xs
xsm
sm
md
lg

“เฝิงเสี่ยวกัง” เจ้าพ่อหนังปีใหม่ / หมิงซิงคลับสเปเชี่ยล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เฝิงเสี่ยวกัง” ชื่อนี้อาจฟังดูไม่คุ้นนักสำหรับชาวไทย แต่ในแผ่นดินใหญ่แล้วไม่มีใครไม่รู้จักบุรุษผู้นี้ เพราะเขาคือผู้กำกับระดับคุณภาพชั้นแนวหน้าของประเทศ ที่ผลิตผลงานภาพยนตร์น้ำดีมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง

ดังขนาดไหนนะหรือ ก็ดังระดับที่ว่า เคยได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสารบิสเนส วีค ของอเมริกัน ให้ขึ้นแท่นคนดังแห่งเอเชียประจำปี 2004 เทียบเคียงกับ โจวเสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน จางซิน ซีอีโอของบริษัทโซหู ยักษ์เว็บไซต์มังกร และ เหมียวเหว่ย ประธานบริษัทตงเฟิง มอเตอร์ เลยทีเดียว ผลงานที่สร้างชื่อให้กับเขามีด้วยกันหลายเรื่อง ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็น Cellphone ภาพยนตร์สะท้อนชีวิตชาวจีนปัจจุบัน ที่ตกเป็นทาสของเครื่องมือสื่อสารที่เรียกว่า “โทรศัพท์มือถือ"

กว่าจะมาเป็นผู้กำกับชื่อดังได้อย่างในปัจจุบัน เส้นทางบันเทิงของเฝิงเสี่ยวกังแตกต่างจากผู้กำกับจีนคนอื่นๆ ตรงที่เขาไม่ได้ร่ำเรียนมาจากวิทยาลัยด้านการภาพยนตร์อย่างคนอื่นๆ แต่มาจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการทำงานด้านงานผลิตโทรทัศน์

เฝิงเสี่ยวกัง เกิดเมื่อปี 1958 พ่อเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ ส่วนแม่เป็นนางพยาบาล ตั้งแต่เล็กเฝิงหลงใหลในงานศิลปะ วรรณกรรมต่างๆ

หลังจากจบชั้นมัธยมปลายแล้ว เขาได้เข้าเป็นนักออกแบบศิลปะการเต้นรำให้กับคณะการแสดงของกองกำลังทหารปักกิ่ง ทำงานที่นี่อยู่ราว 8 ปี ในปี 1985 เขาเข้าทำงานเป็นนักออกแบบศิลป์ในสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในปักกิ่ง จากนั้นเริ่มเขียนบทโทรทัศน์

ในปี 1991 เขาได้รับดัดแปลงนิยายเรื่อง เป่ยจิงเหรินจ้ายหนิ่วเยว์ (Beijinger in Newyork) สร้างเป็นละครโทรทัศน์และลงมือกำกับเองเป็นครั้งแรก โดยนิยายร่วมสมัยที่สะท้อนชีวิตของชาวจีนที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในมหานครนิวยอร์กเรื่องนี้ แพร่ภาพในปี 1992 และโด่งดังเป็นพลุแตก

ต่อมาในปี 1992 เฝิงเสี่ยวกังเริ่มเบนเข็มเข้าสู่วงการหนังเซลลูลอยด์ จากการเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง After Seperation 《大撒把》 ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ของจีน ไก่ทองคำ ถึง 5 สาขาด้วยกัน จากนั้นในปี 1994 เฝิงขึ้นแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เต็มตัวกับผลงานกำกับหนังครั้งแรก Lost My Love

ตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา เฝิงเสี่ยวกังยังได้เริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการสร้างภาพยนตร์เพื่อฉลองวาระขึ้นปีใหม่ 4 ปีซ้อน ได้แก่เรื่อง The Dream Factory ในปีต่อมาสร้าง Be There or Be Square ถัดมาคือ Sorry, Baby ในปี 1999 และ A Sigh ในปี 2000 ซึ่งผลงานเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำรายได้เป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ ผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของเขา "เย่เยี่ยน" ที่ได้ดาราชั้นแนวหน้าของเอเชียมาร่วมแสดง อาทิ จางจื่ออี๋ แดเนียล วู เก่อโยว นักแสดงคู่บารมีของเฝิงเสี่ยวกัง และ โจวซวิ่น นำแสดง ก็ถูกเก็งเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีหน้าฟ้าใหม่นี้ด้วย

"เย่เยี่ยน" ถือเป็นผลงานท้าทายของเฝิง เพราะที่ผ่านมาเขาชำนาญการถ่ายทำหนังคอมเมดี้ฟอร์มเล็กสะท้อนสังคมยุคปัจจุบัน และได้รับการยอมรับในฝีมืออย่างแพร่หลาย แต่ครั้งนี้เขากลับตัดสินใจมาถ่ายทำหนังย้อนยุคฟอร์มยักษ์แทน...งานนี้ เฝิงเสี่ยวกังจะสอบผ่านหรือไม่ ต้งอติดตามกันต่อไป

ด้านชีวิตคู่ ปัจจุบันเฝิงเสี่ยวกัง แต่งงานกับดาราสาว สีว์ฟาน โดยเธอยังได้แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Be There or Be Square และ Cellphone ที่เฝิงเสี่ยวกังกำกับด้วย

ผลงานการกำกับ
เย่เยี่ยน / 夜宴 (2006)
A World Without Thieves / 天下无贼 (2004)
Cellphone / 手机 (2003)
Big Shot’s Funeral / 大腕 (2001)
A Sigh / 一声叹息 (2000)
Sorry, Baby / 没完没了(1999)
Be There or Be Square / 不见不散 (1998)
The Dream Factory / 甲方乙方 (1997)
Lost My Love / Gone Forever with My Love / 永失我爱 (1994)

ผลงานการแสดง
Who Cares (2001)
Dream Factory / 甲方乙方 (1997)
In the Heat of the Sun (1995)

ผลงานการเขียนบท
Big Shot's Funeral / 大腕(2001)
The Dream Factory / 甲方乙方(1997)
A Born Coward (1994)
After Separation / 大撒把 (1992)
กำลังโหลดความคิดเห็น