ตื่นเต้นฮือฮาแห่งปี : ไฟไหม้รถไฟแมกเลฟเซี่ยงไฮ้
จะมีใครคาดคิดว่าจอมยุทธมือหนึ่งแห่งเทคโนโลยีอย่างรถไฟฟ้าความเร็วสูงระบบแมกเลฟ (MagLev) จะสะดุดล้มเสียหน้าเอาเสียแบบนี้ รถไฟฟ้าแมกเลฟ เซี่ยงไฮ้ ซึ่งจีนได้นำมาใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นรายแรกของโลกอย่างยืดอกนั้น เกิดไฟไหม้ในวันที่ 11 สิงหาคม
แม้ดูเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ร้ายแรง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด แต่ก็นับเป็นข่าวใหญ่ที่ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงในด้านความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยี และสะเทือนอย่างแรงต่อเยอรมนีที่สามารถพัฒนาแมกเลฟจ้าวแห่งระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง ตลอดจนเกิดการวิวาทะระหว่างประเทศกันยกใหญ่ระหว่างเยอรมนีและจีน
สำหรับสาเหตุไฟไหม้นั้น ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานความเป็นไปได้ 2 อย่างคือ เป็นเพราะตัวระบบเทคโนโลยีแผงแบตเตอรี่ หรือไม่ก็เป็นเพราะสภาพแวดล้อมอากาศในจีน
ล้นหลามแห่งปี : ล้านชีวิตล้อมทำเนียบฯ ไล่”อาเปี่ยน”
บันทึกหน้าใหม่กับประวัติศาสตร์ของไต้หวัน ผู้คนสวมเสื้อสีแดงเป็นสัญลักษณ์แห่ง......ฝ่าฝนร่วมชุมนุมเรือนล้าน เพื่อขับไล่ผู้นำทุจริตเฉินสุ่นเปี่ยน พร้อมกับเสียงร้องตะโกนที่ดังก้องไปทั่ว “อาเปี่ยน..ออกไป” ในกลางเดือนกันยายนบริเวณถนนเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดี
ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ว่า “รู้สึกประทับใจกับการเข้าร่วมชุมนุมครั้งนี้มาก เพราะถึงแม้ฝนจะตก แต่ทุกคนก็ยังเสียสละมา ที่สำคัญก็คือ บรรยากาศของการชุมนุม ไม่ใช่เต็มไปด้วยเสียงด่าทอหยาบคาย ส่วนใหญ่จะมีแต่เสียงเพลง และเสียงตะโกนขอร้องให้ผู้นำของเราลงจากตำแหน่ง”
การชุมนุมทวีเพิ่มถึงราวร่วมล้านคน ผู้คนทั้งหลายต่างชูกระบองไฟฟ้าสีแดงส่องสว่างรอบทำเนียบฯไปทั่ว และตะโกนให้เฉินสุยเปี่ยน ออกไปจนดังก้องฟ้า แม้ในบางคืนต้องยืนทนหนาวท่ามลางสายฝน ทำให้นายซือหมิงเต๋อผู้นำการประท้วงถึงกับซาบซึ้งจนคุกเข่าลงไปร้องตะโกนว่า “ไต้หวันจงเจริญ”
นับเป็นการชำแหละพฤติกรรมคอรัปชั่น และโยกคลอนอำนาจของผู้นำครั้งประวัติศาสตร์ของไต้หวัน
อื้อฉาวคอรัปชั่นแห่งปี : ปลดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
ในวันที่ 24 กันยายน ผู้นำจีนเผด็จศึกจับกุมนายเฉินเหลียงอี่ว์ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาเซี่ยงไฮ้ และผู้นำระดับหน้าแถวแห่งคณะกรมการเมืองหรือโปลิตบูโร ด้วยข้อหาหลายกระทง ได้แก่ ยักยอกเงินจากกองทุนประกันสังคมเซี่ยงไฮ้ที่มีมูลค่าสูงถึงราว 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้อง ปกป้องกลุ่มญาติคนมิตรสนิทที่ทำผิดกฎหมายและระเบียบวินัยอย่างร้ายแรง และสร้างอิทธิพลทางการเมืองอัน
นายเฉินเหลียงอี่ว์ถูกปลดออกจากคณะกรรมการกรมการเมืองหรือโปลิตบูโร, ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาประจำเซี่ยงไฮ้, คณะกรรมการประจำของเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้, คณะกรรมการเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้, ตำแหน่งคณะกรรมการโปลิตบูโรเซี่ยงไฮ้
นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี ที่มีการปลดผู้นำใหญ่แห่งโปลิตปูโร ซึ่งเป็นองค์กรการเมืองที่กุมอำนาจสูงสุดสูงสุดของประเทศ
ความสำเร็จแห่งปี : รถไฟสาย “หลังคาโลก” ได้ฤกษ์เคลื่อนขบวน
และแล้วรถไฟเส้นทาง ชิงไห่-ทิเบต ทางม้าเหล็กบนที่ราบสูงที่สูงอันวิบากที่สุดและยาวที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกที่เชื่อมแดนหลังคาโลกกับส่วนอื่นๆ ของจีน ได้ฤกษ์เคลื่อนขบวนเมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยออกเดินทางจาก ปักกิ่ง เฉิงตู ซีหนิง เซี่ยงไฮ้ และ กว่างโจว ทำความเร็วเฉลี่ยที่ 120 กม.ต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ รถไฟขบวนดังกล่าวยังให้บริการสุดหรู อีกทั้งติดตั้งระบบออกซิเจน เพื่อรับมือสภาวะความกดอากาศต่ำจนส่งผลต่อร่างกาย ส่วนราคาตั๋วจากปักกิ่งไปลาซา ตั๋วรถนั่งราคา 1,800 บาท ตั๋วรถนอน 3,600 บาท และตั๋วรถนอนชั้นหนึ่ง 5,800 บาท คาดใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 48 ชั่วโมง นับว่าราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับตั๋วเครื่องบินซึ่งมีราคาสูงถึง 11,400 บาท
อย่างไรก็ตาม แม้จีนมองว่ารถไฟชิงไห่-ทิเบตมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมท่องเที่ยวทิเบตและนำความมั่งคั่งสู่ดินแดนหลังคาโลก แต่นักเคลื่อนไหวกลับมองว่ามันจะเป็นตัวเร่งให้ชาวจีนอพยพเข้าทิเบตมากขึ้นและจะทำลายวัฒนธรรมทิเบต
ทุบสถิติแห่งปี : ไอซีบีซีขายไอพีโอทำลายสถิติโลก
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา อินดัสเทียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์หรือไอซีบีซี ธนาคารใหญ่สุดของจีน เปิดขายหุ้นแก่สาธารณะหรือไอพีโอครั้งแรกทั้งในตลาดฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ นับเป็นการทำไอพีโอครั้งทำลายสถิติโลก ด้วยมูลค่าเกือบ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แซงหน้าบริษัท เอ็นทีที โมบาย คอมมิวนิเคชั่น ของญี่ปุ่น ที่ทำไว้19,000 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี1998 และทำให้ไอซีบีซีกลายเป็นธนาคารที่ในตลาดหุ้นอันดับ 5 ของโลก ด้วยมูลค่าทุนตามราคาตลาดเกือบ 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นรองซิติ แบงค์, แบงค์ ออฟ อเมริกา,เอชเอสบีซี กรุ๊ป และเจพี มอร์แกน
ไอซีบีซีเป็น 1 ใน 4 ธนาคารพาณิชย์รัฐรายใหญ่ของจีนรายที่ 3 ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ตามหลังแบงก์ออฟไชน่า(บีโอซี) ที่เปิดให้ซื้อขายหุ้นในฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายน และในเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนกรกฎาคม ส่วนไชน่า คอนสตรักชั่น แบงก์(ซีซีบี) เข้าตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปฏิรูปภาคธนาคารโดยรัฐบาลจีน
ป่วนแห่งปี : พบสารโครเมี่ยมใน SK-II เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
สำนักงานควบคุมดูแลคุณภาพ กองตรวจสอบและการกักกันเชื้อโรคสินค้านำเข้าส่งออกของจีนเผยในเดือนกันยายนว่า พบสารต้องห้ามที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในเครื่องสำอางยี่ห้อ เอสเค-ทู (SK-II) จากประเทศญี่ปุ่นหลายรายการ ซึ่งอยู่ในเครือพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ
โดยที่กว่างตง (กวางตุ้ง) ได้ตรวจพบเครื่องสำอางที่ผลิตจากบริษัท แมกซ์ แฟคเตอร์ ว่ามีผลิตภัณฑ์หลายรายการที่มีส่วนผสมของสารโครเมียม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือเป็นตุ่มแดงขึ้น และนีโอไดเมียมจะมีฤทธิ์กระตุ้นต่อดวงตาและเยื่อผิวหนัง และหากดูดซับมากๆ ก็อาจเป็นอันตรายต่อปอดและตับได้
ทั้งนี้กระแสต่อต้านที่จีนรุนแรงถึงขนาดเกิดม็อบผู้บริโภคนับร้อยบุกบริษัทเครื่องสำอาง SK-II เพื่อขอเงินคืน อีกทั้งทางบริษัทยังได้ตัดสินใจหยุดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกประเภท และปิดจุดจำหน่ายทั่วประเทศจีนเป็นการชั่วคราว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ทางกระทรวงสาธารณสุขจีนได้ร่วมกันแถลงภายหลังการตรวจสอบอย่างแน่ชัดอีกครั้งพบว่า สารพิษดังกล่าวที่พบในเครื่องสำอาง เป็นสารโลหะเล็กน้อยอันเกิดจากกระบวนการที่ไม่อาจเลี่ยงได้ในขั้นตอนการผลิต หากใช้เครื่องสำอางในปริมาณปกติ จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค หลังจากทางการจีนประกาศออกมาเช่นนี้ ทำให้บริษัทพีแอนด์จีสามารถกลับคืนสู่ตลาดจีนได้อีกครั้ง และเลี่ยงการขาดทุนได้ถึงปีละ 500 ล้านหยวน
คำมั่นแห่งปี : ปักกิ่งเปิดเสรีธุรกรรมหยวนให้ธ.ต่างชาติ
เมื่อวันที่15 พ.ย. จีนออกกฎใหม่เพื่อเปิดเสรีภาคการเงินตามสัญญาที่ให้ไว้แก่องค์การการค้าโลก โดยกำหนดให้ธนาคารต่างชาติที่ประสงค์จะดำเนินธุรกรรมเงินหยวน จะต้องจดทะเบียนในแดนมังกร โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 11 ธันวาคม
กฎใหม่ดังกล่าวระบุว่า ธนาคารต่างชาติที่จะดำเนินธุรกิจในจีนต้องมีเงินทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านหยวนหรือราว 5,000 ล้านบาทเพื่อจดทะเบียนตั้งเป็นบริษัทในท้องถิ่น จึงจะสามารถให้บริการบัตรเครดิตและรีเทลแบงกิ้งในสกุลเงินหยวนได้
สำหรับธนาคารต่างชาติที่ไม่ประสงค์ตั้งเป็นบริษัทในท้องถิ่น จะต้องมีเงินทุน 200 ล้านหยวนหรือราว 1,000 ล้านบาทในการตั้งสาขาแต่ละแห่ง ไม่สามารถให้บริการบัตรเครดิตและรับเงินฝากจำนวนสูงกว่า 1 ล้านหยวนได้ รวมทั้งถูกจำกัดด้านการสะสมเงินทุนและการให้กู้ยืม
นอกจากนี้ ตามพันธะที่มีต่อดับเบิลยูทีโอเมื่อ 5 ปีก่อน จีนจะยกเลิกข้อจำกัดในด้านพื้นที่และรูปแบบธุรกิจที่ให้บริการแก่ธนาคารพาณิชย์ต่างชาติ ซึ่งกำลังกระหายเข้ามาขยายธุรกิจมูลค่า 5.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ข้อกังขาแห่งปี : ลูกชาย “หูจิ่นเทา”รวบประมูลซีทีเอ็กซ์
หูไห่เฟิง ผู้บริหารวิสาหกิจรัฐรายใหญ่แห่งบริษัทนุกเทค (Nuctech) บุตรชายของประธานาธิบดีหูจิ่นเทา ได้สัมปทานติดตั้งเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดเหลว ทั่วสนามบินจีน 147 แห่ง มูลค่ากว่า 10 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
สัมปทานดังกล่าวได้สร้างข้อกังขาให้กับประชาชนทั่วไป ขณะที่หูจิ่นเทาได้สร้างกระแสต่อต้านคอรัปชั่นและการแสวงหาผลประโยชน์จากหน้าที่การงานอยู่เนืองๆ ทางด้านหยางเฉิงเฟิง ผู้อำนวยการฝ่ายความปลอดภัยการท่าอากาศยานแห่งประเทศจีนย้ำข้อข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง
รักแท้แห่งปี : วิวาห์ศพ! รักแท้…ความตายมิอาจกั้น
เดือนก.ย.ที่กว่างซี ได้มีการจัดงานวิวาห์ขึ้น แต่คู่บ่าวสาวในชุดสีขาวบริสุทธิ์กลับหลับตาสนิทในโลงแก้ว ท่ามกลางบรรยากาศที่ตลบอบอวลด้วยความเศร้าของบรรดาญาติมิตร พ่อแม่ของเธอเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหราเหม่ยผิง ลูกสาววัย 22 ปี และว่าที่ลูกเขย เจ้าซื่อเหลียง อาจารย์หนุ่มวัย 26 ปี วางแผนร่วมชีวิตกันในเร็ววันนี้
แต่ในวันเกิดเหตุ พวกเขาเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวฝ่ายหญิง คาดไม่ถึงช่วงหัวค่ำน้องชายตัวอ้วนของเหราเกิดลื่นพลัดหล่นจากสันเขื่อน เจ้ากระโดดลงน้ำไปงมหา เหราก็กระโจนตามลงไปด้วยอีกคน สุดท้ายเด็กชายถูกผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยชีวิตขึ้นมาได้ แต่คู่รักทั้งสองที่ลงไปช่วยกลับต้องสังเวยชีวิตให้กับกระแสน้ำในคืนนั้น
แม้มิอาจครองคู่ในชาติจีน แต่ญาติทั้งสองฝ่ายยังปรารถนาสานฝันทั้งคู่ จึงได้จัดพิธีแต่งงานขึ้นในงานศพของทั้งสอง และอวยพรให้พวกเขาได้ครองคู่กันในภพหน้า…
บุคคลแห่งปี : ลีกาชิง รับรางวัลดีเด่นบุคคลเกียรติยศ 2006
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ในการประกาศผลการคัดเลือกบุคคลดีเด่นในปีเศรษฐกิจจีนของซีซีทีวี ได้มีการตั้งรางวัลพิเศษที่ชื่อว่า “รางวัลบุคคลเกียรติยศขึ้น” โดยผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ได้แก่มหาเศรษฐีชาวฮ่องกงนายหลี่เจียเฉิง (ลีกาชิง)
โดยผู้ประกาศรางวัลได้ให้คำอธิบายไว้ว่า “เนื่องจากนายลีกาชิง เป็นผู้ที่ใช้สติปัญญาอันเฉียบแหลม สร้างอาณาจักรแห่งความมั่งคั่งของตนขึ้น นอกจากนั้น ยังได้ตั้งมูลนิธิจากเงินส่วนตัว เพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้คน โดยในปี 2006 นี้ ลีกาชิงได้ประกาศว่าจะบริจาคเงินให้มูลนิธิมีทรัพย์สินเท่ากับ 1 ใน 3 ของสมบัติของตน และถือเป็นบุคคลตัวอย่างของนักธุรกิจทั้งหลาย
ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลพิเศษที่ได้ตั้งขึ้น โดยได้รับความเห็นจากคณะกรรมการ ที่อยากจะแสดงความชื่นชมต่อลีกาชิง จึงได้จัดตั้งรางวัลพิเศษนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก
