อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยประชากรจาก 56 ชนเผ่า จึงไม่แปลกที่ประชากรแต่ละแหล่งแห่งที่ในเมืองจีน จะมีลักษณะการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันในหลายๆ ด้าน อย่างเช่นในด้านการแต่งกายนั้นเว็บไซต์ TOM ได้แบ่งลักษณะการแต่งกายของชายหนุ่มเมืองจีนออกเป็น 10 แบบโดยยึดตาม 10 เมืองใหญ่ของจีนเป็นหลัก
ชายหนุ่มในแต่ละเมืองนั้นต่างก็มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าการแต่งกายก็ย่อมแตกต่างกันออกไป โดยปกตินั้นวัฒนธรรมของแต่ละเมืองล้วนมีผลต่อการแต่งกายของหนุ่มๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองดังกล่าว และในทางกลับกันการแต่งกายของหนุ่มๆ ก็เป็นตัวขับดันหนึ่งของวัฒนธรรมเมืองเช่นกัน
เรามาดูกันว่าหนุ่มแดนมังกรแต่ละเมืองนั้น แต่งกายกันอย่างไร
หนุ่มฮาร์บิน
หนุ่มฮาร์บินส่วนใหญ่จะรูปร่างใหญ่ บึกบึนแบบชายชาตรี ส่วนอุปนิสัยค่อนข้างเอะอะโวยวาย ใจนักเลง มีความเซ็กซี่ตรงความมุ่งมั่นและความภูมิใจในตัวเองตามแบบฉบับของคนจีนทางภาคเหนือ ภายนอกหนุ่มฮาร์บินดูไม่ค่อยจะสนใจการแต่งตัวเท่าใดนัก แต่ลึกๆ แล้วกลับสนใจเรื่องนี้มากกว่าสาวๆ เสียอีก บางคนมีสูทเต็มยศ พร้อมเนคไทเข้าชุดเรียงเป็นตับอยู่ที่บ้าน
ค่านิยม"ชายชาตรี" และ"พยัคฆ์ตะวันออกเฉียงเหนือ" ของหนุ่มฮาร์บินนั้น เปรียบไปก็คล้ายกับของขวัญอันสูงส่ง ที่แม้ว่าจะมองดูด้วยตาแล้วสวยงาม แต่กลับไม่เหมาะกับชีวิตประจำวันของสามัญชน
หนุ่มฉงชิ่ง
หนุ่มฉงชิ่งบุคลิกแข็งแรง อุปนิสัยคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา มุทะลุ ไม่พิถีพิถันกับการแต่งตัวยกเว้นว่าโดนเจ้านายสั่ง พวกเขาเห็นตรงกันว่าควรนำเงินที่ภรรยากำชับให้ไปซื้อชุดสูทมาเลี้ยงเหล้าเพื่อนยังจะคุ้มกว่า เพราะพวกเขาเชื่อในคำกล่าวโบราณของขงจื๊อที่ว่ามีมิตรจากแดนไกลมาหานับเป็นความสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้ (有朋自远方来,不亦乐乎)
หนุ่มปักกิ่ง
หนุ่มปักกิ่งมักเป็นผู้มีวัฒนธรรมและจิตสำนึกทางการเมืองสูง พิถีพิถันกับการแต่งตัวตามสมัยนิยม โดย ในการเลือกซื้อเสื้อผ้าจะให้น้ำหนักกับรูปแบบซึ่งต้องเป็นแบบที่ทันสมัยที่สุด ถ้าเทียบกับหนุ่มเมืองอื่น หนุ่มปักกิ่งมักซื้อเสื้อผ้าบ่อยที่สุด พวกเขาโปรดปรานที่จะทดลองสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ใหม่ๆ ที่เพิ่งจะเข้ามาฮิตติดตลาด และยินยอมที่จะเสียเงินและเสียเวลาไปกับเรื่องพวกนี้อย่างไม่รู้สึกเสียดาย
หนุ่มเฉิงตู
หนุ่มเฉิงตูชอบชีวิตที่ดำเนินไปตามกฏเกณฑ์ เรียกง่ายๆ ว่าชอบอยู่ในกรอบ รูปลักษณ์ภายนอกของหนุ่มเมืองนี้อาจจะห่างจากคำว่าผึ่งผายสมชายชาตรีไปสักหน่อย ประกอบกับเมืองเฉิงตูนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองให้กำเนิดสาวงามแบบน่ารักน่าทะนุถนอม ดังนั้นเครื่องแต่งกายของหนุ่มเฉิงตูจึงได้รับอานิสงส์ลดความแข็งกร้าวแบบชายชาตรีลงมา และเน้นในแง่ของความนุ่มนวลอ่อนโยนมากขึ้นไปด้วย
หนุ่มหังโจว
เสน่ห์ของหนุ่มหังโจวอยู่ที่ความรอบรู้ ลุ่มลึก ฉลาดปราดเปรื่อง หัวก้าวหน้า มีวัฒนธรรม เหมือนกับดาราฮ่องกงและไต้หวัน รูปแบบการใช้ชีวิตของหนุ่มเมืองนี้ล้วนอยู่บนพื้นฐานของความเท่ห์อย่างมีสไตล์ ใส่หมวก คล้องผ้าพันคอ ในชุดทำงาน สวมรองเท้าแบบเรียบง่าย สบายๆ เปรียบดังเช่นต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านไม่หวั่นแรงลม
หนุ่มกวางเจา
ไม่อาจปฏิเสธว่าหนุ่มกวางเจาส่วนใหญ่เป็นเศรษฐีอารมณ์ร้อน เวลาทุกวินาทีเป็นเงินเป็นทอง รูปลักษณ์ของหนุ่มเมืองนี้ไม่สูงใหญ่ ผิวคล้ำ แต่พวกเขาต่างแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า เรียกว่ามีเงินเสียอย่าง ของไม่แพง ไม่ดังอย่าหวังว่าหนุ่มกวางเจาจะเหลียวแลซึ่งนี่ก็เป็นเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดสาวๆ ของหนุ่มเมืองนี้เขา
หนุ่มซีอาน
เดี๋ยวนี้หนุ่มซีอานไม่ได้เอาแต่ใส่เสื้อแขนยาวติดกระดุมออกไปอาบแดด วันๆ ฟังแต่งิ้วเมืองซีอานอีกต่อไป แต่หนุ่มๆ เหล่านี้ทันสมัยมากขึ้น กล้าแสดงออกและเปิดเผยมากขึ้น พวกเขาจะคุยกันเรื่องสไตล์ของเสื้อผ้าแบรนด์เนมอย่าง Lagerfeld, Versace, Givenchy และยังสนทนากันในความหรูหราอีกด้วย
หนุ่มหนันจิง
หนุ่มหนันจิงไม่ใช่ทั้งสามีที่ประเสริฐแต่ก็ไม่ใช่คนไม่เอาอ่าว พวกเขาค่อนข้างไม่มีระเบียบ เรื่อยเฉื่อย ไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอกของตนเองเท่าใดนัก ในด้านการแต่งตัว หนุ่มเมืองนี้ชอบชุดไปรเวท เรียกได้ว่าไปรเวททุกงานโดยไม่คำนึงถึงกาละเทศะในการแต่งตัว แต่ด้วยความบริสุทธิ์ไม่ปรุงแต่งนี่เองที่เป็นเสน่ห์ของหนุ่มเมืองนี้
หนุ่มเซี่ยงไฮ้
หากเทียบกับเมืองอื่นๆ หนุ่มเซี่ยงไฮ้ให้ความสำคัญกับเรื่องของรสนิยมมากที่สุด เช่น เสื้อแบรนด์เนมตัวหนึ่ง หากหนุ่มกวางเจาใส่อย่างมากก็แสดงถึงความหรูหราร่ำรวยเท่านั้น แต่หากหนุ่มเซี่ยงไฮ้ใส้เสื้อตัวเดียวกันรัศมีความภูมิฐาน ความเป็นสุภาพบุรุษกลับเปล่งประกาย เพราะหนุ่มเมืองนี้เค้าไฮโซกันมาแต่กำเนิด เศรษฐกิจที่โตวันโตคืนของเซี่ยงไฮ้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อรสนิยมและบุคลิกของหนุ่มๆ เพราะพวกเขานับวันจะยิ่งสนใจรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเอง เสื้อผ้า หน้า ผม หุ่น ต้องเนี้ยบเสมอ หนังสือแฟชั่นต้องมีติดมืออยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าไม่ยอมตกยุคกันเลยทีเดียว พวกเขาสนใจแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Dunhill เพราะแบรนด์ดังกล่าวเป็นการหลอมรวมของความทัยสมัยและความเก่าแก่เข้าด้วยกัน ทั้งยังแสดงถึงความเป็นสุภาพบุรุษอย่างเด่นชัด
หนุ่มเซินเจิ้น
หนุ่มเซินเจิ้นนั้นแต่เดิมมาจากที่ต่างๆกัน ทำให้วัฒธรรมเดิมของตนไม่เด่นชัด แต่ที่แน่ๆ พวกเขามีทักษะทางด้านการค้าขายสูง ดังนั้นหนุ่มเซินเจิ้นส่วนใหญ่จึงทั้งหนุ่มแน่นและร่ำรวย ค่อนข้างสนใจรูปลักษณ์ภายนอกของตนเอง นิยมสวมสูท รองเท้าหนัง ส่วนช่วงเวลาพักผ่อนแต่งตัวตามสบาย สนุกสนานร่าเริงมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา ชอบเปลี่ยนทรงผม พวกเขาไม่เพียงหาเงินเก่ง แต่ก็ใช้เงินเก่งด้วยเช่นกัน
ที่มา : เว็บไซต์ TOM