ไชน่าเดลี่-ในสมัยโบราณ จีนมีสิ่งประดิษฐ์สำคัญ 4 อย่างซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนอารยธรรมจีนและเป็นการสร้างผลงานทางประวัติศาสตร์ให้กับทั่วโลกได้แก่ เข็มทิศ,ดินปืน,การทำกระดาษ และการพิมพ์
แต่ในจีนยุคใหม่ ความภูมิใจกับอดีตความสำเร็จเมื่อ 100 ปีเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเพราะจีนล้าหลังชาติอื่นทั้งด้านนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันสิ่งประดิษฐ์กว่างตง(จีเอไอ) และเว็บไซต์ข่าวชื่อดังอย่างหนันฟังเดลี่,เป่ยจิงนิวส์ และsohu.com ได้ร่วมมือกันจัดทำผลสำรวจทางอินเทอร์เน็ตในหัวข้อ “สี่สุดยอดประดิษฐกรรมจีนยุคใหม่” โดยให้เลือกลงคะแนนเสียงจากสิ่งประดิษฐ์กว่า 100 รายการ
ประเด็นดังกล่าวมีผู้เข้ามาถกกันถึง 100,000 คนและผู้ลงคะแนนเสียงอีก 51,422 คน สุดยอดสิ่งประดิษฐ์ 4 อันดับแรกที่ได้รับเลือกคือข้าวพันธุ์ผสม,การเรียงพิมพ์ตัวอักษรจีนด้วยระบบเลเซอร์,การสังเคราะห์อินซูลินจากวัว และการค้นพบอาทีมีเธอร์ ยารักษาโรคมาลาเรียซึ่งทำจากสมุนไพรจีนชื่อชิงเฮา
“การลงคะแนนจะใช้เกณฑ์สำคัญ 3 ประการคือความคิดริเริ่ม,อิทธิพลต่อโลก และผลประโยชน์ต่อสังคม” โจวเจ้าหลง รองผู้อำนวยการของสถาบันสิ่งประดิษฐ์กว่างตงกล่าว
“เราจริงจังกับการลงคะแนนเสียงครั้งนี้มาก ได้เวลาที่จะเปลี่ยนจุดสนใจด้านวิทยาศาสตร์ของจีนแล้ว จากที่เคยคิดว่าในอดีตเราประสบผลสำเร็จอะไรบ้าง มาเป็นปัจจุบันเราทำอะไรอยู่” หวังอี๋ว์เซิง อดีตผู้อำนวยการของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจีนกล่าว
ข้าวพันธุ์ผสม พัฒนาโดย หยวนหลงผิงนักปฐพีวิทยาชื่อดังในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 ให้ผลผลิตสูงถึง 12,000 กิโลกรัมต่อไร่ มีการนำไปเพาะปลูกอย่างแพร่หลายทั่วจีน ช่วยลดการขาดแคลนอาหารในจีนและอีกหลายประเทศในเอเชีย
ด้านการเรียงพิมพ์ตัวอักษรจีนด้วยระบบเลเซอร์ ได้ปฏิรูปการพิมพ์ของจีนจากการพิมพ์แบบเลตเตอร์เพรส(การพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์พื้นนูน)ไปเป็นการพิมพ์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งคิดค้นขึ้นโดยหวังเซวียน อดีตศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยปักกิ่งในช่วงทศวรรษที่ 1980 นับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ด้านการพิมพ์ของจีนชิ้นที่สอง หลังจากปี่เซิงช่างโลหะในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ(ค.ศ. 960-1127)ได้คิดค้นวิธีพิมพ์โดยใช้ตัวพิมพ์ที่ทำจากดินเหนียวเรียงเป็นตัวๆ หรือ movable clay type และเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการการพิมพ์ในยุคนั้น
เมื่อปี 1966 จีนประสบผลสำเร็จสามารถสังเคราะห์อินซูลินจากวัว เป็นความสำเร็จครั้งแรกของมนุษย์ และนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญยิ่งของวิทยาศาสตร์การดำรงชีวิต(life science) การดำเนินงานดังกล่าวนำโดยหวังอิงไล่ อดีตนักวิชาการ
ปลายทศวรรษที่ 1970 จีนสามารถคิดค้นอาทีมีเธอร์ ยารักษาโรคมาลาเรียได้สำเร็จ ในช่วงสิ้นปี 2005 อาทีมีเธอร์นับเป็นตัวยาสำคัญที่สุดที่ใช้ต่อสู้กับโรคมาลาเรียในประเทศในเอเชียและแอฟริกากว่า 26 ประเทศ.