xs
xsm
sm
md
lg

คลองธรรม – เหญินเต๋อ &仁&德

เผยแพร่:   โดย: โชติช่วง นาดอน

สังคมสับสน มาตรฐานทางคุณธรรมตกต่ำ เราจำเป็นต้องคิดถึงเรื่องคุณธรรม จริยธรรม การรักษาทำนองคลองธรรมกันให้มากขึ้น

การนำเอาคำสอนของท่านขงจื้อมาเผยแพร่กันอีก น่าจะเหมาะสมกับภาวการณ์สังคมในขณะนี้
สัปดาห์นี้เป็นคติพจน์เกี่ยวกับ “คุณธรรม-เต๋อ-德” และ “คลองธรรม-เหญิน-仁

สังเกตตัวอักษรจีน เหญิน ข้างหน้าหมายถึง “คน” ข้างหลังหมายถึง “จำนวนสอง” หรือ หมายถึงหลายคนนั่นเอง เหญิน หมายถึง “คลองธรรม” ระหว่างมนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม หากแต่ละคนไม่รักษาคลองธรรม สังคมมนุษย์จะปั่นป่วนวุ่นวาย มนุษย์เราจะรักษาคลองธรรมไว้ได้ ก็ต้องมีความรักเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ

รักตัวเองคนเดียว ใจแคบที่สุด

รักตนกับรักแฟนตน ก็ยังใจแคบ

รักครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง รักแฟน เท่านั้น ก็ยังไม่พอ

รักคนในหมู่บ้าน รักคนในอำเภอ รักคนในชาติ รักคนทั้งโลก ถ้ารู้จักสร้างความรักให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น คลองธรรมของท่านก็จะยิ่งสูง

มีนิทานจีนโบราณเรื่องหนึ่งเล่าว่า ชาวแคว้นฉู่คนหนึ่ง ทำธนูหายไป เขาพูดว่า ไม่เป็นไร คนแคว้นฉู่คนหนึ่งเสียธนูไป แต่คนแคว้นฉู่อีกคนหนึ่งได้ธนู

ท่านขงจื้อได้ฟังเรื่องนี้ ท่านบอกว่า เป็นเรื่องดี แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ควรจะตัดคำว่า “แคว้นฉู่” ออกเสีย

หมายความว่า ในมองคนในทัศนะที่กว้างขวางขึ้น ไม่จำกัดอยู่กับความเป็นชาติ
ท่านเล่าจื๊อ ปรมาจารย์ฝ่ายเต๋า ได้ยินเรื่องนี้ก็บอกว่า เป็นเรื่องดี แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ควรจะตัดคำว่า “คน” ทิ้งไปเลย

หมายความกว้างขึ้นลึกขึ้นกว่าท่านขงจื๊อเสียอีก คือให้มองว่าคนกับสรรพสิ่งในจักรวาลเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกอย่างเป็นสมมติ

ต่อไปนี้เรามาพิจารณาคติพจน์เกี่ยวกับคุณธรรมของท่านขงจื๊อ จากบันทึก “ลุ่นอวี่” ดังต่อไปนี้

“ท่านขงจื๊อว่า ความร่ำรวยและความสูงศักดิ์ เป็นสิ่งที่คนปรารถนาต้องการ แต่ถ้าหากว่าการได้รับสิ่งนั้นมาไม่ถูกต้องทำนองคลองธรรม นรชนจะไม่ยอมรับไว้ ความยากจนและความต่ำต้อยเป็นสิ่งที่คนรังเกียจ แต่ถ้าการหลุดพ้นจากสิ่งนั้น ด้วยวิถีอันไม่ถูกต้องทำนองคลองธรรม นรชนย่อมไม่กระทำ

นรชนละทิ้งคลองธรรม จะได้ชื่อเสียงด้วยความเลวได้อย่างไร

นรชนมิละเมิดคลองธรรม แม้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ขนาดกินข้าวยังมิจบมื้อ แม้ในขณะเร่งร้อนกระทำเรื่องราวก็ยังรักษาคลองธรรม แม้ยามระหกระเหินร่อนเร่ก็ยังรักษาคลองธรรม”

“ฝานฉื่อ (ศิษย์ขงจื๊อ) ถามเรื่องเหญิน ท่านขงจื๊อว่า รักมนุษย์ ถามเรื่องจือ (ปัญญาธรรม) ท่านขงจื๊อว่า เข้าในมนุษย์

ฝานฉื่อยังไม่แจ่มแจ้ง ท่านขงจื๊อว่า (ผู้ปกครอง) แต่งตั้งตนซื่อตรงเป็นใหญ่เหนือคนชั่ว สามารถทำให้คนชั่วกลับตัวซื่อตรงได้”

“ท่านขงจื๊อว่า ผู้รักษาคุณธรรมย่อมจะมีวาทะ แต่ผู้มีวาทะไม่แน่ว่าจะต้องมีคุณธรรม ผู้รักษาคลองธรรมย่อมจะมีความกล้า แต่ผู้มีความกล้าไม่แน่ว่าจะมีคลองธรรม”

“เหยียนหุ้ย (ศิษย์ขงจื๊อ) ถามเรื่องเหญิน ท่านขงจื๊อว่า เอาชนะควบคุมตัวเอง ให้ปฏิบัติตามจารีต (ทั้งกาย ใจ วาจา) นั่นคือเหญิน (คลองธรรม) เมื่อเอาชนะควบคุมตัวเองได้ ให้ปฏิบัติตามเหญินได้ เรื่องทั้งใต้ฟ้านี้ย่อมทำตามคลองธรรม การรักษาคลองธรรมขึ้นอยู่กับตัวเอง มิใช่ผู้อื่น

เหยียนหุ้ยถามถึงหลักปฏิบัติ ท่านขงจื๊อว่า อะไรที่ไม่ถูกจารีต จงไม่มอง อะไรที่ไม่ถูกจารีต จงไม่ฟัง อะไรที่ไม่ถูกจารีต จงไม่พูด อะไรที่ไม่ถูกจารีต จงไม่ทำ”

“ฝานฉื่อถามเรื่องเหญิน ท่านขงจื้อว่า ในยามปกติจงสงบเสงี่ยมมีสัมมาคารวะ ในการทำงานต้องเอาจริงเอาจัง ในการสัมพันธ์กับคนต้องสัตย์ซื่อ ถึงแม้การปฏิบัติต่อพวกชนเผ่าอนารยชน ก็มิอาจละเมิดกฎนี้”

“จื่อก้ง (ศิษย์ขงจื๊อ) ถามว่า หากมีผู้ที่สามารถยังประโยชน์แก่มวลประชาชน สามารถช่วยเหลือมวลชนทั้งปวงได้ จะเป็นอย่างไร จะสามารถเรียกว่ามีเหญิน – มีคลองธรรมหรือไม่

ท่านขงจื๊อว่า อะไรจะแค่เหญิน อย่างนี้ต้องเป็นอริยะบุคคลผู้บรรลุธรรมแล้ว แม้แต่หยาว สุ้น (ประมุขผู้ทรงธรรมล้ำเลิศในตำนาน) ยังกระทำเช่นนั้นได้ยากเลย

สำหรับเรื่องคลองธรรมของเราก็คือ ท่านอยากยืนตระหง่าน (กระทำกิจกรรม) ท่านจงช่วยให้ผู้อื่นยืนตระหง่าน (ได้ทำกิจกรรม) ท่านอยากประสบความสำเร็จ จงช่วยให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จ หากรับเอาสิ่งนี้ไปปฏิบัติ ก็นับว่าได้วิถีรักษาคลองธรรมแล้ว”

“จื่อจาง (ศิษย์ขงจื๊อ) ถามท่านขงจื๊อเรื่องเหยิน ท่านขงจื๊อว่า ต่อทั่วใต้ฟ้านี้หากปฏิบัติตามหลักห้ามประการนี้ได้ ถือว่ามีเหยิน

จื่อจางถามว่า หลักห้าประการใด

ท่านขงจื๊อว่า สงบเสงี่ยม ใจกว้าง (อารี) มีสัจจะ เฉียบแหลม เอื้ออาทร
สงบเสงี่ยมย่อมไม่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ใจกว้างย่อมได้รับการชมชอบจากมวลชน มีสัจจะได้รับความวางใจให้ทำหน้าที่ เฉียบแหลมย่อมสร้างผลงานความดีความชอบ เอื้ออาทรย่อมสามารถมอบหมายงานได้ง่าย”

“จื่อก้งถามว่า มีคำสอนใดคำเดียวที่นำไปปฏิบัติได้ตลอดชีวิตหรือไม่
ท่านขงจื้อว่า คือคำว่าโกรธ อะไรที่เราไม่ปรารถนา อย่ากระทำสิ่งนั้นกับคนอื่น”

อยากให้ธรรมะนี้ผ่านสมองของทุกฝ่ายที่กำลังจะตั้งป้อมชนกันในสังคมไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น