประเทศจีนมีงิ้วราว 300 กว่าประเภท ส่วนใหญ่จะเป็นงิ้วท้องถิ่น ส่วนงิ้วระดับประเทศ เช่น งิ้วปักกิ่ง, งิ้วเส้าซิง, งิ้วเหอหนัน และงิ้วกวางตุ้ง โดยงิ้วปักกิ่งเป็นงิ้วที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
โดยช่วงศตวรรษที่ 1950 จีน มีงิ้วกว่า 368 รูปแบบ, ต้นศตวรรษที่ 1980 เหลือ 317 แบบ และเมื่อสิ้นปี 2005 เหลือเพียง 267 แบบ
“เมื่อเราพิจารณาถึงความจริงที่ว่า มีงิ้วจำนวนมากที่สูญเสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมของตนเองไปโดยผสมผสานตัวเองเข้ากับวัฒนธรรมกระแสหลัก ดังนั้น จำนวนรูปแบบงิ้วที่สูญพันธุ์อาจมีมากกว่าที่ประเมินไว้” หวังคุ่ย ผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยอุปรากร ของบัณฑิตยสถานด้านอักษรศาสตร์ กล่าว
“การอนุรักษ์รูปแบบงิ้วท้องถิ่นต่างๆ เป็นหนึ่งในความพยายามหลักของทางการจีนในการปกป้องมรดกวัฒนธรรมวิถีชนของชาติ” โจวเหอผิง กล่าวในงานแถลงข่าวก่อนเทศกาลวันมรดกวัฒนธรรมครั้งที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ โดยคณะรัฐมนตรีจัดให้มีเทศกาลดังกล่าวขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปกป้องมรดกวัฒนธรรมของชาติ และสร้างสังคมที่ปรองดอง
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้วจีนได้เพิ่มรายชื่องิ้ว 110 รูปแบบ เข้าไปในรายการมรดกวัฒนธรรมวิถีชนจากทั้งสิ้น 518 รายการ
“งิ้วเหล่านี้ส่วนใหญ่กำเนิดจากพื้นที่เล็กๆ และกำลังถูกวัฒนธรรมป็อปที่รุกแพร่กระจายอย่างดุเดือดกลบกลืนอย่างรวดเร็ว ขนาดงิ้วที่ได้รับความนิยมมาก เช่น งิ้วหลัวกู๋ หรืองิ้วฆ้อง และกลองของมณฑลซันซีทางภาคเหนือของจีน หรืองิ้วซือผิง ของมณฑลฝูเจี้ยน ทางภาคตะวันออกของจีน ก็มีคนนำไปแสดงน้อยมาก” หวังกล่าว
งิ้วพื้นเมืองบางแห่งเอาตัวรอดด้วยการผสมผสานตัวเองเข้ากับวัฒนธรรมกระแสหลัก เช่น งิ้วผูเสียนอายุนับพันปีของมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรูปแบบการแสดง ที่นักแสดงจะเคลื่อนไหวเหมือนหุ่นกระบอก แต่ในตอนต้นศตวรรษที่ 20 งิ้วผูเสียนเริ่มเลียนแบบงิ้วปักกิ่ง และสูญเสียรูปแบบดั้งเดิมของตนจนหมดสิ้นเมื่อสิ้นสุดศตวรรษที่ 20
“เพื่อปกป้องมรดกวัฒนธรรมวิถีชน การให้เงินทุนแก่ศิลปินพื้นบ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะศิลปินพื้นบ้านเหล่านี้ยังคงฝึกศิลปะต่างๆ ที่ใกล้สูญพันธุ์อยู่ ดังนั้น เขาจึงสามารถถ่ายทอดให้นักเรียนวัยหนุ่มสาวได้ ซึ่งทางกระทรวงจะให้เงินทุนแก่ศิลปินที่มีชื่อของจีน 138 รายก่อนสิ้นปีนี้” โจวกล่าว
ทั้งนี้ งิ้วจีนเป็นศิลปะการแสดงที่รวมเอาศาสตร์หลายแขนงไว้ด้วยกัน โดยเอาการร้อง, ท่อง, เคลื่อนไหว, ต่อสู้ มาเป็นพื้นฐานในการแสดง นอกจากนี้ ยังรวมเอาความงดงามของท่วงทำนอง, ดนตรี, การแต่งหน้า และอาศัยท่วงทำนองที่พิเศษมาหลอมรวมศิลปะเหล่านี้ไว้ด้วยกัน เดิมประเทศจีนมีงิ้วราว 300 กว่าประเภท ส่วนใหญ่จะเป็นงิ้วท้องถิ่น ส่วนงิ้วระดับประเทศ เช่น งิ้วปักกิ่ง, งิ้วเส้าซิง, งิ้วเหอหนัน และงิ้วกวางตุ้ง โดยงิ้วปักกิ่งเป็นงิ้วที่มีชื่อเสียงมากที่สุด