เมื่อเร็วๆ นี้ได้ยินมีคำเปรียบเทียบด่าว่าผู้คนบางคนบางกลุ่มเป็น “ หนู ” รู้สึกอดไม่ได้ที่จะต้องนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันสักหน่อยบน “ โต๊ะจีน ”
ทั้งนี้ มิได้หมายความว่าจะหยิบหนูขึ้นมาเป็นเมนูจานเด็ดอย่างที่มีคนบางกลุ่มบางชาตินิยมกันอย่างแพร่หลายโดยเห็นว่าเป็นอาหารโด๊ปนะครับ โปรดอย่าเข้าใจผิดเป็นอันขาด เพราะถึงแม้จะปรุงอย่างสะอาดแค่ไหนก็ไม่ใช่เนื้อสัตว์ที่ควรนำมาบริโภค
ยังนึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ทำไมใครคนนั้นชอบเปรียบผู้คนเป็นสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระจอก กบ จิงโจ้ แล้วล่าสุดมาเป็น หนู หรือว่าในความคิดของเขาไม่เคยที่จะนึกคิดเห็นคนเป็นคนเป็นมนุษย์ จึงต้องเปรียบคนเป็นสัตว์อยู่เรื่อยไป
ลองหาโอกาสคิดใหม่ทำใหม่จริงๆ อย่างมีสติสัมปชัญญะแล้วมองเห็นคนอื่นๆ เป็นคนเหมือนกันดูบ้าง แม้ว่าคนอื่นๆ จะมีความคิดเห็นที่ผิดแปลกแตกต่างกันก็ตาม บางทีจะแก้ปัญหาที่สะสมคั่งค้างอยู่มากมายให้ลุล่วงไปได้มากกว่านี้ ดีกว่าเปลี่ยนแปลงแต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหาบางท้องถิ่น บางภูมิภาคกันเรื่อยๆ ซึ่งเปลี่ยนไปตั้งหลายคนจนจำไม่ได้ว่ามีใครบ้าง ในขณะที่ผู้สั่งการเปลี่ยนแปลงไม่เคยคิดเปลี่ยนความคิดเห็นของตนเองในการที่ไม่เห็นคนอื่นเป็นคน
เคยมีคำคมของคนเขียนสอนคนไว้ กระผมจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนแต่งคำคมนี้แต่ขออนุญาตนำมาบอกต่อ เพราะมีคำสอนที่น่าคิดว่า
“ คนเห็นคนใช่คนนั่นใช่คนคนเห็นคนไม่ใช่คนใช่คนไม่
人见人是人就是人,人见人不是人不是人。
เหยินเจี้ยนเหยินซื่อเหยินจิ้วซื่อเหยิน , เหยินเจี้ยนเหยินปู้ซื่อเหยินปู้ซื่อเหยิน
Rén jiàn rén shì rén jiù shì rén, rén jiàn rén bù shì rén bù shì rén. ”
หวังว่าคำสอนนี้คงช่วยสะกิดต่อมนึกคิดให้รู้จักคิดใหม่ทำใหม่บ้างนะครับ ไม่ใช่เห็นคำสอนแล้วหัวเราะจนฟันเหยิน ไม่ว่าจะเป็นเหยินใหญ่หรือเหยินเล็กของทีมบราซิลในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบแรก ยังดีที่เหยินใหญ่แก้ตัวได้ในนัดสุดท้ายที่เตะกับญี่ปุ่นทำได้คนเดียว ๒ เม็ด มิฉะนั้น อาจถูกจวกเละในการที่เขาส่งตัวลงไปเตะฟุตบอลแล้วทำเหมือนลงไปเดินเล่นในสนาม ก็ยังดีที่ไม่ถึงกับเว้นวรรคไม่ลงเตะแล้วพาเมียไปเดินช้อปปิงเพื่อชิ่งหนีเผือกร้อน 热芋头 ยื่ออวี้ย์โถว rè yù tǒu
ดูไปแล้ว บางทีนักการเมืองก็เหมือนนักฟุตบอลนะครับ ใครชอบเล่นเด่นเป็นวันแมนโชว์อยู่เรื่อยๆ หากทำผิดพลาดย่อมถูกรุมด่าเละเทะเหมือนกัน ถ้าหากดูฟุตบอลด้วยความคิดแบบนี้ ย่อมมีประโยชน์กว่าการดูฟุตบอลแบบนักพนัน
ถ้ารู้สึกตนเอง “ อ้วนเกินไป ” เพราะ “ กินมากไป ” ก็น่าจะ “ แขวนสตั๊ด ”ไม่ต้องลงสนามไปให้คนรุมด่าแล้วตนเองต้องทรมานสังขารทั้งร่างกายและจิตใจ
กลับมาคุยเรื่องหนูกันต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านจะหาว่าคุยออกนอกเรื่อง แต่ท่านที่อ่านเป็นประจำแล้ว ย่อมเข้าใจดีว่ากระผมจะหยิบยกหลายอย่างมาขึ้นโต๊ะจีนในคราวเดียวกันเพราะถ้ามีแต่ หูฉลาม ก้ามปูทอด เนื้อสอดไส้ ไข่หมกเม็ด เป็ดปักกิ่ง โดยไม่มีผักผลไม้ของหวานแซมมาบ้าง ถึงจะเป็นอาหารวิเศษแค่ไหนมันก็จะเลี่ยนเหมือนกัน
老鼠หล่าวสู่ lǎo shǔ หนูเป็นสัตว์ตัวเล็กที่สุดใน ๑๒ นักษัตร แต่กลับถูกจัดให้อยู่ในอันดับ ๑ ของปี แสดงว่า หนูมีความโดดเด่นเป็นพิเศษจึงเป็นหัวหน้าของสัตว์ทั้งปวงตามปีเกิดซึ่งความจริงมนุษย์นั่นเองเป็นคนสมมติขึ้นว่าปีนั้นเป็นสัตว์ตัวนั้น
การที่มีผู้ยิ่งใหญ่บางคนเรียกคนบางคนบางกลุ่มเป็นหนู จึงเป็นข้อเปรียบเทียบที่ใกล้เคียงที่สุดนับตั้งแต่นำไปเปรียบเทียบกับสัตว์ทั้งหลาย เพราะหนูตัวเล็กๆ ที่ใครเห็นก็ทั้งเกลียดทั้งกลัวนั้น มีพิษสงร้ายกาจหลายอย่างเกินตัวของมันมากนัก
อันตรายร้ายกาจของหนูมีทั้งกิน กัด แทะ สกปรก น่ากลัวน่ารำคาญ เป็นตัวแพร่เชื้อกาฬโรค โรคกลัวน้ำ โรคฉี่หนู มันยังแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วและอาศัยอยู่ได้ทั้งในซอกในรูตลอดจนตึกสูงระฟ้าอยู่ได้ทั้งใต้ถุนบ้านถึงหลังคาบ้าน ห้องส้วมถึงห้องนอน ฯลฯ
ความจริงเคยมีคนจีนยุคโบราณท่านหนึ่ง 管仲ก่วนจ้ง Guǎn zhòng เป็นนายกรัฐมนตรีรัฐฉี 齐国ฉีกว๋อ Qí guó เคยเปรียบคนบางคนเป็นหนู โดยเรียกว่า “ หนูผี ” และเป็นหนูที่ไม่ได้อยู่ไกลตัวแต่อยู่รอบข้างของเจ้านครรัฐ 齐桓公ฉีหวนกง Qí huán gōng นั่นเอง
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีก่วนจ้งจะถึงแก่อสัญกรรม ท่านได้กราบทูลเตือนฉีหวนกงให้รีบกำจัดหนูผีที่อยู่รอบข้างเสีย มิฉะนั้นรัฐฉีจะต้องวอดวายเพราะหนูผีพวกนั้น แต่ฉีหวนกงไม่ทรงเชื่อ จุดจบของฉีหวนกงจึงน่าเศร้ามาก
กระผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ “ สิบยอดผู้นำแผ่นดินจีน ” พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๓ ฉบับที่ยังวางตลาดอยู่เป็นการพิมพ์ครั้งที่ ๔ โดยสำนักพิมพ์เคล็ดไทย ใครสนใจโปรดหาอ่านได้ตามอัธยาศัยครับ
ทั้งนี้ มิได้หมายความว่าจะหยิบหนูขึ้นมาเป็นเมนูจานเด็ดอย่างที่มีคนบางกลุ่มบางชาตินิยมกันอย่างแพร่หลายโดยเห็นว่าเป็นอาหารโด๊ปนะครับ โปรดอย่าเข้าใจผิดเป็นอันขาด เพราะถึงแม้จะปรุงอย่างสะอาดแค่ไหนก็ไม่ใช่เนื้อสัตว์ที่ควรนำมาบริโภค
ยังนึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ทำไมใครคนนั้นชอบเปรียบผู้คนเป็นสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระจอก กบ จิงโจ้ แล้วล่าสุดมาเป็น หนู หรือว่าในความคิดของเขาไม่เคยที่จะนึกคิดเห็นคนเป็นคนเป็นมนุษย์ จึงต้องเปรียบคนเป็นสัตว์อยู่เรื่อยไป
ลองหาโอกาสคิดใหม่ทำใหม่จริงๆ อย่างมีสติสัมปชัญญะแล้วมองเห็นคนอื่นๆ เป็นคนเหมือนกันดูบ้าง แม้ว่าคนอื่นๆ จะมีความคิดเห็นที่ผิดแปลกแตกต่างกันก็ตาม บางทีจะแก้ปัญหาที่สะสมคั่งค้างอยู่มากมายให้ลุล่วงไปได้มากกว่านี้ ดีกว่าเปลี่ยนแปลงแต่งตั้งผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหาบางท้องถิ่น บางภูมิภาคกันเรื่อยๆ ซึ่งเปลี่ยนไปตั้งหลายคนจนจำไม่ได้ว่ามีใครบ้าง ในขณะที่ผู้สั่งการเปลี่ยนแปลงไม่เคยคิดเปลี่ยนความคิดเห็นของตนเองในการที่ไม่เห็นคนอื่นเป็นคน
เคยมีคำคมของคนเขียนสอนคนไว้ กระผมจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนแต่งคำคมนี้แต่ขออนุญาตนำมาบอกต่อ เพราะมีคำสอนที่น่าคิดว่า
“ คนเห็นคนใช่คนนั่นใช่คนคนเห็นคนไม่ใช่คนใช่คนไม่
人见人是人就是人,人见人不是人不是人。
เหยินเจี้ยนเหยินซื่อเหยินจิ้วซื่อเหยิน , เหยินเจี้ยนเหยินปู้ซื่อเหยินปู้ซื่อเหยิน
Rén jiàn rén shì rén jiù shì rén, rén jiàn rén bù shì rén bù shì rén. ”
หวังว่าคำสอนนี้คงช่วยสะกิดต่อมนึกคิดให้รู้จักคิดใหม่ทำใหม่บ้างนะครับ ไม่ใช่เห็นคำสอนแล้วหัวเราะจนฟันเหยิน ไม่ว่าจะเป็นเหยินใหญ่หรือเหยินเล็กของทีมบราซิลในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบแรก ยังดีที่เหยินใหญ่แก้ตัวได้ในนัดสุดท้ายที่เตะกับญี่ปุ่นทำได้คนเดียว ๒ เม็ด มิฉะนั้น อาจถูกจวกเละในการที่เขาส่งตัวลงไปเตะฟุตบอลแล้วทำเหมือนลงไปเดินเล่นในสนาม ก็ยังดีที่ไม่ถึงกับเว้นวรรคไม่ลงเตะแล้วพาเมียไปเดินช้อปปิงเพื่อชิ่งหนีเผือกร้อน 热芋头 ยื่ออวี้ย์โถว rè yù tǒu
ดูไปแล้ว บางทีนักการเมืองก็เหมือนนักฟุตบอลนะครับ ใครชอบเล่นเด่นเป็นวันแมนโชว์อยู่เรื่อยๆ หากทำผิดพลาดย่อมถูกรุมด่าเละเทะเหมือนกัน ถ้าหากดูฟุตบอลด้วยความคิดแบบนี้ ย่อมมีประโยชน์กว่าการดูฟุตบอลแบบนักพนัน
ถ้ารู้สึกตนเอง “ อ้วนเกินไป ” เพราะ “ กินมากไป ” ก็น่าจะ “ แขวนสตั๊ด ”ไม่ต้องลงสนามไปให้คนรุมด่าแล้วตนเองต้องทรมานสังขารทั้งร่างกายและจิตใจ
กลับมาคุยเรื่องหนูกันต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านจะหาว่าคุยออกนอกเรื่อง แต่ท่านที่อ่านเป็นประจำแล้ว ย่อมเข้าใจดีว่ากระผมจะหยิบยกหลายอย่างมาขึ้นโต๊ะจีนในคราวเดียวกันเพราะถ้ามีแต่ หูฉลาม ก้ามปูทอด เนื้อสอดไส้ ไข่หมกเม็ด เป็ดปักกิ่ง โดยไม่มีผักผลไม้ของหวานแซมมาบ้าง ถึงจะเป็นอาหารวิเศษแค่ไหนมันก็จะเลี่ยนเหมือนกัน
老鼠หล่าวสู่ lǎo shǔ หนูเป็นสัตว์ตัวเล็กที่สุดใน ๑๒ นักษัตร แต่กลับถูกจัดให้อยู่ในอันดับ ๑ ของปี แสดงว่า หนูมีความโดดเด่นเป็นพิเศษจึงเป็นหัวหน้าของสัตว์ทั้งปวงตามปีเกิดซึ่งความจริงมนุษย์นั่นเองเป็นคนสมมติขึ้นว่าปีนั้นเป็นสัตว์ตัวนั้น
การที่มีผู้ยิ่งใหญ่บางคนเรียกคนบางคนบางกลุ่มเป็นหนู จึงเป็นข้อเปรียบเทียบที่ใกล้เคียงที่สุดนับตั้งแต่นำไปเปรียบเทียบกับสัตว์ทั้งหลาย เพราะหนูตัวเล็กๆ ที่ใครเห็นก็ทั้งเกลียดทั้งกลัวนั้น มีพิษสงร้ายกาจหลายอย่างเกินตัวของมันมากนัก
อันตรายร้ายกาจของหนูมีทั้งกิน กัด แทะ สกปรก น่ากลัวน่ารำคาญ เป็นตัวแพร่เชื้อกาฬโรค โรคกลัวน้ำ โรคฉี่หนู มันยังแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วและอาศัยอยู่ได้ทั้งในซอกในรูตลอดจนตึกสูงระฟ้าอยู่ได้ทั้งใต้ถุนบ้านถึงหลังคาบ้าน ห้องส้วมถึงห้องนอน ฯลฯ
ความจริงเคยมีคนจีนยุคโบราณท่านหนึ่ง 管仲ก่วนจ้ง Guǎn zhòng เป็นนายกรัฐมนตรีรัฐฉี 齐国ฉีกว๋อ Qí guó เคยเปรียบคนบางคนเป็นหนู โดยเรียกว่า “ หนูผี ” และเป็นหนูที่ไม่ได้อยู่ไกลตัวแต่อยู่รอบข้างของเจ้านครรัฐ 齐桓公ฉีหวนกง Qí huán gōng นั่นเอง
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีก่วนจ้งจะถึงแก่อสัญกรรม ท่านได้กราบทูลเตือนฉีหวนกงให้รีบกำจัดหนูผีที่อยู่รอบข้างเสีย มิฉะนั้นรัฐฉีจะต้องวอดวายเพราะหนูผีพวกนั้น แต่ฉีหวนกงไม่ทรงเชื่อ จุดจบของฉีหวนกงจึงน่าเศร้ามาก
กระผมเคยเขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ “ สิบยอดผู้นำแผ่นดินจีน ” พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๓ ฉบับที่ยังวางตลาดอยู่เป็นการพิมพ์ครั้งที่ ๔ โดยสำนักพิมพ์เคล็ดไทย ใครสนใจโปรดหาอ่านได้ตามอัธยาศัยครับ