xs
xsm
sm
md
lg

ล้อมเว่ยช่วยจ้าว &围&魏&救&赵

เผยแพร่:   โดย: สุขสันต์ วิเวกเมธากร

กลยุทธ์นี้เป็นแผนเหนือชั้นอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งฝ่ายที่มีกำลังอ่อนแอกว่ามากนักชอบนำไปใช้แล้วบังเกิดผลสำเร็จได้อย่างเจ๋งเป้งนัก

ล้อมเว่ยช่วยจ้าว 围魏救赵เหวย เว่ย จิ้ว จ้าว Wéi wèi jiù zhào เป็นเรื่องราวการขับเคี่ยวกันระหว่างศิษย์สำนักเดียวกันสองคน ทั้งคู่เป็นศิษย์ของอาจารย์หุบเขาปีศาจ 鬼谷先生 กวุ่ย กู่ เซียน เซิง Gŭi gù xiāng shēng แต่ต้องมาฟาดฟันกันเอง เนื่องด้วยเรื่องตำแหน่งอำนาจเป็นสาเหตุ

庞涓ผังจวน Páng jùan ศิษย์ผู้พี่ 师兄ซือซวุง shī xiōng ลงดอยมาก่อนและสามารถแสดงฝีมือเป็นที่ประจักษ์ของกษัตริย์เว่ย 魏王เว่ยหวางจึงได้เป็นแม่ทัพใหญ่รัฐเว่ย ต่อมา 孙膑ซุนปิน Sūn bīn ศิษย์ผู้น้อง 师弟ซือตี้ shī dì ลงดอยตามมาและเดินทางไปเยี่ยมคารวะศิษย์ผู้พี่ตามธรรมเนียม

ผังจวนรู้ตัวว่าสติปัญญาสู้ศิษย์ผู้น้องไม่ได้จึงไม่อยากให้อยู่ร่วมรับราชการ เพราะกลัวว่าจะได้ดีเกินหน้า แต่ยังมีจิตใจชั่วร้ายคิดจะได้ตำราพิชัยสงครามซุนจื่ออันลือลั่นจากซุนปิน จึงแกล้งทำเป็นต้อนรับขับสู้อย่างดี แต่แอบทูลให้กษัตริย์เว่ยคิดระแวงซุนปินจะเป็นไส้ศึกแล้วจับซุนปินไปขังไว้ พร้อมทั้งใช้วิธีโสโครกทรมานซุนปินต่างๆ นานากระทั่งตัดกระดูสะบ้าหัวเข่าของซุนปินออกจนทำให้กลายเป็นคนพิการเดินไม่ถนัด

膑ปิน b ī n หมายถึงการลงโทษด้วยวิธีข้างต้น ตั้งแต่นั้นมา ซุนปินจึงได้ชื่อนี้ โดยไม่มีใครทราบว่า ชื่อจริงของท่านคืออะไร

ภายหลัง ซุนปินทราบว่าตนเองต้องถูกทรมานต่างๆ นานาจนกระทั่งพิการนั้นเป็นเพราะผังจวนจอมแสบเป็นต้นเหตุจึงเก็บความแค้นนั้นไว้ และจำเป็นต้องแกล้งทำบ้าเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ก่อน เมื่อสบโอกาสจึงหนีรอดไปอยู่รัฐฉีและแสดงสติปัญญาความ สามารถกระทั่งได้ตำแหน่งเป็น 军师จวุนซือ Jūn shī เสนาธิการทหารรัฐฉี

รัฐเว่ย 魏国Wèi guó กับ รัฐฉี 齐国 Qí guó เป็นศัตรูคู่ศึกที่รบกันมานาน โดยก่อนหน้านี้ รัฐฉีมักเพลี่ยงพล้ำมากกว่า ครั้นได้ซุนปินเป็นกุนซือวางแผนการรบทัพจับศึกกลับได้ชัยชนะหลายครั้งอย่างเหนือคาดหมาย

คราวหนึ่ง กองทัพเว่ยภายใต้การนำทัพของผังจวนได้บุกไปตีรัฐจ้าว 赵国Zhào guó ซึ่งเป็นศัตรูอีกรัฐหนึ่ง รัฐจ้าวอ่อนแอกว่าจึงขอความช่วยเหลือไปยังรัฐฉี

กษัตริย์เว่ยมอบหมายให้田忌เถียนจี้ Tián jì เป็นแม่ทัพใหญ่โดยมีซุนปินเป็นเสนาธิการทหารไปช่วยรัฐจ้าว ซุนปินวางแผนอย่างแยบยลด้วยการเดินทัพมุ่งหน้าไปยังนคร大梁ต้าเหลียง Dà liáng เมืองหลวงของรัฐเว่ยแทนที่จะยกทัพไปช่วยรัฐจ้าวที่นคร 邯郸หานตาน Hán dān เมืองหลวงของรัฐจ้าวที่กำลังคับขัน

เถียนจี้ แม่ทัพใหญ่รัฐฉีถามซุนปินด้วยความสงสัยว่าเหตุไรจึงทำเช่นนั้น

ซุนปินตอบหน้าตายว่า ขืนยกไปช่วยรัฐจ้าวย่อมไม่ทันการ เพราะระยะทางไกล และกองทัพเว่ยมีกำลังมหาศาลเนื่องจากยกทหารเว่ยไปเกือบหมดเมือง ถึงแม้รวบรวมกองทัพฉีกับกองทัพจ้าวเข้าด้วยกันก็มิอาจต้านทานแสนยานุภาพของรัฐเว่ยไว้ได้ ควรที่จะรีบลัดตัดทางยกไปเมืองหลวงของรัฐเว่ยดีกว่า เพราะกำลังส่วนใหญ่ของรัฐเว่ยไปออกศึก เหลือไว้แต่ลูกเด็กเล็กแดง สตรีและคนชรา อยู่เฝ้าเมือง

ฝ่ายผังจวนกำลังเพลิดเพลินกับการล้อมรัฐจ้าว ครั้นได้ทราบว่ากองทัพฉีกำลังมุ่งหน้าไปตีท้ายครัวที่รัฐเว่ย จึงร้อนใจนักเพราะเป็นห่วงครอบครัวที่อยู่แนวหลัง รีบถอยทัพจากการล้อมเมืองหานตานกลับมาเมืองหลวงต้าเหลียง

ความจริง ซุนปินไม่ได้ต้องการตีรัฐเว่ย เพราะทราบดีว่ารัฐเว่ยยังมีกำลังมากมายพอที่จะป้องกันเมืองหลวงไว้อยู่ได้ แต่การแกล้งยกไปเมืองต้าเหลียงก็เป็นแผนสงครามจิตวิทยาซึ่งจะทำให้ผังจวนและกองทัพเว่ยเกิดความห่วงหน้าพะวงหลัง

กลยุทธ์เช่นนี้ใช้ได้ผลทั้งในการทำศึกสงครามและทางการเมือง อย่างในสงครามเวียดนาม กองทัพสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรกรีธาแสนยานุภาพไปถล่มเวียดนามเหนือนานนับกว่าทศวรรษตั้งแต่ ค.ศ.๑๙๖๐-๑๙๗๕ แต่ในที่สุดต้องถอนทัพจากศึกเวียดนามอย่างชอกช้ำ เพราะฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีการทำสงคราม
จิตวิทยาบ่อนทำลายแนวหลังของสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรจนทำให้เกิดกระแสคัดค้านต่อต้านการทำศึกเวียดนามอย่างแพร่หลาย จากกรณีนี้จะเห็นว่า ฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่า ย่อมไม่อาจชะล่าใจไปทำศึกไกลบ้านให้นานนัก เพราะจะถูกแอบตีท้ายครัวได้เสมอ

ในทางการเมืองก็เช่นกัน ฝ่ายที่ครองอำนาจรัฐอยู่เพลินๆ ถ้ามัวเร่ร่อนนอนไกลอยู่บ่อยๆ ทิ้งเมืองหลวงไว้ให้ฝ่ายตรงข้ามแอบมาเจาะมาไชอยู่เรื่อยๆ คงเห็นบทเรียนจากประเทศอื่นๆ แล้วที่รัฐบาลซึ่งมีอำนาจล้นฟ้ายิ่งใหญ่คับฟ้ามากมายต้องกลายเป็นรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะมีเรื่องจริงเกือบทุกยุคที่ชาวชนบททั่วประเทศเป็นผู้เลือกรัฐบาลแต่คนในเมืองหลวงนั่นแหละล้มรัฐบาล.
กำลังโหลดความคิดเห็น