จากสาวโนเนม อาหมวยตาเม็ดก๋วยจี๊ “หลี่มั่น” กลับกลายเป็นสาวฮอตขึ้นมาเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อผู้กำกับคิวทอง “จางอี้โหมว” เกิดถูกชะตาจีบมาลงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทุนสร้าง 360 ล้าน เรื่อง “ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง” (Curse of Golden Flower) พร้อมกับอวดเนินเนื้อประชัน “อึ๋ม” กับ “ก่งลี่” ดาราสาวรุ่นพี่อย่างสุดฤทธิ์สุดเดช
ตั้งแต่หนังเริ่มเดินกล้อง ทุกคนพุ่งความสนใจไปที่ “นางเอกเลือดใหม่” ที่จางอี้โหมวจะปั้นคนต่อไปหลังจากเคยดันให้ก่งลี่ และจางจื่ออี๋ โด่งดังข้ามทวีปมาแล้ว ในงานแถลงข่าวเปิดกล้องหนัง “ศึกโค่นบัลลังก์ฯ” จางเหว่ยผิง มือขวาของจางอี้โหมวเป็นตัวแทนนำภาพถ่ายของหลี่มั่นออกมาเปิดเผยต่อธารกำนัล รูปของหลี่มั่นถูกโพสต์ต่อลงกระทู้ต่างๆ อย่างกว้างขวาง ผู้ใช้เน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น บ้างว่าเธอหน้าตาคล้ายดาราสาว “เถาหง” บ้างว่าคล้าย “ต้าเอส”
แต่ใครบ้างจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของสาวหมวยคนนี้.......
อาหมวยหลี่มั่น (李曼) คือชื่อของเธอ ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปี 1988 ปีนี้อายุ 19 ปี สูง 170 ซม. พ่อเป็นนักธุรกิจ แม่ทำงานที่บริษัทน้ำดื่ม เธอเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว
ด้านการศึกษา หลี่มั่นเรียนจบจากโรงเรียนสอนศิลปะการเต้นรำที่เมืองอันซัน เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2005 โดยเธอร่ำเรียนเต้นระบำพื้นบ้านมาถึง 6 ปีเลยทีเดียว และปัจจุบันเธอเข้าศึกษาต่อที่ Central Academy of Drama ถือเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับก่งลี่ และจางจื่ออี๋ โดยภาพยนตร์เรื่องศึกโค่นบัลลังก์ฯ นับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของเธอก็ว่าได้
อาจารย์ที่โรงเรียนเก่าของหลี่มั่นเผยความรู้สึกว่า “ที่ผ่านมาคะแนนเรียนของหลี่มั่นค่อนข้างดี เมื่อปี 2005 เด็กโรงเรียนเราสอบเข้า Central Academy of Drama ได้ 15 คน หลี่มั่นเป็นหนึ่งในนั้น การที่เธอได้รับเลือกให้เป็นนางเอกคนใหม่ของจางอี้โหมวนั้น นับเป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียนเรา”
หลี่มั่นพูดถึงประสบการณ์ช่วงคัดตัวแสดงว่า หลังผ่านการสัมภาษณ์ 2 รอบ ในที่สุดรองผู้กำกับก็พาเธอไปพบกับจางอี้โหมว หลี่มั่นเล่าว่า “นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบผู้กำกับจาง ตอนแรกฉันยังไม่รู้ว่าใครคือจางอี้โหมว ในห้องทำงานมีผู้ชายอยู่หลายคน ทุกคนมองมาที่ฉัน จนกระทั่งรุ่นพี่พูดขึ้นว่า “หลี่มั่นมาแล้ว” ผู้กำกับจางถึงพูดตอบรับขึ้น ตอนนั้นเองฉันถึงได้ทราบว่าที่แท้คนที่นั่งหันหลังให้ก็คือจางอี้โหมวนั่นเอง”
นักข่าวถามความรู้สึกของหลี่มั่นเมื่อพบจางอี้โหมวครั้งแรกว่าตื่นเต้นหรือไม่ เธอตอบว่า “ครั้งแรกที่เจอ เขาอารมณ์ดีหน้าตายิ้มแย้ม คุณก็รู้ว่าคนเราพอยิ้มแล้ว ก็ทำให้คนอื่นไม่รู้สึกเครียด ฉันแค่ตื่นเต้นว่าจะเรียกเขาว่าอย่างไรดี เรียก “จางอี้โหมว” ก็ดูไม่ค่อยให้ความเคารพเท่าไร ครั้นจะเรียก “ผู้กำกับจาง” ฉันก็ไม่ได้สนิทสนมกับเขาขนาดนั้น สุดท้ายฉันก็เลือกเรียกเขาว่า “อาจารย์” "
“ส่วนใหญ่ผู้กำกับจางไม่ค่อยได้พูดอะไรมาก แค่ถามคำถามพื้นๆ อย่างอายุเท่าไร เกิดที่ไหน ตอนนั้นฉันตอบคำถามเหมือนหุ่นยนต์เลย ถามอะไรก็ตอบอย่างนั้น ไม่ได้พูดอะไรมาก” หลังจากนั้น จางอี้โหมวได้ลองเทสต์เธอด้วยการให้ลองแสดงบทที่คล้ายๆ กับบทบาทหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง “จูโด้ เธอผิดหรือไม่ผิด” ซึ่งฉากนี้ก็เป็นการทดสอบความสามารถในการร้องไห้ของเธอด้วย เท่าที่เธอจำได้ วันนั้นน้ำตาออกมาแค่คลอๆ เบ้าเท่านั้น
หลังจากคัดเลือกนักแสดงอยู่นาน ในที่สุดเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว หลี่มั่นก็ได้รับเลือกให้แสดงบทนางกำนัลสาว “เจี่ยงฉาน” ในศึกโค่นบัลลังก์ฯ ซึ่งสาวขี้อาย หลี่มั่น ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า จริงๆ เธอรู้สึกว่าตัวเองได้รับเลือกก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่ผู้กำกับไม่ได้เอ่ยปากเท่านั้น
หลี่มั่นยังพูดถึงจางอี้โหมวว่า “ระหว่างทำงานเขาค่อนข้างจริงจังมาก คนอื่นเหนื่อยแล้ว เขายังไม่เหนื่อยเลย เหมือนซูเปอร์แมน”
ขณะที่จางเหว่ยผิง มือขวาของจางอี้โหมว กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกหลี่มั่นว่า “ตอนที่เราให้เธอทดลองแสดงนั้นก็รู้สึกว่าเธอใช้ได้ ไม่ว่าจะมองในแง่การแสดงหรืออายุก็ตาม เรารู้สึกพอใจเธอมากที่สุด ในภาพยนตร์เธอรับบทเป็นเด็กสาวอายุราว 15-17 ปี ซึ่งในตอนนั้นเธอก็อายุ 17 ปีพอดี แถมรูปร่างของเธอค่อนข้างดี เพราะสูงถึง 170 ซม. จางอี้โหมวถูกใจเธอตั้งแต่แรก คนอื่นๆ เองก็เห็นพ้องต้องกันว่าเธอเหมาะสมกับบทบาทในเรื่อง อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ นิสัยของเธอที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์"
ดูจากรูปร่างหน้าตาของหลี่มั่นที่ไม่ค่อยละม้ายคล้ายนางเอกคนก่อนๆ ของจางอี้โหมวแล้ว ทำให้หลายคนมองว่า รสนิยมของจางเริ่มเปลี่ยนไปเสียแล้ว