ซีน่าเน็ต 11/01/06 – แมว สัตว์เลี้ยงแสนรักของใครหลายคน อาจจะถูกบัญญัติให้เป็น ‘สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่’ ของแดนมังกรที่ได้รับความนิยมไม่น้อยกว่าเพลง ‘ผู้บ่าวกินแมว’ ของไทย เพราะพบเนื้อแมวทั้งบนเตาขายเนื้อแพะย่าง บ้างก็หอมหวนชวนลิ้นอยู่ในซุปแพะตุ๋น หรือถูกสวมรอยเป็นเนื้อกระต่าย
เข้าสู่ฤดูหนาวทีไร ลี่รั่วไห่ นายกสมาคมอนุรักษ์สัตว์เล็กแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ ก็ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ทุกที เพราะเป็นช่วงเวลาที่แมวทั้งที่มีเจ้าของและไม่มีเจ้าของจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย...ซึ่งกลายเป็นที่มาของการสวมบทนักสืบค้นหาต้นตอ
ขายได้ตัวละ 75 บาท
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จากการสะกดรอยของทางสมาคมฯ พบว่า “พวกมันถูกฆ่าตายหมดเลย ส่วนใหญ่ ‘หัวขโมยแมว’ จะลงมือตอนกลางดึก แล้วนำไปขายให้กับ ‘เพชฌฆาตแมว’ ตัวละเพียง15 หยวน (ราว 75 บาท)” ลี่รั่วไห่เผยกับนักข่าว
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น แมวทั้งหลายจะถูกแยกเนื้อหนังออกจากกัน ลี่เล่าว่า “เนื้อแมวขายถูกๆ แค่ตัวละ 2-3 หยวน แต่หลักๆ แล้วจะขายหนังแมว เพราะได้ราคาดีสูงกว่าตอนที่ซื้อมามาก ซึ่งทำให้แมวกลางถนนทั้งหลายหายไปในช่วงหน้าหนาว เนื่องจากหากใช้มือสัมผัสขนแมวเพียงชั่วครู่ จะรู้สึกว่าเหมือนกับขนมิงค์เลยทีเดียว”
เนื้อแมวในคราบเนื้อแพะ
ในเขตพื้นที่ที่แมวหายสาบสูญไปเยอะที่สุดนั้น มีร้านขายเนื้อย่างแห่งหนึ่ง ซึ่งทางสมาคมฯ ได้เบาะแสมาว่า มีการนำเนื้อแมวมาขายโดยอ้างว่าเป็นเนื้อแพะ
อาสาสมัครของทางสมาคมจึงแสร้งทำเป็นขอซื้อเนื้อแพะสดจากทางร้าน เพื่อไปเลี้ยงลูกสุนัขที่บ้าน แต่แท้จริงแล้วกลับนำไปตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งผลที่ได้ก็ไขข้อข้องใจของใครหลายคน เพราะในบรรดาเนื้อ 12 ก้อนที่ขอมา พบว่าเกือบครึ่งล้วนมีลักษณะทางพันธุกรรมที่บ่งบอกว่าเป็นแมว หรืออยู่ในตระกูลแมว
นอกจากนั้นยังพบว่า ตามร้านอาหารบางแห่งได้นำเนื้อแมวไปสวมรอยอยู่ในเมนูเนื้อกระต่ายด้วย
หนังแมวขายดีฮิตติดตลาด
นอกจากหนังแมวจะขายได้ราคาดีกว่าเนื้อแมวแล้ว ธุรกิจขายหนังแมวยังไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนขายเนื้อแมวอีกด้วย ซึ่งมีการรับซื้อขายทั้งทางอินเตอร์เน็ต และตามร้านค้าในย่านชอปปิงสตรีทอย่างถนนชีผู่ ในเซี่ยงไฮ้
ลี่รั่วไห่ ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยมี ‘เพชฌฆาตแมว’ ที่ถูกจับกุมได้ สารภาพกับตำรวจว่าส่งหนังแมวไปขายถึงตลาดในอำเภอฮวาตู เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง)
ซีน่าเน็ตยังรายงานว่า ในขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีการอนุญาตให้ค้าแมวได้ตามตลาดค้าสัตว์ที่ถูกกฎหมายทั่วประเทศจีน แล้วผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากหนังแมวหรือขนแมวนั้นมาจากไหน ? คำตอบเพียงหนึ่งเดียวในขณะนี้ คือมาจากการไล่ล่าและฆ่าแมวนั่นเอง
เบื้องหลังซุปแพะตุ๋น
เส้าเจิ้นฮว่า ผู้ซึ่งทำงานด้านกฎหมายที่เป็นสาวกคนรักแมว ได้ปลอมตัวเข้าไปหาข้อมูลถึงก้นครัวร้านขายเนื้อแพะตุ๋นแห่งหนึ่ง ซึ่งพบเบื้องหลังว่าทางร้านจะเริ่มจากการนำกระดูกแพะไปต้มเป็น ‘น้ำซุปแพะ’ ไว้ก่อน ให้ไขมันและสารอาหารของเนื้อแพะ ละลายในน้ำซุปให้ได้มากที่สุด จากนั้นจะใส่เนื้อแมวลงไป แล้วปิดฝาหม้ออบสตีมต่อ ให้ ‘น้ำซุปแพะ’ ค่อยๆ ซึมเข้าไปในเนื้อแมว ทำให้เนื้อแมวหอมหวนและกลมกล่อมด้วยรสชาติของเนื้อแพะ
หลังจากนั้น ทางร้านจะเติมเครื่องปรุงให้เผ็ดนิดๆ แล้วผสมเนื้อแพะจริงเข้าไปบางส่วน เพียงเท่านี้ ลูกค้าก็แยกไม่ออกแล้วว่ากำลังดื่มด่ำกับเนื้อแมวหรือเนื้อแพะกันแน่
โดยแต่ละหม้อนั้น ใส่เนื้อแมวลงไปถึง 100-150 ตัว ใช้เวลาต้มนานถึง 5 ชั่วโมง ก่อนจะนำออกเสิร์ฟ ซึ่งเจ้าของร้านแห่งนี้บอกว่า “วันหนึ่งต้ม 2-3 หม้อ และนี่เป็นกิจการที่ได้รับสืบทอดมาช้านานแล้ว!”
อย่างไรก็ตาม เส้าเจิ้นฮว่า ได้อ้างรายงานทางวิทยาศาสตร์ว่า “เนื้อแมวรสแพะ” จะมีเชื้อโรคบางตัวที่เกิดเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง อันจะเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ก่อให้เกิดโรคทางระบบย่อยอาหารได้
เข้าสู่ฤดูหนาวทีไร ลี่รั่วไห่ นายกสมาคมอนุรักษ์สัตว์เล็กแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ ก็ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ทุกที เพราะเป็นช่วงเวลาที่แมวทั้งที่มีเจ้าของและไม่มีเจ้าของจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย...ซึ่งกลายเป็นที่มาของการสวมบทนักสืบค้นหาต้นตอ
ขายได้ตัวละ 75 บาท
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จากการสะกดรอยของทางสมาคมฯ พบว่า “พวกมันถูกฆ่าตายหมดเลย ส่วนใหญ่ ‘หัวขโมยแมว’ จะลงมือตอนกลางดึก แล้วนำไปขายให้กับ ‘เพชฌฆาตแมว’ ตัวละเพียง15 หยวน (ราว 75 บาท)” ลี่รั่วไห่เผยกับนักข่าว
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น แมวทั้งหลายจะถูกแยกเนื้อหนังออกจากกัน ลี่เล่าว่า “เนื้อแมวขายถูกๆ แค่ตัวละ 2-3 หยวน แต่หลักๆ แล้วจะขายหนังแมว เพราะได้ราคาดีสูงกว่าตอนที่ซื้อมามาก ซึ่งทำให้แมวกลางถนนทั้งหลายหายไปในช่วงหน้าหนาว เนื่องจากหากใช้มือสัมผัสขนแมวเพียงชั่วครู่ จะรู้สึกว่าเหมือนกับขนมิงค์เลยทีเดียว”
เนื้อแมวในคราบเนื้อแพะ
ในเขตพื้นที่ที่แมวหายสาบสูญไปเยอะที่สุดนั้น มีร้านขายเนื้อย่างแห่งหนึ่ง ซึ่งทางสมาคมฯ ได้เบาะแสมาว่า มีการนำเนื้อแมวมาขายโดยอ้างว่าเป็นเนื้อแพะ
อาสาสมัครของทางสมาคมจึงแสร้งทำเป็นขอซื้อเนื้อแพะสดจากทางร้าน เพื่อไปเลี้ยงลูกสุนัขที่บ้าน แต่แท้จริงแล้วกลับนำไปตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งผลที่ได้ก็ไขข้อข้องใจของใครหลายคน เพราะในบรรดาเนื้อ 12 ก้อนที่ขอมา พบว่าเกือบครึ่งล้วนมีลักษณะทางพันธุกรรมที่บ่งบอกว่าเป็นแมว หรืออยู่ในตระกูลแมว
นอกจากนั้นยังพบว่า ตามร้านอาหารบางแห่งได้นำเนื้อแมวไปสวมรอยอยู่ในเมนูเนื้อกระต่ายด้วย
หนังแมวขายดีฮิตติดตลาด
นอกจากหนังแมวจะขายได้ราคาดีกว่าเนื้อแมวแล้ว ธุรกิจขายหนังแมวยังไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนขายเนื้อแมวอีกด้วย ซึ่งมีการรับซื้อขายทั้งทางอินเตอร์เน็ต และตามร้านค้าในย่านชอปปิงสตรีทอย่างถนนชีผู่ ในเซี่ยงไฮ้
ลี่รั่วไห่ ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยมี ‘เพชฌฆาตแมว’ ที่ถูกจับกุมได้ สารภาพกับตำรวจว่าส่งหนังแมวไปขายถึงตลาดในอำเภอฮวาตู เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง)
ซีน่าเน็ตยังรายงานว่า ในขณะที่ปัจจุบันยังไม่มีการอนุญาตให้ค้าแมวได้ตามตลาดค้าสัตว์ที่ถูกกฎหมายทั่วประเทศจีน แล้วผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากหนังแมวหรือขนแมวนั้นมาจากไหน ? คำตอบเพียงหนึ่งเดียวในขณะนี้ คือมาจากการไล่ล่าและฆ่าแมวนั่นเอง
เบื้องหลังซุปแพะตุ๋น
เส้าเจิ้นฮว่า ผู้ซึ่งทำงานด้านกฎหมายที่เป็นสาวกคนรักแมว ได้ปลอมตัวเข้าไปหาข้อมูลถึงก้นครัวร้านขายเนื้อแพะตุ๋นแห่งหนึ่ง ซึ่งพบเบื้องหลังว่าทางร้านจะเริ่มจากการนำกระดูกแพะไปต้มเป็น ‘น้ำซุปแพะ’ ไว้ก่อน ให้ไขมันและสารอาหารของเนื้อแพะ ละลายในน้ำซุปให้ได้มากที่สุด จากนั้นจะใส่เนื้อแมวลงไป แล้วปิดฝาหม้ออบสตีมต่อ ให้ ‘น้ำซุปแพะ’ ค่อยๆ ซึมเข้าไปในเนื้อแมว ทำให้เนื้อแมวหอมหวนและกลมกล่อมด้วยรสชาติของเนื้อแพะ
หลังจากนั้น ทางร้านจะเติมเครื่องปรุงให้เผ็ดนิดๆ แล้วผสมเนื้อแพะจริงเข้าไปบางส่วน เพียงเท่านี้ ลูกค้าก็แยกไม่ออกแล้วว่ากำลังดื่มด่ำกับเนื้อแมวหรือเนื้อแพะกันแน่
โดยแต่ละหม้อนั้น ใส่เนื้อแมวลงไปถึง 100-150 ตัว ใช้เวลาต้มนานถึง 5 ชั่วโมง ก่อนจะนำออกเสิร์ฟ ซึ่งเจ้าของร้านแห่งนี้บอกว่า “วันหนึ่งต้ม 2-3 หม้อ และนี่เป็นกิจการที่ได้รับสืบทอดมาช้านานแล้ว!”
อย่างไรก็ตาม เส้าเจิ้นฮว่า ได้อ้างรายงานทางวิทยาศาสตร์ว่า “เนื้อแมวรสแพะ” จะมีเชื้อโรคบางตัวที่เกิดเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง อันจะเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ก่อให้เกิดโรคทางระบบย่อยอาหารได้
