xs
xsm
sm
md
lg

‘เจงกิสข่าน’ กับมนต์ขลังทางธุรกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี 25/07/06 – เพียง 15 ปีหลังมองโกเลียเป็นอิสระจากการปกครองภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์ของอดีตสหภาพโซเวียตที่นานนับ 70 ปี ระบบทุนนิยมได้ย่างกายเข้าสู่ดินแดนแห่งทุ่งราบอันกว้างใหญ่ไพศาล พร้อมๆ กับ ‘เจงกิสข่าน’ จักรพรรดิผู้เกรียงไกรแห่งชนเผ่ามองโกล ได้กลายเป็น ‘เครื่องหมายการค้า’ สัญลักษณ์แห่งผู้พิชิตชัยทางการตลาด

ภาพวีรบุรุษผู้มีนัยน์ตาคมกริบ ‘เจงกิสข่าน’ ปรากฏให้เห็นอยู่ทุกหนทุกแห่งในอูลานบาตอร์ เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย โดยเฉพาะในรูปแบบของที่ระลึกสารพัดแบบที่ขายให้แก่นักท่องเที่ยว

คริสต์ศตวรรษที่ 13 พระนามของประมุขแห่งชนเผ่ามองโกลที่นำทัพพิชิตชัยจนได้ขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หยวนของจีน (ค.ศ.1271-1368) นิยมถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของเครื่องดื่มนมม้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และวอดก้าไม่น้อยกว่า 4 ชนิด ตามด้วยการตั้งเป็นชื่อยี่ห้อเบียร์ รวมไปถึงเครื่องดื่มชูกำลังท้องถิ่นหลายเจ้าในปัจจุบัน

ดูเหมือนทั่วเมืองอูลานบาตอร์จะไม่มีใครยอมพลาดที่จะสร้างรายได้จากชื่อของวีรบุรุษแห่งชาติ ตั้งแต่ร้านขายของเก่า โรงแรม 5 ดาวเจ้าใหญ่สุด ร้านอาหาร กล่องไม้ขีดไฟ แสตมป์และเหรียญที่ระลึก ล้วนตั้งชื่อหรือมีรูปของ ‘เจงกิสข่าน’ ประดับไว้ทั้งสิ้น ด้วยต่างหวังว่าจะเป็นเจ้าแห่งธุรกิจเฉกเช่นความยิ่งใหญ่อย่างที่จักรพรรดิของตนเคยจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

เนื่องในวาระฉลองครบรอบ 800 ปีแห่งการสถาปนาอาณาจักรมองโกลที่ก่อตั้งโดยเจงกิสข่าน รัฐบาลยังได้อาศัยชื่อปฐมกษัตริย์ของตนเป็นแม่เหล็กดึงดูดเป้าหมายนักท่องเที่ยว 500,000 คนในปีนี้

แม้แต่สนามบินนานาชาติของเมืองหลวงอูลานบาตอร์ก็ยังเปลี่ยนจากชื่อ Buyant Ukhaa มาเป็นชื่อ ‘เจงกิสข่าน’ ในปีแห่งการเฉลิมฉลองนี้ด้วย เพื่อหวังจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ชาวมองโกลผู้เคารพรัก‘เจงกิสข่าน’ ต่างไม่ค่อยสบอารมณ์ที่เห็นวีรบุรุษอันเสมือนเป็นพระเจ้าของตนกลายเป็นเครื่องมือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนบุคคล

“มีการใช้ชื่อ ‘เจงกิสข่าน’ กับสิ่งต่างๆ เยอะเกินไปแล้ว โดยคำนึงถึงแต่การอาศัยชื่อของท่านเพื่อทำธุรกิจ โดยไม่เคารพต่อชื่อเสียงเกียรติยศของท่าน” Kh.Lkhagvasuren อธิการบดีมหาวิทยาลัย Chinggis Khaan ในอูลานบาตอร์เผยความอัดอั้น

โดยเฉพาะการนำชื่อ ‘เจงกิสข่าน’ ไปใช้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยิ่งเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในทัศนะของศาสตราจารย์ O.Sukhbaatar จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน “ไม่มีใครในโลกหรอกที่จะตั้งชื่อวอดก้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามชื่อฮีโร่ของชาติตัวเอง”

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่โต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน รัฐสภามองโกเลียกำลังพิจารณาผ่านร่างกฎหมายที่จะกำหนดให้ ‘เครื่องหมายการค้าเจงกิสข่าน’ กลายเป็นสมบัติของชาติ โดยจะไม่อนุญาตให้บริษัทยาสูบนำชื่อหรือภาพของประมุขผู้ยิ่งใหญ่ไปใช้ เว้นเสียแต่จะเสียภาษีในอัตราพิเศษที่ทางการกำหนด

ศ. O.Sukhbaatar ยังแสดงความไม่พอใจที่บ้านใกล้เรือนเคียงอย่าจีนนำชื่อจอมทัพแห่งชาวมองโกลไปใช้อย่างพร่ำเพรื่อ “มีโรงแรม ร้านอาหาร และบริษัททัวร์ในจีนตั้งชื่อว่า ‘เจงกิสข่าน’ เป็นจำนวนมาก ส่วนที่เขตปกครองมองโกเลียในถึงขนาดอ้างสิทธิ์การเป็นสถานที่ฝังศพของ ‘เจงกิสข่าน’ เพื่อความชอบธรรมในการใช้ชื่อท่านเช่นกัน”

ทั้งนี้ ‘เจงกิสข่าน’ ยังนับเป็นชื่อยอดนิยมของบรรดาร้านอาหารทั่วทุกมุมโลก โดยหากลองพิมพ์ชื่อ ‘Genghis Khan Restaurant’ ในระบบสืบค้นข้อมูล จะได้ผลลัพธ์กว่า 200,000 ชื่อ และสำหรับนักกินทั้งหลายตั้งแต่ซิดนีย์ โตเกียว ไปถึงซีแอตเติล ย่อมยกนิ้วให้เมนูเด็ดอย่าง ‘มองโกเลี้ยนบาร์บีคิว’
กำลังโหลดความคิดเห็น