โซหูเน็ต—เส้นทางการเป็นนักร้องของเจย์ โจว กว่าจะโด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วเอเชียนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการ ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี จากเด็กหนุ่มที่ร้องเพลงในร้านอาหาร เงินเดือนไม่กี่พันหยวน กลายเป็นนักร้องชื่อดังที่ร้องเพลงอัลบั้มหนึ่งหรือถ่ายโฆษณาสัก 2 ชิ้นก็ได้เงินเป็นสิบล้านแล้ว และความสำเร็จในชีวิตจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังจะไม่ใช่แม่ของเขา หญิงเหล็กที่มีนามว่า “เย่ฮุ่ยเหม่ย”
จากความสำเร็จของเพลง “ทิงม่ามาเตอฮว่า” (เชื่อฟังคำสอนของแม่) ที่มีเนื้อหาเล่าถึงชีวิตในวัยเด็กกับความรักความผูกพันระหว่างแม่และเขา ทำให้แฟนเพลงรับรู้ว่า ความสำเร็จในวันนี้ของเจย์ โจวนั้นไม่ใช่ง่ายๆ เลย เมื่อเร็วๆ นี้นักข่าวได้มีโอกาสพบสองคนแม่ลูก ในระหว่างที่คุณแม่เย่ฮุ่ยเหม่ยมาเยี่ยมลูกชายถึงกองถ่ายที่เซี่ยงไฮ้ ทำให้มีโอกาสได้พูดคุยกับทั้งสองคน
โจวเจี๋ยหลุน says: แม่บังคับให้ผมรักดนตรี
เจย์สัมผัสเปียโนครั้งแรกเมื่ออายุ 4 ขวบ โดยแม่บังคับให้เขาเรียน แรกเริ่มเขาไม่ค่อยมีความสุขนัก เพราะอาจารย์ที่สอนนั้นดุมาก ทุกวันหลังจากเรียนตามปกติแล้ว ยังต้องนั่งเรียนเปียโนอีกวันละ 2 ชั่วโมง ขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ ต่างก็ไปเล่นสนุกกัน
“ผมรู้ว่าการที่แม่ให้ผมเรียนเปียโนนั้น ท่านก็ลำบากมากเช่นกัน ท่านจะต้องให้ผมเล่นให้ท่านฟัง ไหนเลยผมจะกล้าขี้เกียจได้”
เพลงแรกที่เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงให้กับเจย์ก็คือเพลง “เหวิ่นเปี๋ย” (จูบลา) ของจางเสียว์โหย่ว ตอนนั้นเจย์อายุเพียง 14 ปีเท่านั้น หลังจากเจย์ได้เข้าร่วมคณะร้องเพลงประสานเสียง เขาได้พบรักกับสาวคนหนึ่ง
“ตอนนั้นผมแต่งเพลงเป็นเพลงแรกคือ “เทียนฉางตี้จิ่ว” (ชั่วฟ้าดินสลาย) เพื่อมอบให้เธอ”
นับตั้งแต่เข้ามาในวงการบันเทิง เจย์ก็มีข่าวคราวความรักกุ๊กกิ๊กกับสาวในวงการบันเทิงอยู่เหมือนกัน จนตอนนี้ยอมรับว่าโสดสนิท เขาต้องการมุงานอย่างเดียวและยังไม่พร้อมจะรักกับใคร ด้านคุณแม่เย่ฮุ่ยเหม่ยล่ะ คิดเห็นอย่างไรกับการคบหาแฟนของลูกชายคนนี้
“แม่ผมท่านเป็นคนหัวสมัยใหม่มาก ไม่ค่อยจะมาก้าวก่ายเรื่องแบบนี้กับผม เรื่องเงื่อนไขที่ผมจะคบหาใครนั้น ท่านก็ไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายด้วยเช่นกัน”
เย่ฮุ่ยเหม่ย says: ไม่ต้องการลูกสะใภ้เป็นดารา
เย่ฮุ่ยเหม่ยมีความภาคภูมิใจกับลูกคนนี้มาก เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขว่า การที่เธอให้กำเนิดลูกชายคนนี้ เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต หลายครั้งที่เจย์ไปทำงานต่างสถานที่ เธอก็จะตามไปดูแลลูกชายคนนี้เสมอๆ เพราะเห็นเวลาเจย์ทำงานแล้ว เธอรู้สึกเป็นห่วงเขามาก
“เขาไม่ชอบที่จะให้ฉันอยู่ที่ไต้หวันคนเดียว ดังนั้นจึงมักจะพาฉันไปไหนมาไหนด้วย อย่างครั้งนี้ที่มาเซี่ยงไฮ้ ฉันก็อยู่เป็นเพื่อนเขา 1 สัปดาห์แล้ว”
กับเรื่องความรักของลูกชาย เธอก็เหมือนแม่ทั่วไปที่อยากจะเห็นลูกมีความสุข ได้พบกับรักแท้เสียที
“อย่าคิดว่าฉันเรื่องมากกับเขานะ ฉันเป็นห่วงเขาอยู่ตลอดว่าจะหาภรรยาที่ดีไม่ได้ ตอนเด็กเจย์เป็นเด็กที่ขาดความรักจากพ่อ มีบ้างที่เขาจะมีความรู้สึกกลัวกับเรื่องความรัก ฉันก็กำลังช่วยเขาหาแฟนอยู่ ข้างกายเขามีผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขาไม่น้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเลือกอย่างไร เหมือนเจ้าลูกชายคนนี้จะมองการแต่งงานในแง่ลบอยู่มาก”
เมื่อถามถึงสเปคของสะใภ้ในอนาคต เย่ฮุ่ยเหม่ยกล่าวว่า “เพียงแค่ลูกชายฉันชอบก็พอแล้ว” เธอยังเสริมต่ออีกว่า
“เรื่องความรักก็ให้เขาเป็นคนเลือกเอง แต่คนที่จะแต่งงานด้วย ฉันก็ยังจะช่วยเขาดูบ้าง เงื่อนไขที่สำคัญเลยก็คือต้องเป็นผู้หญิงที่กตัญญู นอกจากนี้ก็ควรจะช่วยแบ่งเบาความกดดันจากงานของเขาได้ ช่วยจัดการดูแลเรื่องการทำงานเขาได้ก็จะดี เจย์ยังไม่ค่อยคิดนักเวลาเลือกคู่ เมื่อรู้สึกชอบความรู้สึกก็จะพาไป ขอเพียงให้ผู้หญิงคนนั้นดีกับเขาก็พอ แต่ฉันคิดมากไปกว่านั้น ตอนนี้เขามีชื่อเสียง ความกดดันนับวันก็จะมากตาม ฉันแก่แล้วนะ ไม่สามารถดูแลเขาได้ทุกวัน ผู้หญิงที่เจย์ต้องการ ต้องไม่ใช่คนในวงการแน่นอน เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ นี่แหละดี ที่สำคัญจะได้มีเวลาช่วยเขาและดูแลเขาได้ เรื่องอายุไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย”.