ซินหัวเน็ต 11/01/06 – รัฐบาลรัสเซียประกาศจะลงมือสร้างท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดา เฟส 1 ภายในปีนี้ หลังการเจรจาระหว่างกันนานถึง 12 ปี เพื่อส่งน้ำมันราว 30 ล้านตันต่อปีจากแหล่งน้ำมันในไซบีเรียให้แก่จีน ขณะที่สื่อจีนชี้การที่จีนหันเหความสนใจไปยังแหล่งพลังงานในเอเชียกลาง เป็นปัจจัยเร่งให้รัสเซียตัดสินใจเร็วขึ้น
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายวลาติเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศว่าในช่วงฤดูร้อนปีนี้ รัสเซียจะลงมือก่อสร้างโครงการท่อส่งน้ำมันจากไซบีเรียไปยังภาคตะวันออกของรัสเซีย สายไทเชต-นาโกดา เฟส 1 เพื่อส่งน้ำมันให้แก่จีนก่อน
จีนใช้เวลานานถึง 12 ปีในการเจรจาต่อรองเพื่อให้รัสเซียสร้างท่อส่งน้ำมันจากไซบีเรียเชื่อมต่อมายังจีน โดยก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นและจีน 2 ประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของโลกต่างพยายามแย่งชิงเพื่อมีส่วนร่วมในโครงการท่อส่งน้ำมันดังกล่าว
โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โตเกียวนิวส์ระบุว่า ญี่ปุ่นได้เสนอเพิ่มเงินกู้ในโครงการดังกล่าวแก่รัสเซียจาก 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ในที่สุดรัฐบาลหมีขาวได้ประกาศการตัดสินใจในเดือนเดียวกันว่า รัสเซียจะต่อท่อส่งน้ำมันในไซบีเรียซึ่งมีอยู่แล้วไปเชื่อมกับท่อส่งน้ำมันในจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดาดังกล่าว
สำหรับท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดา เฟส 1 ซึ่งส่งน้ำมันได้ราวปีละ 30 ล้านตัน จะเริ่มจากเมืองไทเชต ใกล้กับทะเลสาบไบคาล ตอนกลางของไซบีเรีย มายังเมืองสโกโวโรดิโน ทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งห่างจากพรมแดนจีน 69 กิโลเมตร โดยรัสเซียวางแผนจะเริ่มส่งน้ำมันอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี 2008 ใช้เงินลงทุนสำหรับช่วงดังกล่าวราว 6,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 260,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จีนจะสร้างท่อส่งน้ำมันเชื่อมต่อกับสายไทเชต-นาโกดา ที่เมืองสโกโวโรดิโนและมายังเมืองต้าชิ่ง มณฑลเฮยหลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
ส่วนท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดา เฟส 2 จะสร้างต่อจากเมืองสโกโวโรดิโน ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำมันที่อ่าวเปเรโวซนายา ในเมืองนาโกดา เมืองริมชายฝั่งแปซิฟิกของรัสเซีย โดยท่อส่งน้ำมันเฟส 1 และเฟส 2 ยาวรวมกัน 4,130 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนสำหรับทั้งโครงการคาดว่าจะอยู่ที่ราว 16,000 ล้านยูโร หรือราว 776,800 ล้านบาท และส่งน้ำมันมันได้ปีละราว 80 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม รายงานจากทางการรัสเซียระบุว่า แหล่งน้ำมันในไซบีเรียตะวันออกและคาซัคสถานคาดว่ามีน้ำมันสำรองแห่งละราว 3,000 ล้านตัน ซึ่งในขณะนี้ยืนยันแล้วจำนวน 560 ล้านตัน นับเป็นตัวเลขที่ยังไม่เพียงพอต่อกำลังการส่งสูงสุด 80 ล้านตันต่อปีของท่อส่งสายไทเชต-นาโกดา หากยังไม่หาแหล่งน้ำมันอื่นมาสนับสนุนได้ โครงการท่อส่งเฟส 2 อาจจะไม่เกิดขึ้น
สื่อจีนกล่าวเพิ่มเติมถึงการตัดสินใจของรัฐบาลหมีขาว หลังจากที่เริ่มต้นการเจรจากับจีนเมื่อ 12 ปีก่อนว่า มีปัจจัยจากการที่รัฐบาลปักกิ่งหันไปแสวงหาแหล่งพลังงานในเอเชียกลางเป็นตัวเร่ง โดยล่าสุดคาซัคสถานได้เปิดใช้ท่อส่งน้ำมันจีน-คาซัค เฟส 1 เมื่อกลางเดือนที่แล้ว เพื่อส่งน้ำมันจากเมืองอทาซู ตอนกลางของคาซัคสถาน ไปยังเมืองอาลาซันโข่ว ในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ในระยะแรกจะเริ่มส่งน้ำมันไปจีนที่ปริมาณ 10 ล้านตันต่อปีก่อน ขณะที่สามารถส่งน้ำมันผ่านท่อดังกล่าวได้สูงสุดราวปีละ 20 ล้านตัน
สำหรับรัสเซียแล้ว คาดว่าโครงการท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดาจะให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เนื่องจากไม่เพียงสามารถส่งน้ำมันจากภายในประเทศให้แก่จีน ยังขนส่งไปยังเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตลอดจนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียได้ด้วย ซึ่งต้นทุนการขนส่งจะประหยัดกว่าการขนส่งจากตะวันออกกลาง.
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายวลาติเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศว่าในช่วงฤดูร้อนปีนี้ รัสเซียจะลงมือก่อสร้างโครงการท่อส่งน้ำมันจากไซบีเรียไปยังภาคตะวันออกของรัสเซีย สายไทเชต-นาโกดา เฟส 1 เพื่อส่งน้ำมันให้แก่จีนก่อน
จีนใช้เวลานานถึง 12 ปีในการเจรจาต่อรองเพื่อให้รัสเซียสร้างท่อส่งน้ำมันจากไซบีเรียเชื่อมต่อมายังจีน โดยก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นและจีน 2 ประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของโลกต่างพยายามแย่งชิงเพื่อมีส่วนร่วมในโครงการท่อส่งน้ำมันดังกล่าว
โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โตเกียวนิวส์ระบุว่า ญี่ปุ่นได้เสนอเพิ่มเงินกู้ในโครงการดังกล่าวแก่รัสเซียจาก 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ในที่สุดรัฐบาลหมีขาวได้ประกาศการตัดสินใจในเดือนเดียวกันว่า รัสเซียจะต่อท่อส่งน้ำมันในไซบีเรียซึ่งมีอยู่แล้วไปเชื่อมกับท่อส่งน้ำมันในจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดาดังกล่าว
สำหรับท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดา เฟส 1 ซึ่งส่งน้ำมันได้ราวปีละ 30 ล้านตัน จะเริ่มจากเมืองไทเชต ใกล้กับทะเลสาบไบคาล ตอนกลางของไซบีเรีย มายังเมืองสโกโวโรดิโน ทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งห่างจากพรมแดนจีน 69 กิโลเมตร โดยรัสเซียวางแผนจะเริ่มส่งน้ำมันอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี 2008 ใช้เงินลงทุนสำหรับช่วงดังกล่าวราว 6,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 260,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จีนจะสร้างท่อส่งน้ำมันเชื่อมต่อกับสายไทเชต-นาโกดา ที่เมืองสโกโวโรดิโนและมายังเมืองต้าชิ่ง มณฑลเฮยหลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
ส่วนท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดา เฟส 2 จะสร้างต่อจากเมืองสโกโวโรดิโน ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำมันที่อ่าวเปเรโวซนายา ในเมืองนาโกดา เมืองริมชายฝั่งแปซิฟิกของรัสเซีย โดยท่อส่งน้ำมันเฟส 1 และเฟส 2 ยาวรวมกัน 4,130 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนสำหรับทั้งโครงการคาดว่าจะอยู่ที่ราว 16,000 ล้านยูโร หรือราว 776,800 ล้านบาท และส่งน้ำมันมันได้ปีละราว 80 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม รายงานจากทางการรัสเซียระบุว่า แหล่งน้ำมันในไซบีเรียตะวันออกและคาซัคสถานคาดว่ามีน้ำมันสำรองแห่งละราว 3,000 ล้านตัน ซึ่งในขณะนี้ยืนยันแล้วจำนวน 560 ล้านตัน นับเป็นตัวเลขที่ยังไม่เพียงพอต่อกำลังการส่งสูงสุด 80 ล้านตันต่อปีของท่อส่งสายไทเชต-นาโกดา หากยังไม่หาแหล่งน้ำมันอื่นมาสนับสนุนได้ โครงการท่อส่งเฟส 2 อาจจะไม่เกิดขึ้น
สื่อจีนกล่าวเพิ่มเติมถึงการตัดสินใจของรัฐบาลหมีขาว หลังจากที่เริ่มต้นการเจรจากับจีนเมื่อ 12 ปีก่อนว่า มีปัจจัยจากการที่รัฐบาลปักกิ่งหันไปแสวงหาแหล่งพลังงานในเอเชียกลางเป็นตัวเร่ง โดยล่าสุดคาซัคสถานได้เปิดใช้ท่อส่งน้ำมันจีน-คาซัค เฟส 1 เมื่อกลางเดือนที่แล้ว เพื่อส่งน้ำมันจากเมืองอทาซู ตอนกลางของคาซัคสถาน ไปยังเมืองอาลาซันโข่ว ในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ในระยะแรกจะเริ่มส่งน้ำมันไปจีนที่ปริมาณ 10 ล้านตันต่อปีก่อน ขณะที่สามารถส่งน้ำมันผ่านท่อดังกล่าวได้สูงสุดราวปีละ 20 ล้านตัน
สำหรับรัสเซียแล้ว คาดว่าโครงการท่อส่งน้ำมันสายไทเชต-นาโกดาจะให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เนื่องจากไม่เพียงสามารถส่งน้ำมันจากภายในประเทศให้แก่จีน ยังขนส่งไปยังเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตลอดจนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียได้ด้วย ซึ่งต้นทุนการขนส่งจะประหยัดกว่าการขนส่งจากตะวันออกกลาง.