xs
xsm
sm
md
lg

อิน-หยาง โหงวเฮ้ง (2)

เผยแพร่:   โดย: โชติช่วง นาดอน

แนวคิดเกี่ยวกับเรื่องอิน (หรือหยิน) กับหยาง ก็มาจากการสังเกต ศึกษาปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ และภูมิอากาศ จดหมายเหตุฮั่นซูบันทึกไว้อย่างนี้

ก่อนหน้ายุคราชวงศ์ฮั่น แนวคิดเกี่ยวกับอิน – หยางก็มีปรากฏขึ้นแล้วในตำรา “อี้จิง” ซึ่งมีกำเนิดในช่วงปลายของยุคราชวงศ์ซาง ตำราอี้จิงนี้เป็นตำราว่างด้วยการเปลี่ยนแปลงนานาประการของสรรพสิ่ง ซึ่งต่อมาคนรุ่นหลังๆ ใช้เป็นตำราพยากรณ์ แม้ในปัจจุบันผู้คนที่เชื่อหมดดูก็ยังตกอยู่ใต้อิทธิพลของตำราอี้จิงเล่มนี้อยู่ ตำราอี้จิงแบบหมอดูฉบับ Simplify มีแปลเป็นภาษาไทยหลายเล่มแล้ว

ตำราอี้จิงได้ถอดรูปธรรมการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งให้เป็นนามธรรม อินกับหยาง

ความเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งเกิดจากปฏิกิริยา ความสมดุล ระหว่างอินกับหยาง ด้านหรือสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน

นักวิชาการเขาจึงบอกว่า แนวคิดอิน-หยาง เป็นแนวความคิดนักวิชาการเขาจึงบอกว่า แนวคิดอิน-หยาง เป็นแนวความคิดปรัชญาที่เป็นนามธรรมสูงกว่าแนวคิดโหงวเฮ้ง แนวคิดเรื่องโหงวเฮ้งจึงน่าจะกำเนิดขึ้นก่อนอิน-หยาง

แล้วต่อมาสองแนวคิดนี้ก็ค่อย ๆ ถูกผนึกเข้าด้วยกัน นักปรัชญาที่เสนอแนวคิดผนึกเรื่องอิน-หยาง โหงวเฮ้ง ขึ้นเป็นระบบ ก็คือ “โจวเหยี่ยน” นักปราชญ์ยุคจั้นกั๋ว

โจวเหยี่ยนเป็นชาวก๊กฉี ว่ากันว่าเขาเป็นผู้ทรงความรู้อย่างยิ่ง โดยเฉพาะความรอบรู้ด้านดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ โจวเหยี่ยนเอาแนวคิดโหงวเฮ้งกับอิน-หยาง ผสมผสานกันและสร้างให้เป็นระบบความคิด นำมาใช้อธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในโลกและจักรวาล รวมทั้งกฎเกณฑ์ การเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งในโลกและจักรวาลด้วย

โจวเหยี่ยนรับเอาแนวคิดดั้งเดิมของโหงวเฮ้งและอินหยางมาพัฒนาในส่วนที่ว่า ธาตุทั้งห้านั้นมีบทบาทเอื้อต่อกันและหักล้างต่อกัน รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เป็นความหมุนวนวัฏจักร

ที่ร้ายคือโจวเหยี่ยนได้นำแนวคิดเรื่องธาตุทั้งห้ามีบทบาทที่เอื้อต่อกันและหักล้างต่อกันมาอรรถาธิบายประวัติศาสตร์สังคม โดยเสนอว่า ราชวงศ์ต่าง ๆ แต่ละราชวงศ์มี "เต๋อ (หรือเต็ก) - คุณธรรม" ห้าประเภทต่างกัน ตามธาตุทั้งห้านั่นเอง และเนื่องจากธาตุทั้งห้ามีบทบาทหักล้างกัน การเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ใดเข้าแทนที่ราชวงศ์ใด เป็นไปตามกฎโหงวเฮ้ง ว่าธาตุใดเอาชนะธาตุใด

แนวคิดที่เป็นระบบของโจวเหยี่ยนได้รับความนิยมกันมาก นักคิดนักปรัชญาสำนักต่าง ๆ ล้วนรับเอาไปใช้

แนวคิดการอธิบายการผลัดเปลี่ยนชนชั้นปกครองตามหลักอิน-หยาง โหงวเฮ้ง นี้ มีอิทธิพลต่อเนื่องมาอีกนมนานในระบบศักดินาจีน

อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องอิน-หยาง โหงวเฮ้ง ก็นับว่าก้าวหน้าในยุคสมัยนั้น และมีคุณประโยชน์ต่อการพัฒนาของวิทยาศาสตร์ของจีนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีอิทธิพลพัฒนาวิชาแพทยศาสตร์ของจีนเป็นอย่างมาก โดยเป็นทฤษฎีพื้นฐานของระบบการแพทย์จีนในยุคราชวงศ์ฉินและราชวงศ์ฮั่น ซึ่งได้สร้างให้เป็นระบบ มีตำราพื้นฐานที่ทุกวันนี้ก็ยังต้องศึกษากันอยู่คือ ตำรา "หวงตี้เน่ยจิง"

พัฒนาการขั้นต่อมาของทฤษฎีอิน-หยาง โหงวเฮ้ง แยกเป็นสองแนวใหญ่ ๆ แนวที่หนึ่งพัฒนาไปทางเทววิทยาโหราศาสตร์ อีกแนวหนึ่งพัฒนาเรื่องโหงวเฮ้งโหงวเต็ก-ห้าธาตุห้าคุณธรรม ชักนำเข้าไปประสมประสานกับลัทธิหญู(ลัทธิขงจื๊อ)

ต่งจงซู นักปรัชญาในยุคราชวงศ์ฮั่น เป็นคนสำคัญที่นำเอาแนวคิดอิน-หยาง โหงวเฮ้ง เข้าไปเสริมอธิบายปรัชญาหญู เสริมแนวความคิดพื้นฐานเกี่ยวกับความแตกต่างทางชนชั้นให้มีทฤษฎีรองรับเป็นระบบ

ต่งจงซู ผู้นี้นับว่าเป็นนักลัทธิแก้ revisionist แก้ปรัชญาขงจื๊ออย่างมากคนหนึ่ง แต่ก็เนื่องจากที่ปรัชญาขงจื๊อถูกแก้ไขนี่เอง ทำให้ชนชั้นปกครองราชวงศ์ฮั่นกลับหันมานิยมลัทธิหญู แล้วประกาศให้ลัทธิหญูเป็นศาสนาประจำก๊ก(ประเทศ)ฮั่น ซึ่งก็ได้รับการสืบทอดมาตราบจนพรรคคอมมิวนิสต์ได้ครองอำนาจ ความเป็นศาสนาประจำชาติจีนของลัทธิขงจื๊อจึงจบสิ้นลง

ความคิดเกี่ยวกับโหงวเฮ้งนี้มีอิทธิพลต่อด้านต่าง ๆ ไปทุกด้าน อย่างที่บอกแล้วว่ามันเริ่มจากดาวพระเคราะห์ห้าดวง ในโลกนี้ก็มีอาชีพห้ากลุ่ม(ในยุคโบราณ) การบริหารปกครองบ้านเมืองก็มีขุนนางห้ากลุ่ม (ห้ากระทรวง) อาวุธทหารก็มีห้ากลุ่ม การลงโทษอาญาก็มีห้าแบบ จริยธรรมของคนมีจริยธรรมพื้นฐานห้าประการ อาหารการกินมีรสชาติห้ารส

ในความเชื่อของชาวบ้านจีน ยุคโบราณจะเต็มไปด้วยเรื่องอิน-หยาง โหงวเฮ้ง ถึงยุคปัจจุบัน แม้พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะปกครองแผ่นดินใหญ่มาห้าสิบกว่าปีแล้วก็ตาม แต่ก็หาได้เปลี่ยนแปลงรากเหง้าความคิดนี้ของชาวบ้านจีนไปได้หมดไม่

จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดามากที่เราจะพบเห็นอิทธิพลแนวคิด อิน-หยาง และโหงวเฮ้ง ยังยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ได้ .
กำลังโหลดความคิดเห็น