xs
xsm
sm
md
lg

พี่น้องไทในยูนนาน

เผยแพร่:   โดย: โชติช่วง นาดอน

วันหยุดสงกรานต์ปีนี้มีโอกาสพามิตรเก่าชาวไทเหนือ(ในยูนนาน)เที่ยวเมืองสุพรรณและกาญจนบุรี จากกันไปสิบหกปี ได้มาพบกันใหม่ก็ย่อมต้องดีใจมีสุขเป็นธรรมดา

ผมได้พบกับเขาเพราะเหตุที่ผมดั้นด้นไปค้นคว้าสำรวจเรื่องเกี่ยวกับชนเผ่าไทในจีนแผ่นดินใหญ่ พบกันครั้งแรกเขาเป็นนักศึกษาปริญญาโทด้านภาษาไทยอยู่ที่สถาบันชนชาติส่วนน้อยยูนนาน แล้วต่อมาเขามาเรียนภาษาไทยที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขากลับไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีก จนกระทั่งเขามาทำงานที่สถานทูตจีนในไทย

พูดถึงชนชาติไทในยูนนานแล้ว บางท่านอาจจะปวดหัว เพราะมีชื่อไทนั่นไทนี่อะไรเยอะแยะไปหมด ผมจะลองยกตัวอย่างให้ดูเช่น ไทลื้อ ไทมาว ไทเหนือ ไทน้ำ ไทแข่ ไทเอวลาย ไทด่อน ไทเต้อ(ใต้)คง ไทขอน(ขวัญ) ฯลฯ ดูๆไปก็สับสน

แต่ถ้าได้ศึกษาข้อมูลแล้วจะไม่สับสน สามารถแยกเป็นกลุ่มๆได้ไม่กี่กลุ่ม

คำว่า “ไท” หรือ “ไต” หมายถึง “คน”

คำตามหลังเป็นคำขยายให้ชัดขึ้นว่า เป็นคนกลุ่มไหน เป็นต้น ว่าเอาชื่อเมืองถิ่นที่อยู่ตามหลังเพื่อบอกว่าเป็นคนไทเมืองนั้นเมืองนี้ เช่น ไทใต้คง คือ กลุ่มคนไทที่อยู่ฝั่งใต้ของแม่น้ำคง(สาละวิน) ไทมาว คือ กลุ่มคนไทที่อยู่เมืองมาวหลวง ไทขอน(ขวัญ) คือกลุ่มคนไทที่อยู่เมืองขวัญ ไทเหนือ คือกลุ่มคนไทที่อยู่แดนเหนือกว่ากลุ่มอื่น

บ้างก็ใช้ลักษณะการแต่งกายมาขยายความ เช่น ไทด่อนหรือไทขาว คือ กลุ่มคนไทที่ผู้หญิงสวมเสื้อสีขาว (กลุ่มนี่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนเวียดนาม) ไทเอวลายคือกลุ่มคนไทที่ผู้หญิงนุ่งซิ่นสั้นที่เอวปักลวดลาย

บ้างก็เอาถิ่นที่อยู่การตั้งบ้านเรือนมาเป็นคำขยาย เช่น ไทน้ำ คือกลุ่มคนไทที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้น้ำ อยู่เรือนเสาสูง ผู้หญิงนุ่งซิ่น ไทบกสร้างบ้านบนพื้นแบบจีน ผู้หญิงนุ่งกางเกงแบบจีน

บ้างก็ขยายด้วยวัฒนธรรม เช่น ไทแข่ หรือแขก หมายถึงจีน ไทแข่ คือกลุ่มคนไทที่รับวัฒนธรรมแบบจีนบางอย่าง เช่น ปลูกบ้านบนพื้นแบบจีน ผู้หญิงนุ่งกางเกงแบบจีน เพราะฉะนั้น ไทแข่ ก็เป็นกลุ่มเดียวกับ ไทบก นั่นเอง

ดังนั้นจากชื่อไทร้อยชื่อในยูนนาน ผมจึงแบ่งคนไทในยูนนานเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ 1 กลุ่มไทในสิบสองพันนา กลุ่มนี้ใกล้เคียงกับลาว, คนเมือง(ล้านนา) 2 กลุ่มไทใต้คง กลุ่มนี้เป็นต้นตอของไทใหญ่, ไทอาหม (มีกลุ่มย่อย เช่น ไทมาว, ไทเหนือ, ไทขอน, ไทแข่) 3 กลุ่มไทที่กระจายมาจากแดนเวียดนาม (ไทขาว, ไทดำ) 4 กลุ่มไทสายที่ใกล้เคียงกับพวกจ้วงในกวางสี ได้แก่ ไทเอวลาย เป็นต้น

เพื่อนผมคนนี้เขาเป็นคนไทในกลุ่มใต้คง ภาษาไทเหนือของเขาใกล้เคียงกับไทใหญ่

เรื่องราวคนกลุ่มไทในยูนนานที่บ้านเรารับรู้กันมากหน่อยนั้นเป็นไทกลุ่มสิบสองพันนากับกลุ่มไทขาว ไทดำ

แต่เรื่องของไทไต้คงกับไทเอวลายนั้น ยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าใด สมควรที่เพิ่มพูนการวิจัยค้นคว้าในจุดนี้ให้มากขึ้น

เพื่อนของผมคนนี้ชื่อ “ทุนจิ่งดาว” “ดาว” (ดาว,ดารา) เป็นนามสกุล ไพเราะดีจัง “ทุนจิ่ง” เป็นชื่อ “ทุน” มีความหมายตรงกับภาษาไทย “จิ่ง” แปลว่า เพชรพลอย

คุณทุนจิ่ง ชอบเขียนบทกวี คืนที่ผมพาไปค้างบ้านคุณ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เราจึงคุยกันเรื่องเกี่ยวกับภาษาและกวีกันมาก

บทกวีฉันทลักษณ์ ภาษาไทยเหนือ เขาเรียกว่า “ควมกับถูก” (ความกับถูก) “ควม” คือข้อความ “กับ” หมายถึง สัมผัสคล้องจองกัน “ถูก” คือถูกต้องเหมาะสม

“ควมกับถูก” บทกวีที่มีฉันทลักษณ์นั้น เยาวชนคนรุ่นใหม่ในใต้คงไม่ค่อยนิยมกันแล้ว หันไปแต่งคำประพันธ์ปนคำจีนเพื่อแสดงว่าตนเก่งภาษาจีน คุณทุนจิ่งดาวเป็นห่วงเสียดายความรู้ อันเป็นมรดกทางภาษาของคนไทเหนือจะหมดไป

เขาได้ยกตัวอย่าง คำสอนเด็กให้นับหนึ่งถึงสิบสองในภาษาไทเหนือให้พวกเราฟัง ซึ่ง 12 ข้อความนี้ก็ได้แสดงถึงสภาพของภูมิอากาศในช่วง 12 เดือนด้วย ถ้อยคำเหล่านี้ไพเราะและสื่อความหมายชัดแจ้งดีมาก

หนึ่ง – ปาตึงเลิ่ง = ปลาถึงลุ่มถึงวังน้ำ
สอง – ปาหลองแห้ง = ปลาหนองแห้ง
สาม – หมักขามสุกเหลือต้น = มะขามสุกเหนือต้น
สี่ – สามขึ้นกี่ตอลาย = สาวขึ้นกี่ทอลาย
ห้า – มอกญ่ากี่เหลือผา = ดอกหญ้าคลี่เหนือผา
หก - ล่ำตกคองสีโม่ = น้ำตกคลอเสียงดัง
เจ็ด - สาวป่อยเปดล่องล่ำ = สาวปล่อยเป็ดล่องน้ำ
แปด - ถ้าตายแดดเหนือเมอ = ต้นกล้าตายแดดเหนือมือ
เก้า - เข้าปั่นก็ขิวจิ้ม = ข้าวปั้นกอเขียวขจี
สิบ – ลกจับจิบจ่ำปาย = นกจับเกาะติดปลายไม้
สิบเอ็ด – ลกเก็ดเข้ากางลา = นกเก็บข้าวกลางนา
สิบสอง – ลกป้าอิ่มป้าอ่องอิ่มเข้า = นกอิ่มข้าวจนบินไม่ไหว

ภาษาเป็นมรดกล้ำค่า แต่ถ้าลูกหลานไม่รู้ค่าภาษาก็สูญ ภาษาไทในพื้นที่ต่างแดนสูญไปแล้วหลายแห่ง เป็นต้นว่า ไทอาหม ภาษาไทในจีนก็น่าห่วงเหมือนกัน เพราะคนรุ่นใหม่ต้องเรียนเป็นภาษาจีน เพื่อความก้าวหน้าทางอาชีพการงาน ความรู้ภาษาไท (ที่มีตัวอักษร) ทั้งภาษาไทลื้อ ไทใต้คง ไทด่วน นับวันจะหายไป แต่ภาษาไทยในประเทศไทย ก็มิใช่ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น