ซินหัวเน็ต 13/01/06 เมื่อวันที่ 10 ม.ค. รัฐบาลประชาชนเขตปกครองตนเองทิเบต ประกาศระเบียบชั่วคราว ว่าด้วยการจัดการในพิธีฝังศพของชาวทิเบต ห้ามบุคคลภายนอกรบกวนพิธีศพด้วยการบันทึกภาพใดใดเป็นการเผยแพร่สู่สาธารณะ ทั้งนี้เพื่อให้ความเคารพและรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของพิธี ซึ่งถือเป็นประกาศเฉพาะกิจอย่างเป็นทางการครั้ง 3 ที่แสดงถึงท่าทีของรัฐบาลจีนในการอนุรักษ์พิธีกรรมเก่าแก่นี้นับตั้งแต่ปี 1985 เป็นต้นมา
ระเบียบดังกล่าว ระบุว่า ประเพณีฝังศพของชาวทิเบต ที่เรียกว่า 'เทียนจ้าง' หรือ พิธีศพกลางแจ้ง ถือเป็นพิธีกรรมโบราณที่ได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย ห้ามมิให้บุคคลภายนอกเข้าไปมุงดู เข้าไปบันทึกภาพ ทั้งภาพนิ่งและภาพยนตร์ และบันทึกเสียง รวมทั้ง ห้ามมิให้มีการตีพิมพ์และเผยแพร่บทความ รายงานที่เป็นลายลักษณ์อักษรและภาพลงในสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุกระจายเสียง ออกอากาศทางโทรทัศน์ เว็บไซต์ และโฆษณา
นอกจากนี้ ยังมีระเบียบที่ว่าด้วย การปกป้องวิถีชีวิตตามธรรมชาติของ ‘เสินอิง’ หรือ อีแร้ง สัตว์ที่ชาวทิเบตเชื่อว่า เป็นนกศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นส่วนสำคัญในพิธีศพดังกล่าว โดยกำหนดว่า ห้ามบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือกลุ่มคนใดเข้าไปยิงนก วางระเบิด บีบแตรส่งเสียงรบกวน โม่หิน ขุดดิน-ทราย ในบริเวณถิ่นอาศัยของแร้ง
ทั้งนี้ พิธีศพของชาวทิเบตถือว่าเป็นพิธีกรรมเร้นลับที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดบุคคลภายนอก รวมถึงนักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆที่นิยมเรื่องแปลก และหลายครั้งที่เข้าไปแอบดูรบกวนพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของชาวพื้นเมืองอยู่บ่อยครั้ง
'เทียนจ้าง' หรือพิธีศพกลางแจ้งเป็นพิธีกรรมของชนชาวทิเบตที่ได้รับการยอมรับและถือเป็นประเพณีปฏิบัติในวิถีชีวิตมาพันกว่าปีแล้ว จากหลักฐานในแหล่งโบราณคดีสุสานเก่าชนเผ่าทิเบต คาดการณ์ว่า พิธีศพกลางแจ้งอาจถือกำเนิดมาภายหลังคริสต์ศตวรรษที่ 7 แต่นักวิชาการบางส่วนเชื่อว่า รูปแบบการฝังศพกลางแจ้งนี้เกิดขึ้นครั้งแรกโดยข้าราชการผู้หนึ่งที่คิดให้มีการสร้างวัดในอำเภอม่อจู๋กงข่าและได้ส่งเสริมให้มีการฝังศพด้วยวิธี ในปีค.ศ.1179
โดยหลังจากทำพิธีอาบน้ำศพและนิมนต์พระลามะมาสวดตามพิธีแล้ว ญาติจะเคลื่อนศพมุ่งสู่ลานกว้างกลางแจ้งที่มีแผ่นหินปูนขนาด 4 ตรม. เป็นที่ตั้งศพเพื่อให้ผู้ประกอบพิธีทำการชำแหละและปล่อยให้อีแร้งมาจิกกินร่าง ตามความเชื่อที่ว่า แร้งเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่จะนำร่างของผู้ตายขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เนื่องจากธรรมชาติมันจะไม่ตายที่พื้น เมื่อแก่ตัวมันจะบินขึ้นสูงไปบนท้องฟ้าและจะถูกเผาจนตายไปกับความร้อน
ทั้งนี้ จากการสำรวจล่าสุดโดยทางการทิเบต พบว่า ปัจจุบันมีแผ่นหินที่ใช้ประกอบพิธีศพนี้อยู่ถึง 1,075 แห่งและมีอาจารย์ผู้ประกอบพิธีอยู่เกือบ 100 คนทั่วทิเบต .