xs
xsm
sm
md
lg

ตะวันออกที่ 'ซานตง' (2)

เผยแพร่:   โดย: วริษฐ์ ลิ้มทองกุล


“เหลือตั๋วนั่งเบาะแข็ง 2 ตั๋วยืน 2 จะเอาไม่เอา?” พนักงานขายตั๋วรถไฟพูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำ

มาซานตงคราวนี้พวกเราอาจไม่ได้พกโชคมาด้วยมากนัก หลังลงจากเจ้าม้าเหล็กสาย K45 เหยียบซานตงได้ไม่ถึง 10 นาที พวกเราก็ต้องมารับรู้ว่าอีก 3 วันข้างหน้าบนเส้นทางเที่ยวกลับพวกเรา 2 ใน 4 คนต้องทนยืนขาแข็งกลับปักกิ่งเพราะตั๋วนั่งขายหมดเสียแล้ว ...

พอก้าวเท้าออกจากสถานี สายตาของผมก็เริ่มสอดส่ายหาสาวซานตงพิมพ์นิยม อย่าง 'ก่งลี่'

ปัจจุบันแม้อายุอานามของก่งลี่ (巩俐) จะเลยเลขสี่ไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงถูกยกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดดาราสาวชาวจีน ที่ในช่วง 20 กว่าปีมานี้ความสวยของเธอนั้น กลายเป็นต้นแบบของความสวยคลาสสิก อย่างยากที่จะหาดาราจีนรุ่นหลังผู้ใดจะมาเปรียบเทียบได้

ถึงจะลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรกที่เมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง แต่วัยเด็กของก่งลี่ เธอเติบโตขึ้นในเมืองแห่งนี้ ... จี่หนาน

จี่หนาน (济南) คือเมืองเอกแห่งมณฑลซานตง เป็นจุดศูนย์กลางของการคมนาคมของมณฑลต่อไปยังเมืองอื่นๆ คณะของผมก็เช่นกัน เราวางแผนไว้ว่าจะแวะพักผ่อนที่นี่หนึ่งคืน หลังจากเที่ยวชมเมืองแห่งนี้แบบคร่าวๆ แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะจับรถตรงไปยังชีว์ฟู่ ถิ่นของขงจื๊อ

เนื่องด้วยทิศเหนือของเมืองแห่งนี้ติดกับ “มารดาผู้ให้กำเนิดชนชาติจีน” แม่น้ำฮวงโห ทิศใต้ติดกับ “ยอดภูแห่งแผ่นดินจีน” ไท่ซาน ภูมิประเทศที่ลาดเอียงดังกล่าวทำให้จี่หนานเปรียบเสมือนรอยต่อทางวัฒนธรรมที่เชื่อมเอา ‘ฮวงโห’ กับ ‘ไท่ซาน’ เข้าไว้ด้วยกัน

นาม ‘จี่หนาน’ นั้นถูกตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อราว 2,100 ปีก่อนในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตกตามหลักฐานใน “บันทึกประวัติศาสตร์ (史记)” หนังสือประวัติศาสตร์เล่มสำคัญที่สุดเล่มหนึ่งของจีน โดยบันทึกประวัติศาสตร์ระบุว่าสาเหตุที่บริเวณนี้ถูกเรียก ‘จี่หนาน’ ก็เนื่องด้วยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำจี่ (济水) นี่เอง ทั้งนี้ในเวลาต่อมาเมืองจี่หนานก็ได้ชื่อเล่นเพิ่มว่าเป็น “เมืองน้ำพุ (泉城)”

สาเหตุที่จี่หนานได้รับชื่อว่าเป็นเมืองน้ำพุ ก็อันเนื่องมาจากตั้งแต่โบราณกาลในเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยน้ำพุนับเป็นร้อยๆ แห่ง จนโบราณมีคำร่ำลือกันว่า “ในเมืองนี้ทุกหลังคาเรือนล้วนแล้วแต่มีน้ำพุอยู่ในบ้าน” ทั้งนี้แหล่งที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้นมีอยู่ 4 แห่งประกอบไปด้วย น้ำพุเป้าทู (趵突泉), น้ำพุเสือดำ (黑虎泉), น้ำพุสระห้ามังกร (五龙潭) และ น้ำพุไข่มุก (珍珠泉)

ผมสันนิษฐานเอาเองว่า สาเหตุที่จี่หนานมีน้ำพุมากก็คงเป็นด้วยภูมิประเทศของเมืองที่เป็นที่ลาดทางผ่านจากภูเขาลงมาแม่น้ำนี่เอง ...

เพื่อนชาวจีนของเสี่ยวกัวแนะนำให้เรามาพักกันที่โมเต็ลเล็กๆ แห่งหนึ่งริมทะเลสาบต้าหมิง (大明湖) ทะเลสาบขนาดใหญ่ประมาณ 46 เฮคตาร์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ไข่มุกแห่งจี่หนาน’ โดยหลังจากเก็บข้าวเก็บของเข้าที่พักที่แยกห้องชายโสด 3 คน กับหญิงสาวอีก 1 คนเรียบร้อยแล้ว พวกเราจึงออกมาเดินหย่อนใจ ถ่ายรูปและถีบเรือเล่นบริเวณทะเลสาบต้าหมิง

เมื่อใกล้พลบค่ำเราแวะกันที่ร้านอาหารซานตง ใกล้ๆ กับที่พักเพื่อหาอะไรเติมพลัง ...

บนโต๊ะอาหารพวกเราสี่คนต่างเปิดใจ สนทนากันถึงเส้นทางชีวิตในอนาคตของตัวเอง

‘เสี่ยวกู่’ สาวเปรู เล่าความในใจของเธอให้พวกเราฟังว่าแม้ที่บ้านของเธอจะทำธุรกิจการค้า และอสังหาริมทรัพย์เล็กๆ อยู่แล้ว แต่เธอก็อยากจะยืนด้วยลำแข็งของตัวเอง หลังจากจบการศึกษาแล้วเธอตั้งใจจะไปลงเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับธุรกิจระยะสั้นที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ในเวลาเดียวกันก็อาจจะทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกระหว่างจีนกับเปรูไปด้วย

ด้าน ‘เสี่ยวไป๋’ หนุ่มเกาหลีที่ผ่านการเกณฑ์ทหาร 2 ปีเต็มมาแล้วเรียบร้อย ก็เผยความฝันส่วนตัวบ้างว่า ตนเองอยากหางานทำในบริษัทเกาหลีที่ปักกิ่ง แต่หลังจากจบการศึกษาแล้วคงต้องกลับบ้านไปก่อนเพื่อไปหางานที่เหมาะสม ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนก็จะมุ่งเป้าไปที่บริษัทเกาหลีที่ต้องการบุคลากรทำงานในเมืองจีน

“แต่ก็ไม่ง่ายเลย เดี๋ยวนี้คนเกาหลีเรียนภาษาจีนกันเยอะมาก อย่างเช่นที่กรุงปักกิ่ง เห็นได้ชัดว่าชุมชนคนเกาหลีนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จนวันนี้มีคนเกาหลีอยู่ในปักกิ่งเป็นแสนๆ คนแล้ว ... เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโอกาสจะมีมากแค่ไหน” เสี่ยวไป๋พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ

มาถึงคราว ‘เสี่ยวกัว’ บ้าง ...

แต่ไหนแต่ไรมา ผมรู้ดีว่าเสี่ยวกัวมีคนรักเป็นสาวไทยอยู่แล้ว เขาวางแผนไว้ว่าหลังจากเรียนจบก็จะกลับไปรับแฟนสาวคนไทยพาไปแต่งงานกันที่สวิตเซอร์แลนด์ หางานในบริษัทนำเข้า-ส่งออกสัก 2-3 ปีเพื่อเรียนรู้งานและหาประสบการณ์ ก่อนออกมาเปิดบริษัทเล็กๆ เป็นของตัวเอง

เดิมทีก่อนมาเรียนที่เมืองจีน ขณะอยู่เมืองไทย ‘เสี่ยวกัว’ เคยทำงานอยู่ในบริษัทนำเที่ยวฝรั่งยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง แถมมีตำแหน่งถึงระดับผู้จัดการฝ่าย สิ่งเหล่านี้เมื่อนำมาประกอบกับความขยัน ความตรงไปตรงมา และลักษณะนิสัยของความเป็นคนเอาจริงเอาจัง

... ผมเชื่อว่าอนาคตการงาน และชีวิตครอบครัวที่ดีคงจะรอเขาอยู่

หลังจากแอบฟัง ‘ฝัน’ ของคนอื่นจนครบแล้ว ผมจึงลงมือวาดฝันของผมในอากาศกับเขาบ้าง ผมวาดฝันไว้ว่าหลังจากเรียนจบแล้วผมคงเสาะหา ‘ก่งลี่’ ของชีวิตสักคน ลงเอยกับเธอ ตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจทำงานเพื่อสร้างครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุขตามอัตภาพ ... ก็พอ



กำลังโหลดความคิดเห็น