ไชน่านิวส์05/02/07 - QQ โปรแกรม Instant Messenger ชื่อดังของจีน เจอปัญหา ไม่สามารถใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows Vista ได้ กวนกระแสเคลือบแคลง ไมโครซอฟต์กำลังเดินหมากส่ง MSN บุกชิงตลาด IM ในแดนมังกรหรือไม่
Windows Vista เวอร์ชั่นเต็มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ QQ โปรแกรม Instant Messenger (IM) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการสื่อสารและส่งข้อความในระหว่างเพื่อนหรือกลุ่มคนที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต รายใหญ่สุดของจีน กลับไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows รุ่นล่าสุดของไมโครซอฟต์ได้ ขณะที่โปรแกรม IM อื่นๆ อย่าง UC ของเว็บไซต์ซีน่า และ POPO ของเน็ตอีส กลับสามารถใช้งานได้
ล่าสุดผู้ใช้โปรแกรม QQ ต่างแสดงความไม่พอใจต่อโปรดักส์ใหม่ของไมโครซอฟต์ตามกระทู้ในเว็บไซต์ต่างๆ ขณะเดียวกันแหล่งข่าววงในเคลือบแคลงว่า การที่ QQ ไม่สามารถใช้กับ Vista ได้นั้น เป็นเพราะไมโครซอฟต์ซ่อนเงื่อน หวังส่งโปรแกรม MSN ในเครือ ซึ่งเป็นโปรแกรมประเภทเดียวกับ QQ ลงทำศึกแย่งตลาด IM หรือไม่ โดยจากการสำรวจของ เน็ตอีส เว็บไซต์ชื่อดังของแดนมังกรชี้ให้เห็นว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 71% เชื่อว่า ปัญหาข้างต้นเป็นความจงใจของไมโครซอฟต์ที่ต้องการกดดัน QQ
ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบ อาทิ เวลาป้อนพาสเวิร์ดใส่ในโปรแกรม QQ จะปรากฏ Blue Screen หรือ หน้าจอสีฟ้า ซึ่งเป็นสัญญาณบอกเหตุว่า คอมพิวเตอร์มีปัญหา บางครั้งเวลาเข้าอาจไม่มีปัญหา แต่ไม่สามารถเซฟ Username และ Password ได้ หรือบางครั้งไม่สามารถ Sign in เข้าโปรแกรมได้เลยเป็นเวลานาน แต่เมื่อกลับมาใช้ Windows XP ก็สามารถใช้ QQ ได้ตามปกติ
วิศวกรซอฟต์แวร์รายหนึ่งอธิบายเสริมว่า ในการออกแบบ Vista นั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานภายในมากมาย ดังนั้นจึงทำให้เกิดปัญหาโปรแกรมหลายตัวไม่ซัปพอร์ต ผู้ผลิตจำเป็นต้องมีการปรับปรุงโปรแกรมใหม่ให้ซัปพอร์ตกับ Windows Vista
พร้อมกล่าวว่า อะไรที่ยิ่งซับซ้อน ยิ่งควบคุมจัดการได้ยาก QQ นั้นเป็นโปรแกรม IM ที่มีความซับซ้อนยิ่งกว่า MSN POPO และ UC มากนัก การจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงยิ่งลำบากกว่าโปรแกรมอื่น ทำให้กระบวนการปรับแก้ให้โปรแกรมสามารถซัปพอร์ตกับ Vista ได้ ยิ่งกินเวลานาน
แหล่งข่าววงในบางรายเชื่อว่า MSN กำลังประกาศศึกชิงส่วนแบ่งตลาดจาก QQ เพราะแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา MSN จะสามารถสร้างฐานลูกค้ากลุ่มพนักงานบริษัทได้เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดแซง QQ ซึ่งปัจจุบันคาดว่า มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตถึง 2 ใน 3 ในจีนใช้อยู่ “หากในอนาคตยังไม่สามารถใช้ QQ ในระบบปฏิบัติการ Windows Vista ได้อีก QQ อาจเผชิญหน้ากับก้างชิ้นโตในการขยับขยายตลาด”
ต่อปัญหาข้างต้น ทางเทนเซนต์ บริษัทต้นสังกัดของ QQ ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นแต่อย่างใด แต่บริษัทเผยว่า หากตรวจสอบได้ข้อเท็จจริงอย่างไรจะให้คำตอบในภายหลัง