ไชน่าอิโคโนมิกเน็ต25/10/05-แอมเวย์ (ประเทศจีน) ประกาศเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ทางบริษัทจะปรับเปลี่ยนแผนการตลาดในแดนมังกร จากการดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น หรือ MLM มาเป็นธุรกิจขายตรงชั้นเดียว โดยจะยกเลิกระบบผลตอบแทนในรูปแบบของโบนัสที่ขึ้นอยู่กับผลงานกลุ่มธุรกิจที่ผู้จำหน่ายอิสระสร้างขึ้น และเปลี่ยนมาจ่ายผลตอบแทนในรูปแบบ "ค่าคอมมิสชั่น" แทน ผู้เชี่ยวชาญคาดยอดจำหน่ายอาจลดลงในระยะยาว
หลังจากที่ทางการจีนประกาศเมื่อต้นเดือนกันยายนว่าจะเริ่มบังคับใช้ “กฎหมายต่อต้านการขายแบบปิรามิด” และ “กฎหมายจัดการธุรกิจขายตรง” ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้ ตามลำดับ ซึ่งระบุไม่อนุญาตให้บริษัทขายตรงในประเทศจีนดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น หรือ MLM เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ธุรกิจแบบปิรามิดจะแอบแฝงเข้ามา ทำให้บริษัทขายตรงต่างชาติหลายรายต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่นี้

ล่าสุดไชน่าอิโคโนมิกเน็ตรายงาน บริษัทแอมเวย์ (ประเทศจีน) ผู้นำธุรกิจขายตรงในรูปแบบ MLM ของโลก ได้ประกาศเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ว่าทางบริษัทเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนแผนการตลาดในแดนมังกร จากการดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น หรือ MLM มาเป็นธุรกิจขายตรงชั้นเดียว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้
เจ้าหน้าที่แอมเวย์จีนกล่าวว่า หลังจากที่ทางการประกาศจะใช้กฎหมายขายตรงฉบับใหม่เป็นต้นมา ทางบริษัทได้พิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทสอดคล้องกับกฎหมายใหม่ที่กำลังจะบังคับใช้ และมีคุณสมบัติได้รับการอนุมัติให้ดำเนินธุรกิจขายตรงต่อไปในแดนมังกรได้
การปรับกลยุทธ์สำหรับตลาดแผ่นดินใหญ่ของยักษ์ขายตรงสัญชาติมะกันครั้งนี้ จะเป็นผลให้ตัวแทนขายตรงและผู้จำหน่ายอิสระได้รับผลตอบแทนจากการขายสินค้าหรือ “ค่าคอมมิสชั่น” เท่านั้นตามลักษณะของธุรกิจขายตรงชั้นเดียว โดยจะยกเลิกระบบผลตอบแทนในรูปแบบของโบนัสที่ขึ้นอยู่กับผลงานกลุ่มธุรกิจที่ผู้จำหน่ายอิสระสร้างขึ้น ตามลักษณะเด่นของธุรกิจขายตรงหลายชั้น หรือ MLM
พร้อมกันนั้น แอมเวย์จีน จะเพิ่มสัดส่วนขั้นต่ำของระดับขั้นของผลตอบแทน หรือค่าคอมมิชชั่นตามระดับของยอดขายสินค้าในแต่ละเดือน “จากเดิมที่กำหนดระดับส่วนลดไว้ตั้งแต่ 6-21% จะปรับใหม่เป็นระดับค่าคอมมิสชั่นตั้งแต่ 9-30% เช่น หากในเดือนนั้นๆ ผู้จำหน่ายอิสระมียอดขายในระดับต่ำสุดจะได้รับค่าคอมมิสชั่น 9% จากยอดขาย แต่หากมียอดจำหน่ายสูงถึง 24,000 หยวน (ราว 120,000 บาท) จะได้รับค่าคอมมิสชั่นในอัตรา 30%”
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เท่ากับเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบขายตรงหลายชั้นที่เป็นจุดเด่นของแอมเวย์ทั่วโลกไปเกือบสิ้นเชิง ซึ่งได้สร้างความตกตะลึงแก่คนในวงการพอสมควร และคาดกันว่าในระยะยาวยอดจำหน่ายของแอมเวย์จีนอาจจะลดลง
นอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการแผนการตลาดใหม่ แอมเวย์จีนยังจะลดราคาสินค้าลง 20% จากราคาที่ปรากฏบนตัวสินค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทอธิบายว่า ในปัจจุบันลูกค้าที่เป็นสมาชิกและผู้จำหน่ายอิสระสามารถซื้อสินค้าในราคาลด 20% อยู่แล้ว และมักจะนำสินค้าไปจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคในราคานี้เช่นกัน ดังนั้นการที่ราคาสินค้าจะลดลงไป 20% จึงสอดคล้องกัน ซึ่งหมายความว่าทางบริษัทได้ยกเลิกผลกำไรจากการขายปลีกที่แต่เดิมเป็นของผู้จำหน่ายไป
อย่างไรก็ตาม แม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะดำเนินเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ แต่ทางแอมเวย์จีนยังหวังว่า รัฐบาลมังกรจะเปิดกว้างสำหรับธุรกิจขายตรงหลายชั้นในอนาคต เจ้าหน้าที่แอมเวย์จีนกล่าว
ด้านนายฮวงกัง ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจขายตรงในจีน แสดงความเห็นว่า จากการปรับกลยุทธ์ของแอมเวย์จีนดังกล่าว ยังยากที่จะคาดการณ์อนาคตของยักษ์ใหญ่ขายตรงระดับโลกรายนี้ได้ แต่ที่บอกได้ในตอนนี้คือ รัฐบาลมังกรจริงจังอย่างมากในการจัดระเบียบธุรกิจขายตรงครั้งนี้
หลังจากปี 1998 ที่รัฐบาลจีนสั่งห้ามธุรกิจขายตรงทุกรูปแบบ เนื่องจากยากที่จะแยกแยะธุรกิจขายตรง ออกจากธุรกิจปิรามิดที่หลอกลวงและสร้างความเสียหายให้กับสังคม ขณะนั้น บริษัทขายตรงต่างชาติกว่า 10 ราย รวมทั้งแอมเวย์จีน ยังคงได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจในจีนต่อไปได้ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจเป็นการเปิดร้านขายปลีกและตัวแทนขายสินค้า พร้อมขณะเดียวกัน บริษัทขายตรงทั้งหลายในแดนมังกรต่างรอคอยอย่างจดจ่อให้รัฐบาลจีนเปิดกว้างอีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทแอมเวย์ ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงขนาดใหญ่จากสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาก่อตั้งบริษัทแอมเวย์ (ประเทศจีน) ในปี 1992 ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ธุรกิจขายตรงต่างชาติรุ่นแรกที่เข้ามาบุกเบิกตลาดมังกร ต่อมาในปี 1995 ได้เปิดฐานผลิตสินค้าขนาดใหญ่ที่เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง ทางตอนใต้ของจีน
หลังจีนจำกัดธุรกิจขายตรงในแผ่นดินใหญ่เมื่อปี 1998 ยอดจำหน่ายของแอมเวย์จีนลดลงจาก 1,500 ล้านหยวนในปี 1997 มาอยู่ที่ 320 ล้านหยวน และล่าสุดในปี 2004 แอมเวย์จีนมียอดจำหน่ายสูงแตะ 17,000 ล้านหยวน (ราว 85,000 ล้านบาท) และกลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของบริษัทแอมเวย์ทั่วโลก.
หลังจากที่ทางการจีนประกาศเมื่อต้นเดือนกันยายนว่าจะเริ่มบังคับใช้ “กฎหมายต่อต้านการขายแบบปิรามิด” และ “กฎหมายจัดการธุรกิจขายตรง” ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้ ตามลำดับ ซึ่งระบุไม่อนุญาตให้บริษัทขายตรงในประเทศจีนดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น หรือ MLM เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ธุรกิจแบบปิรามิดจะแอบแฝงเข้ามา ทำให้บริษัทขายตรงต่างชาติหลายรายต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่นี้
ล่าสุดไชน่าอิโคโนมิกเน็ตรายงาน บริษัทแอมเวย์ (ประเทศจีน) ผู้นำธุรกิจขายตรงในรูปแบบ MLM ของโลก ได้ประกาศเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ว่าทางบริษัทเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนแผนการตลาดในแดนมังกร จากการดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น หรือ MLM มาเป็นธุรกิจขายตรงชั้นเดียว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้
เจ้าหน้าที่แอมเวย์จีนกล่าวว่า หลังจากที่ทางการประกาศจะใช้กฎหมายขายตรงฉบับใหม่เป็นต้นมา ทางบริษัทได้พิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทสอดคล้องกับกฎหมายใหม่ที่กำลังจะบังคับใช้ และมีคุณสมบัติได้รับการอนุมัติให้ดำเนินธุรกิจขายตรงต่อไปในแดนมังกรได้
การปรับกลยุทธ์สำหรับตลาดแผ่นดินใหญ่ของยักษ์ขายตรงสัญชาติมะกันครั้งนี้ จะเป็นผลให้ตัวแทนขายตรงและผู้จำหน่ายอิสระได้รับผลตอบแทนจากการขายสินค้าหรือ “ค่าคอมมิสชั่น” เท่านั้นตามลักษณะของธุรกิจขายตรงชั้นเดียว โดยจะยกเลิกระบบผลตอบแทนในรูปแบบของโบนัสที่ขึ้นอยู่กับผลงานกลุ่มธุรกิจที่ผู้จำหน่ายอิสระสร้างขึ้น ตามลักษณะเด่นของธุรกิจขายตรงหลายชั้น หรือ MLM
พร้อมกันนั้น แอมเวย์จีน จะเพิ่มสัดส่วนขั้นต่ำของระดับขั้นของผลตอบแทน หรือค่าคอมมิชชั่นตามระดับของยอดขายสินค้าในแต่ละเดือน “จากเดิมที่กำหนดระดับส่วนลดไว้ตั้งแต่ 6-21% จะปรับใหม่เป็นระดับค่าคอมมิสชั่นตั้งแต่ 9-30% เช่น หากในเดือนนั้นๆ ผู้จำหน่ายอิสระมียอดขายในระดับต่ำสุดจะได้รับค่าคอมมิสชั่น 9% จากยอดขาย แต่หากมียอดจำหน่ายสูงถึง 24,000 หยวน (ราว 120,000 บาท) จะได้รับค่าคอมมิสชั่นในอัตรา 30%”
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เท่ากับเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบขายตรงหลายชั้นที่เป็นจุดเด่นของแอมเวย์ทั่วโลกไปเกือบสิ้นเชิง ซึ่งได้สร้างความตกตะลึงแก่คนในวงการพอสมควร และคาดกันว่าในระยะยาวยอดจำหน่ายของแอมเวย์จีนอาจจะลดลง
นอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการแผนการตลาดใหม่ แอมเวย์จีนยังจะลดราคาสินค้าลง 20% จากราคาที่ปรากฏบนตัวสินค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทอธิบายว่า ในปัจจุบันลูกค้าที่เป็นสมาชิกและผู้จำหน่ายอิสระสามารถซื้อสินค้าในราคาลด 20% อยู่แล้ว และมักจะนำสินค้าไปจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคในราคานี้เช่นกัน ดังนั้นการที่ราคาสินค้าจะลดลงไป 20% จึงสอดคล้องกัน ซึ่งหมายความว่าทางบริษัทได้ยกเลิกผลกำไรจากการขายปลีกที่แต่เดิมเป็นของผู้จำหน่ายไป
อย่างไรก็ตาม แม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะดำเนินเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ แต่ทางแอมเวย์จีนยังหวังว่า รัฐบาลมังกรจะเปิดกว้างสำหรับธุรกิจขายตรงหลายชั้นในอนาคต เจ้าหน้าที่แอมเวย์จีนกล่าว
ด้านนายฮวงกัง ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจขายตรงในจีน แสดงความเห็นว่า จากการปรับกลยุทธ์ของแอมเวย์จีนดังกล่าว ยังยากที่จะคาดการณ์อนาคตของยักษ์ใหญ่ขายตรงระดับโลกรายนี้ได้ แต่ที่บอกได้ในตอนนี้คือ รัฐบาลมังกรจริงจังอย่างมากในการจัดระเบียบธุรกิจขายตรงครั้งนี้
หลังจากปี 1998 ที่รัฐบาลจีนสั่งห้ามธุรกิจขายตรงทุกรูปแบบ เนื่องจากยากที่จะแยกแยะธุรกิจขายตรง ออกจากธุรกิจปิรามิดที่หลอกลวงและสร้างความเสียหายให้กับสังคม ขณะนั้น บริษัทขายตรงต่างชาติกว่า 10 ราย รวมทั้งแอมเวย์จีน ยังคงได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจในจีนต่อไปได้ แต่ต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจเป็นการเปิดร้านขายปลีกและตัวแทนขายสินค้า พร้อมขณะเดียวกัน บริษัทขายตรงทั้งหลายในแดนมังกรต่างรอคอยอย่างจดจ่อให้รัฐบาลจีนเปิดกว้างอีกครั้ง
ทั้งนี้ บริษัทแอมเวย์ ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงขนาดใหญ่จากสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาก่อตั้งบริษัทแอมเวย์ (ประเทศจีน) ในปี 1992 ซึ่งเป็น 1 ใน 2 ธุรกิจขายตรงต่างชาติรุ่นแรกที่เข้ามาบุกเบิกตลาดมังกร ต่อมาในปี 1995 ได้เปิดฐานผลิตสินค้าขนาดใหญ่ที่เมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง ทางตอนใต้ของจีน
หลังจีนจำกัดธุรกิจขายตรงในแผ่นดินใหญ่เมื่อปี 1998 ยอดจำหน่ายของแอมเวย์จีนลดลงจาก 1,500 ล้านหยวนในปี 1997 มาอยู่ที่ 320 ล้านหยวน และล่าสุดในปี 2004 แอมเวย์จีนมียอดจำหน่ายสูงแตะ 17,000 ล้านหยวน (ราว 85,000 ล้านบาท) และกลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของบริษัทแอมเวย์ทั่วโลก.