xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวกรอง &情&报

เผยแพร่:   โดย: สุขสันต์ วิเวกเมธากร

ใกล้ถึงวาระครบรอบ ๕ ปีที่ตึกแฝดเวิร์ลเทรด แห่งมหานครนิวยอร์กถูกถล่มทะลายลง มีเรื่องน่าสนใจซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในหมู่ปัญญาชนถึงใครอยู่เบื้องหลังการกระทำอันเหี้ยมโหดนั้น

สมมติฐานหนึ่งซึ่งได้รับการพิจารณาอย่างเอาจริงเอาจังโดยมีการจัดสัมมนาอย่างเคร่งเครียดที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อเร็วๆ นี้ทำให้มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างอึงคะนึงมากเป็นพิเศษคือ รัฐบาลสหรัฐอเมริกานั่นเองเป็นตัวการร้ายในเรื่องนี้ !!!

ผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นปัญญาชนชั้นแนวหน้า ผู้มีอิทธิพลต่อเรื่องความคิดเห็นของสังคมอเมริกันตลอดจนสังคมโลก หลายคนมีความคิดเห็นสอดคล้องกันกับสมมติฐานนี้ด้วยและยืนยันว่าจะติดตามหาความจริงในเรื่องนี้อย่างกัดไม่ปล่อย

ปัญญาชนบางท่านแสดงทัศนะว่ามีผู้ทรงอำนาจยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังการทำลายตึกแฝดเพื่อหวังผลทางการเมืองและประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายด้วย ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมา มีปฏิกิริยาขานรับและปฏิเสธอย่างเกรียวกราว

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวัตถุระเบิดบางท่านได้เสนอมุมมองที่น่าพินิจพิจารณาว่า

ลำพังเครื่องบินลำหนึ่งพุ่งชนตึกแฝดโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ไม่ควรที่จะมีอานุภาพในการทำลายตึกทั้งสองหลังภายในแค่พริบตาเดียว

น่าเชื่อว่าภายในตึกทั้งสองหลังนั้นมีการเตรียมวัตถุระเบิดจำนวนมหาศาลไว้ก่อนล่วงหน้าและจัดวางไว้ในที่เหมาะเหม็งซึ่งจะเกิดประสิทธิภาพในการทำลายตึกแฝดได้พร้อมๆ กันอย่างที่ปรากฏผลให้เห็น

เมื่อเครื่องบินพุ่งเข้าชนตึกซึ่งมีระเบิดหมกเม็ดนอนรอพร้อมที่จะระเบิดอยู่แล้วจึงทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง เพราะโดยโครงสร้างอันแข็งแรงของตึกนั้นไม่ควรที่จะถูกทำลายราบลงเพียงเพราะเครื่องบินลำเดียวพุ่งชน

หากเครื่องบินลำนั้นบรรทุกระเบิดมาด้วย ยิ่งไม่สมเหตุสมผล เพราะเมื่อพุ่งชนตึกแรกแล้วเครื่องบินนั้นจะต้องระเบิดทันทีไม่มีโอกาสพุ่งชนทะลุไปยังอีกตึกหนึ่ง งานนี้จะต้องมีการคำนวณหลายอย่างล่วงหน้าตามแผนการที่รัดกุมอย่างยิ่งยวด

อีกเรื่องหนึ่งซึ่งที่ประชุมสัมมนาได้แจกแจงรายละเอียดคือมีบุคคลที่น่าสงสัยไม่น้อยอยู่หลายพันคนซึ่งปกติจะต้องไปทำงานในตึกนั้น แต่ในวันเกิดเหตุ “ ๙๑๑ ” ท่านผู้โชคดีเหล่านี้ประมาณ ๔,๐๐๐ คนกลับมีธุระสำคัญไม่อยู่ในตึก

บุคคลโชคดีดังกล่าวมีอาชีพการงานและลัทธิความเชื่อถือน่ากังขามาก ซึ่งจะต้องถูกตรวจสอบโดยละเอียด

สักวันหนึ่ง หากสวรรค์และนรกมีจริง ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งในหมู่คนโชคดีที่ว่าซึ่งกลายเป็นเสือสำนึกบาปจะต้องคายความจริงที่อมพะนำไว้ให้ชาวโลกรับรู้

แต่การรอให้สวรรค์หรือนรก ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กเง็ก ( เง็กเซียนฮ่องเต้ ) 玉皇大帝Yù huáng dà dì หรือบิ๊กเงี่ยม ( เงี่ยมฬ่ออ๋อง ) 阎罗王 Yán luó wáng มาทำหน้าที่นั้นคงต้องใช้เวลานานมากส์ซึ่งอาจไม่รวดเร็วทันใจของผู้คนยุคโลกร้อน

หน่วยข่าวกรองทั้งของรัฐบาลและของเอกชนในหลายๆ ประเทศจึงต้องเร่งรีบทำงานแข่งกับเวลาไม่ว่าจะเพื่อเป็นผู้ทำลายหรือต่อต้านการทำลาย

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองหรือที่เราเรียกกันสั้นๆ “ สายลับ ” กำลังเป็นอาชีพที่วงการข่าวกรองต้องการอย่างยิ่ง ผู้มีคุณสมบัติพิเศษจะได้รับการเลือกสรรคั้นเฟ้นให้ทำหน้าที่สายลับโดยมีผลตอบแทนอย่างสูงให้คุ้มกับความเสี่ยงภัย

รัฐบาลสหรัฐอเมริกา รัฐบาลอังกฤษ รวมถึงประเทศชั้นนำต่างต้องการผู้มีสเปกเข้าข่ายอย่างมาก หนึ่งในคุณสมบัติที่ต้องการอย่างยิ่งคือผู้มีความรู้ในด้านภาษาจีนระดับอ่านออกเขียนได้พูดได้อย่างแคล่วคล่อง

ทั้งนี้ เพราะประชากรจีนมีมากที่สุดในโลก และเป็นชาติพันธุ์ซึ่งมีกระจายอยู่ทุกแห่งหนบนพื้นพิภพอันมีผู้คนนิยมไปชุมนุมกันมาก การสืบหาข้อมูลในสถานที่ต่างๆ ดังกล่าวจึงมีความถูกต้องแม่นยำหรือใกล้เคียงกับความจริงอย่างมากที่สุด

อักษรจีนจำนวนมากเป็นตัวอักษรที่เลียนแบบธรรมชาติซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้เป็นรหัสลับในวงการข่าวกรอง การปฏิบัติงานของสายลับซึ่งมีความรู้ในเรื่องภาษาจีนจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น

นักศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฯลฯ ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ สัญชาติใดๆ หากเลือกเรียนภาษาจีนและมีผลการเรียนดียอดเยี่ยมมักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษถึงขั้นมีแมวมองคอยจับตาเพื่อเลือกให้ไปทำงานเป็นสายลับ ตั้งแต่ยังไม่ทันจบการศึกษา

ทั้งนี้ทั้งนั้น ย่อมมีองค์การสำคัญซึ่งอยู่เบื้องหลังต้องคอยทำหน้าที่ล้างสมองของเป้าหมายควบคู่ไปด้วยเพื่อผลประโยชน์และประสิทธิภาพขององค์การนั้นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น