หากกล่าวถึงซูเปอร์สตาร์กังฟูชั้นแนวหน้าแห่งยุคนี้ นอกจากเฉิงหลง แล้ว อีกคนหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงก็คือ หลี่เหลียนเจี๋ย ( 李连杰 ) หรือเจ็ท ลี ผู้ที่ถือกำเนิดในแดนมังกร ต้นกำเนิดแห่งศิลปะการป้องกันตัวแบบจีนหรือที่เรียกกันทั่วไปว่ากังฟู หลี่กำพร้าพ่อขณะที่มีอายุเพียง 2 ขวบ เขาและพี่น้องคนอื่นรวม 5 คนจึงเติบโตด้วยน้ำพักน้ำแรงของผู้เป็นแม่
สมัยเป็นเด็กหลี่ ไม่ใช่เด็กที่ซุกชนหรือชอบเล่นผาดโผนเหมือนเด็กผู้ชายวัยเดียวกันส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นเด็กที่ขยัน ตั้งใจเรียนและเชื่อฟังคุณครู ทุกเย็นเมื่อกลับจากโรงเรียน เขาจะทำการบ้านให้เสร็จก่อน จึงจะทานอาหารเย็นหรือออกไปเล่นนอกบ้าน
ใครจะเชื่อว่าเด็กน้อยหลี่ ที่แม้แต่จักรยานก็ยังขี่ไม่เป็น จนกระทั่งอายุ 14-15 ปี เมื่อโตขึ้นจะกลายเป็นพระเอกหนังบู๊ ที่รับบทเสี่ยงตายมาจนนับไม่ถ้วน
ด้วยความบังเอิญ เจ็ท ลี วัย 8 ขวบ ได้รับการฝึกฝนวิชาศิลปะการป้องกันตัวแบบจีนหรือเรียกสั้นๆว่าที่วูซูหรืออู่ซู่ ( 武 (อู่) หมายถึงการต่อสู้术 (ซู่) หมายถึงศิลปะ ) ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนของปี 1971 โรงเรียนของอาตี๋หลี่ ได้เลื่อนระยะเวลาปิดเทอมออกไปอีก 1 เดือน เจ้าหน้าที่ของทางการเห็นว่าควรให้เด็กๆได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จึงส่งเด็กนักเรียนชั้นประถมหลายพันคนจากโรงเรียนในเขตที่อยู่อาศัยเดียวกับหลี่ เข้ารับการฝึกกีฬาประเภทต่างๆอาทิ ว่ายน้ำ ยิมนาสติก และห้อง ป .1 / 4 ที่ ด.ช.หลี่เรียนอยู่ ก็ถูกจัดให้ฝึกอู่ซู่ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตเจ็ท ลีกับอู่ซู่ ก็เกี่ยวพันกันมากขึ้นๆ
ด.ช. หลี่ ติด 1 ใน 20 คนของเด็กประถมที่ถูกคัดเลือกให้เข้ารับการฝึกฝนอู่ซู่ ต่อหลังจากช่วงเวลาปิดเทอมสิ้นสุดลง โดยในแต่ละวันจะทำการฝึก 2 ชั่วโมงหลังเวลาเรียนตามปกติ แม้แต่ในช่วงฤดูหนาวที่แสนทรมานในปักกิ่งก็ไม่เว้น นอกจากนี้เนื่องจากในเวลานั้นยังไม่มีสถานที่ฝึกในร่ม หลี่กับเพื่อนร่วมทีม จึงต้องฝึกภายนอกอาคารท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น
หลังจากผ่านไป 1 ปี เป็นครั้งแรกที่ หลี่ได้เข้าร่วมประลองฝีมือในแข่งขันศิลปะป้อง กันตัวระดับประเทศ ซึ่งจัดขึ้นในเมืองจี้หนัน มณฑลซันตง แม่ของเด็กน้อยหลี่ ร้องไห้ในวันที่ลูกต้องจากบ้านไปไกลเป็นครั้งแรก แต่ในเวลานั้นไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะเดินหน้าต่อไปและทำให้ดีที่สุด สุดท้ายอาตี๋ นักสู้รายนี้ก็คว้าแชมป์ในการแข่งขันสำเร็จสมดังตั้งใจ
ต่อมา หลี่ ถูกส่งให้ไปฝึกอู่ซู่ แบบเต็มเวลาโดยไม่ต้องเรียนวิชาอื่นและจะได้รับอนุญาตให้กลับมาเยี่ยมบ้านเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์
หลายครั้งระหว่างการฝึกรอบค่ำที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ทุ่มครึ่งจนถึงสี่ทุ่ม ไฟฟ้าของโรงยิมฯที่ หลี่และเพื่อนๆฝึก จะดับวูบลง ( ซึ่งเป็นเรื่องปกติของบ้านเมืองจีนในเวลานั้นที่ทุกสิ่งทุกอย่างค่อนข้างขาดแคลน) แต่การฝึกยังต้องดำเนินต่อไป มีอยู่วันหนึ่ง หลี่ประสบอุบัติเหตุที่ข้อเท้าระหว่างการฝึก ท่ามกลางบรรยายที่มืดมิดภายในโรงยิมฯ ทว่าไม่มีข้อยกเว้นสำหรับผู้บาดเจ็บ
โค้ชสั่งเขาฝึกร่างกายส่วนบนแทน แต่เนื่องจากในขณะนั้น กระดูกข้อเท้าของหลี่แตก ทำให้ไม่สามารถเดินได้ตามปกติ โค้ชจึงสั่งให้เพื่อนแบกหลี่ ขึ้นหลังมายังสนามและฝึกการเคลื่อนไหวของแขนแทน เมื่อฝึกเสร็จในแต่ละวัน เพื่อนก็จะแบกเขาขึ้นหลังกลับไปยังหอพัก เหตุการณ์ดำเนินในลักษณะนี้เป็นเวลาหลายสัปดาห์
ในปี 1974 เจ็ท ลีซึ่งเป็นหนึ่งในทีมตัวแทนประเทศจีน มีโอกาสเดินทางไปแสดงศิลปะการต่อสู้อันโด่งดังของจีน ต่อหน้าประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน แห่งสหรัฐฯ ในทำเนียบขาว ส่วนหนึ่งของกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ
ต่อมาหลังจากนั้นอีก 5 ปี ลียังคงครองแชมป์ศิลปะการต่อสู้ ในการแข่งขันทั่วประเทศจีนเช่นเดิม ก่อนจะผันตัวมาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติ และจนเมื่ออายุได้ 20 ปี หลี่เหลียนเจี๋ย ก็แจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว จากผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา ‘เสี้ยวลิ้มยี่’ ( The Shaolin Temple) ฝีมือการการกำกับของจางซินเหยียน ที่ดังสนั่นถึงขั้นต้องทำภาค 2 และ 3 ตามมา
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและติดตามผลงานการแสดงของเจ็ท ลี แน่นอนว่าต้องไม่พลาด ‘จอมคนผงาดโลก’ ( 霍元甲: Fearless ) ที่จะเข้าฉายในเมืองไทยในต้นเดือนมีนาคมนี้ เรื่องราวของฮั่วหยวนเจี่ย ( 霍元甲 ) เด็กหนุ่มที่ฝ่าฟันอุปสรรคจนบรรลุความฝันที่จะเป็นสุดยอดฝีมือกังฟู งานนี้รับรองแฟนๆเจ็ท ลี ได้ชมศิลปะการต่อสู้ทั้งจีน ไทย ฝรั่งกันอย่างเต็มอิ่ม
ประวัติย่อ
ชื่อจีน : หลี่เหลียนเจี๋ย ( 李连杰 )
ชื่ออังกฤษ: เจ็ท ลี (Jet Li)
เกิด: 26 เมษายน 1963
ราศี: พฤษภ
สูง: 169 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 66 กิโลกรัม
สถานที่เกิด : กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
ที่อยู่ปัจจุบัน: ฮ่องกง
ครอบครัว : แต่งงานกับลี่จื้อ (นีน่า) อดีตนักแสดงในเดือนกันยายนปี 1999 มีลูกสาวด้วยกัน 2 คนและมีลูกที่เกิดจากภรรยาคนแรกอีก 2 คน
ผลงานการแสดงและร่วมกำกับ
1982 เสี้ยวลิ้มยี่ /The Shaolin Temple
1984 Kids From Shaolin ( เสี้ยวลิ้มยี่ ภาค 2 )
1986 มังกรน่ำปั๊ก /Martial Arts of Shaolin ( เสี้ยวลิ้มยี่ ภาค 3 )
1986 Born To Defence (ร่วมกำกับ)
1988 Dragon Flight
1988 Dragon of the Orient
1990 หวงเฟยหง /Once Upon a Time in China
1991 หวงเฟยหง 2/ Once Upon a Time in China II
1991 ฟัดทะลุโลก/ The Master
1992 หวงเฟยหง 3/ Once Upon a Time in China III
1992 Swordsman II
1993 Fong Sai Yuk
1993 Fong Sai Yuk 2
1993 Last Hero in China
1993 The Tai Chi Master
1993 Kung Fu Cult Master
1994 วีรบุรุษน้อย (5 พยัคฆ์) เสี้ยวลิ้มยี่ /The New Legend of Shaolin
1994 The Bodyguard From Beijing
1994 Fist of Legend
1995 คู่ใหญ่ฟัดโลก/ My Father is a Hero
1995 โหดหยุดนรกเพื่อเธอ/ High Risk
1996 Dr.Wai in “The Scripture With No Words”
1996 ดำมหากาฬ / Black Mask
1997 Once Upon a Time in China and America
1998 Hitman
1998 ริกก์คนมหากาฬ 4/ Lethal Weapon IV
2000 ศึกแก๊งมังกรผ่าโลก /Romeo Must Die
2001 จูบอหังการ ล่าข้ามโลก / Kiss of the Dragon
2001 The One
2002 ฮีโร่ / Hero
2003 คู่อริ ถล่มยกเมือง/ Cradle 2 the Grave
2005 คนหมาเดือด / Unleashed
2006 จอมคนผงาดโลก / Fearless
2007 โหด ปะทะ เดือด / ROGUE ASSASSIN หรือ WAR
2007 3 อหังการ์จ้าวสุริยา / Warlords / 《投名状》
2008 The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor/ 《木乃伊3》
2008 The Forbidden Kingdom / 《功夫之王》