xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อจอมคนผงาดโลก (Fearless) จากแผ่นฟิล์มสู่จอแก้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซีน่าเน็ต—19/12/06—แฟนหนังจีนกำลังภายในต้องคุ้นกับภาพยนตร์เรื่อง “จอมคนผงาดโลก” (Fearless)เป็นแน่ และเชื่อว่าตัวละคร “ฮั่วหยวนเจี่ย” ก็น่าจะเป็นฮีโร่ของใครหลายๆ คน ส่วนผู้ที่สวมบทบาทนี้แล้วแฟนๆ ยกนิ้วให้ก็หนีไม่พ้น “หลี่เหลียนเจี๋ย” (เจ็ท ลี) เพราะความแรงของเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ของผู้ชายที่ชื่อฮั่วหยวนเจี่ย จึงได้มีการนำมาสร้างเป็นละครฟอร์มยักษ์ขึ้นอีกครั้ง

สำหรับในเวอร์ชั่นละครนี้ ได้พระเอกแม่เหล็กขวัญใจสาวไทยอย่าง “เจิ้งอีเจี้ยน” รับบทเอก ฮั่วหยวนเจี่ย ประกบเพื่อนซี้นอกจออย่าง “เฉินเสี่ยวชุน” ที่มารับบท เฉินเจิน ร่วมด้วยหมีเสี่ยว์ เหลียงเสี่ยวหลง สีว์เสี่ยวหมิง และนางเอกใหม่แกะกล่องอย่าง “โจวมู่อิน” ตบท้ายด้วยผู้กำกับมากความสามารถจากฮ่องกงคือ “จีว์เจี๋ยว์เลี่ยง” ผู้ซึ่งฝากผลงานละครโทรทัศน์ที่โด่งดังไว้มากมาย เช่น มังกรหยกฉบับกู่เทียนเล่อ แปดเทพอสูรมังกรฟ้าฉบับทีวีบี เป็นต้น และอำนวยการสร้างโดยกวานจิ่นเผิง
จอมคนผงาดโลกเป็นเรื่องราวของฮั่วหยวนเจี๋ยนักสู้ผู้เป็นตัวแทนศิลปะการต่อสู้ของจีน จนได้รับการจารึกชื่อในประวัติศาสตร์

ฮั่วหยวนเจี่ยอยากเรียนศิลปะการต่อสู้มาตลอด พ่อของเขาก็เป็นนักสู้เช่นกัน แต่กลับไม่อยากให้ลูกชายเดินตามรอยเท้าเขา และปฏิเสธที่จะสอนศิลปะการต่อสู้ให้ แต่นี่กลับทำให้ฮั่วหยวนเจี่ยมุ่งมั่นที่จะเรียน ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนของเขา เขาได้ขโมยตำราวูชูของพ่อ และเริ่มเรียนการต่อสู้ด้วยตัวเอง
ไม่นานนักฮั่วหยวนเจี่ยก็สามารถกำราบอันธพาลประจำโรงเรียนได้ ด้วยทักษะใหม่ของเขา จากชัยชนะเล็กๆ นี้ ทำให้เขาเริ่มฝึกฝนอย่างหนัก หลายปีผ่านไป การต่อสู้ผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า และชัยชนะผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งเขาเป็นที่รู้จักในนามของนักสู้ผู้เก่งกาจและทรงพลัง แต่ยิ่งชื่อเสียงเขาดังไปเท่าใด ความภูมิใจของเขาก็ยิ่งมากขึ้นไปด้วย กลายเป็นหนุ่มเลือดร้อนหยิ่งยโส ผู้ที่กระหายอยากการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา

วันหนึ่งศิษย์คนหนึ่งของฮั่วหยวนเจี่ย ได้รับบาดเจ็บจากยอดฝีมือคนหนึ่งชื่อว่าชิน ใจเขาเต็มไปด้วยความแค้น เขาบีบให้ชินต่อสู้กับเขา และฆ่าเขาอย่างไร้ความปรานี และในตอนที่เขากลับบ้านนี่เอง เขาได้ค้นพบว่า ชัยชนะของเขาได้คร่าชีวิตคนที่เขารักที่สุดไปสองคน แม่ของเขาและลูกสาวของเขา ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมเพื่อเป็นการล้างแค้น ด้วยความบ้าคลั่ง ฮั่วหยวนเจี่ยได้หนีจากเมืองเทียนจิน เขาร่อนเร่เป็นระยะทางพันๆ ไมล์ เขาไม่สนอีกแล้วว่าเขาจะอยู่หรือตาย แต่เมื่อเขาพร้อมจะละทิ้งจากความหวังทั้งปวง เขากลับได้รับการช่วยเหลือจากคุณย่าซัน และหลานสาวตาบอดของเธอ ผู้พาเขากลับมายังหมู่บ้านอันสงบสุขที่พวกเธออาศัยอยู่ ตัวเขานั้นคิดว่าไม่มีอะไรเหลือในชีวิตแล้ว ค่อยๆ ลืมเลือนความเจ็บปวดและความปรารถนาที่จะสู้อย่างช้าๆ

ฮั่วหยวนเจี่ยเริ่มต้นทดลองใช้สไตล์การต่อสู้ที่พลิ้วไหว และรุนแรงน้อยลง ในที่สุดก็กลายเป็นหมัดหมีจงที่โด่งดัง เขาตระหนักว่า อนาคตศิลปะการต่อสู้ อยู่ในจิตวิญญาณของความเป็นนักกีฬา ไม่ใช่ความรุนแรง เขารู้ดีว่า เขาต้องกลับไปเทียนจิน เพื่อที่เขาจะสามารถทำให้ศิลปะการต่อสู้ของจีนเป็นอย่างเดียวกันนี้ได้ เมื่อกลับไปเทียนจิน นักสู้ชาวอเมริกัน โอ’ ไบรอัน กำลังโด่งดังจากการคว่ำนักสู้ของจีนลง และปรามาสพวกเขาว่าเป็น "คนป่วยแห่งโลกตะวันออก" ฮั่วหยวนเจี่ยท้าประลองกับนักมวยปล้ำร่างยักษ์ผู้นี้ และคว่ำเขาได้อย่างง่ายดาย เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจให้กับสมาชิกหอการค้าต่างประเทศ ผู้ที่กังวลว่าชัยชนะของฮั่วหยวนเจี่ยจะทำให้กระแสการต่อต้านตะวันตกในหมู่คนจีนขยายตัวไปไกลมากขึ้น จึงวางแผนที่จะทำให้ฮั่วหยวนเจี่ยเสียหน้า ด้วยการจับเขาสู้กับนักสู้ตัวแทนของชาติมหาอำนาจ 4 คน

การต่อสู้อันยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษเปิดฉากขึ้น นักมวยอังกฤษ นักดาบสเปน ทหารเบลเยียม สามนักสู้ผู้แข็งแกร่งได้ก้าวขึ้นสู่สังเวียน เขาสามารถล้มผู้ท้าประลองได้หมด แต่ยังเหลือไพ่ใบสุดท้ายก็คือผู้ท้าประลองจากญี่ปุ่นอันโนะ ทานากะ ขณะที่ทั้งคู่ยืนประจันหน้ากันในสนามประลอง ผู้ชมนับพันเฝ้าจับตามองพวกเขาอย่างลืมหายใจ และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นของเดือนกันยายน ปี 1910 เป็นสิ่งที่ไม่มีใครลืมเลือนได้เลย...








กำลังโหลดความคิดเห็น