xs
xsm
sm
md
lg

พู่กัน &笔

เผยแพร่:   โดย: โชติช่วง นาดอน

ตัวอักษรเป็นประดิษฐกรรมที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งของมนุษยชาติ การคิดค้นสัญลักษณ์ขึ้นมาสื่อแสดงแทน “ถ้อยคำ” ในภาษาพูดได้สำเร็จ นับเป็นจุดเริ่มต้นแห่งอารยธรรมยุคใหม่ ทำให้เกิดการก้าวกระโดดทางความเจริญรุ่งเรืองด้านวัฒนธรรมในทุกๆ ด้าน

ลักษณะของตัวอักษรที่คนโบราณแต่ละกลุ่มประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมา จะเป็นไปตามวัตถุดิบที่ใช้บันทึกและเครื่องมือในการขีดเขียน เช่น เริ่มต้นขีดเขียนลงบนแผ่นดินเหนียวเปียก ตัวอักษรก็จะเป็นรูปเหลี่ยม เป็นต้น

ชนชาติจีนเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่มีอักษรใช้มาเก่าแก่มาก ลักษณะตัวอักษรจีนเป็นอักษรรูปภาพคือถ่ายแบบมาจากรูปเหมือนจริง แล้วค่อยๆ เปลี่ยนแปรย่อรูปลง เครื่องมือในการเขียนตัวอักษรจีนคือพู่กัน

ตัวอักษรคำว่า “ปี่ – พู่กัน” ในสมัยโบราณนั้น ภาพด้านบนขวาเป็นรูปมือ ส่วนกลางและล่างเป็นรูปด้ามพู่กันและปลายพู่กัน (ขนสัตว์)

ต่อมาพัฒนาเปลี่ยนแปลงไป โดยที่ด้ามพู่กันนั้นสมัยก่อนส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ไผ่ ตัวอักษาจีนคำว่าพู่กันจึงมีสัญลักษณ์ไม้ไผ่อยู่ข้างบน ส่วนด้านล่างใช้สัญลักษณ์ของคำว่า “เหมา - ขน” 笔

ตามตำนานเก่าแก่ของจีน เล่ากันว่า นายพลเหมิงเถียน นายทหารที่ทำสงครามเก่งมากคนหนึ่งของจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์ขึ้น

ตำนานเรื่องนี้ผิดพลาดแน่นอน เพราะการเขียนภาษาจีนมีประวัติเก่าแก่กว่านั้นมาก หลักฐานทางโบราณคดีก็ยืนยันได้ นั่นคือ “กระดูกทำนาย – เจี๋ยกู่เหวิน” มีร่องรอยของสีดำและแดงหลงเหลืออยู่ แสดงว่ามีการใช้พู่กันเขียนตัวอักษรบนกระดูกทำนายก่อน เมื่อสีแห้งแล้วจึงใช้มีดหรือของมีคมขีดขูดให้ลายอักษรเป็นร่องรอยบนกระดูก

“อักษรกระดูกทำนาย” 甲骨文 คือลวดลายอักษรที่ปรากฏอยู่บนกระดูกสัตว์ ที่คนโบราณยุดราชวงศ์ซาง 1,700 -1,100 BC ใช้ในการพยากรณ์ทำนายทายทัก

สมัยก่อนเรียกกันว่า “กระดูกมังกร” แพทย์จีนโบราณนำมาใช้เป็นยารักษาโรค ต่อมามีปราชญ์ทางอักษรศาสตร์สังเกตเห็นว่ากระดูกเหล่านี้มีจารึกตัวอักษรโบราณไว้ จึงรวบรวมนำมาศึกษาค้นคว้า จนในที่สุดหลักฐานจากกระดูกทำนายยุคราชวงศ์ซางนี้ ก็ทำให้เราทราบถึงต้นแบบของตัวอักษรจีนได้

การจารึกอักษรบนกระดูกทำนายนั้น นิยมใช้กระดองเต่า กระดูกสะบักวัวควาย เขาใช้ของมีคมขูดขีดเป็นร่องรอย แต่ในกระดูกบางชิ้นก็พบรอยสีดำหรือแดงปรากฏอยู่ด้วย นักโบราณคดีสรุปว่า คนโบราณคงใช้พู่กันเขียนด้วยหมึกสีดำหรือสีแดงก่อน เมื่อหมึกแห้งแล้วจึงใช้มีดหรือของมีคมขีดขูด

นั่นแสดงว่าคนจีนมีพู่กันใช้มานานก่อนยุคจิ๋นซีฮ่องเต้แล้ว

การเขียนหนังสือของคนจีนโบราณนั้น ก่อนที่จะรู้จักทำกระดาษ เขาเขียนลงบนแผ่นไม้ไผ่หรือบนผ้า การใช้พู่กันเขียนทำให้ต้องเขียนจากบนลงล่าง และเขียนเรียงจากขวาไปซ้าย

หนังสือจีนโบราณเขาเรียกจำนวนว่า “ม้วน” ที่เป็นม้วนเพราะเมื่อเขียนลงบนแผ่นไม้ไผ่แล้ว ก็จะนำมาเรียงแล้วผูกให้ติดกัน เวลาเก็บรักษาก็ม้วนเก็บ เวลาอ่านก็คลี่ม้วนออกอ่าน

ก่อนจะมีกระดาษใช้กันแพร่หลาย หนังสือจีนมีลักษณะเป็นม้วนแผ่นไม้ไผ่ มีหลักฐานพบหลายชิ้นในสุสานยุคต้นราชวงศ์ฮั่น

หนังสือม้วนไม้ไผ่ที่ค้นพบในสุสานหม่าหวางตุย มีหนังสือสำคัญมากเล่มหนึ่งคือคัมภีร์เต๋าเต็กเก็ง การค้นพบต้นฉบับที่เก่าแก่ที่สุดครั้งนั้น ทำให้ต้องมีการชำระปรับปรุงความถูกต้องคัมภีร์เต๋าเต็กเก็งกันใหม่ ถ้าจะศึกษาเนื้อหาของเต๋าเต็กเก็งที่ถูกต้องตามของโบราณมากที่สุดก็ต้องเลือกอ่านฉบับที่ชำระตรวจสอบกับฉบับหม่าหวางตุยแล้ว

พู่กันจีนที่คนจีนนิยมใช้กันมีหลายชนิด ที่ยังแพร่หลายกันในปัจจุบันมีสองร้อยกว่าชนิด ถ้านับชื่อพู่กันแบบต่างๆที่มีใช้อยู่และเคยมีชื่อเสียงปรากฏในประวัติศาสตร์แล้วก็มีหลายพันชนิด

เรื่องราวของพู่กันจีนที่เป็นภาษาไทยนั้น เท่าที่เห็นมีรายละเอียดมากหน่อยก็อยู่ในหนังสือเรื่อง “สี่ยอดสมบัติจีน ในห้องหนังสือ” ของอดุลย์ รัตนมั่นเกษม ที่เรียกว่าสื่อยอดสมบัติในห้องหนังสือนั้น ก็คืออุปกรณ์การเขียนนั่นเอง ประกอบด้วย พู่กัน หมึก จานหมึก และกระดาษ เรื่องเหล่านี้มีศาสตร์และศิลป์มาเกี่ยวข้องด้วยมาก ถ้าสนใจเรื่องพู่กันจีนก็หาอ่านจากหนังสือนี้ได้ครับ

สำหรับคนที่เป็นนักเขียนและนักวาดแล้ว พู่กันถือว่าเป็นอาวุธคู่มือที่ต้องทะนุถนอมรักเป็นพิเศษ

คนสมัยใหม่ บางคนนิยมสะสมปากกากันอย่างไร คนโบราณเขาก็รักและนิยมสะสมพู่กันในทำนองเดียวกัน

มีตำนานนิทานหลายเรื่องที่ผูกเรื่องให้กวีมีความผูกพันกับพู่กันประจำตัวอยู่หลายเรื่อง

เรื่องหนึ่งเล่าว่า ในยุคหนานเป่ย(ค.ศ.420-589) มีกวีผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อ “เจียงเยียน” 江淹เขียนกวีจนโด่งดังมานาน คืนหนึ่งฝันเห็นชายผู้หนึ่ง มาบอกว่าเขาคือบุตรชายของเซียน “กัวผู” 郭璞 และว่าเขามีพู่กันด้ามหนึ่ง ให้เจียงเยียนใช้มานานแล้ว ตอนนี้สมควรคืนให้เขาแล้ว

ในฝันนั้น เจียงเยียนหยิบพู่กันมีรัศมีสีห้าสีมอบให้ชายผู้นั้นไป หลังจากตื่นขึ้นแล้ว ปรากฏว่าเจียงเยียนแต่งกวีไม่ได้อีกเลย

อีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า หลี่ไป๋ 李白มหากวีของจีน เมื่อตอนเป็นเยาวชน คืนหนึ่งเขาฝันว่าพู่กันของเขาเกิดมีดอกไม้งอกบานออกมาช่อหนึ่ง ต่อมาหลี่ไป๋จึงเขียนกวีได้ไพเราะงดงามมาก

อันที่จริงการประพันธ์หนังสือ จะได้ผลงานดีไม่ดีเพียงใด ขึ้นกับความสามารถในเชิงวรรณศิลป์และความลึกซึ้งของความคิดของผู้เขียน ปากกาหรือพู่กันที่ดีที่งดงามนั้น ช่วยทำให้คนเขียนมีความสุขสดชื่นใจได้ แต่มิได้ช่วยให้สิ่งที่เขียนออกมานั้นดีหรือไม่ดีเลยครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น