หลายวันก่อนได้อ่านข่าวเรื่องของหมู ๒ ตัวที่จังหวัดระยอง รู้สึกขำกลิ้งแล้วอดไม่ได้ที่จะนำมาบอกต่อเพื่อให้ท่านที่ไม่ทราบเรื่องนี้ได้มีอารมณ์เอ็นจอยสนุกสนานไปด้วยกัน ดีกว่าอ่านข่าวของคนไร้สมองที่จะเอาถนนหลวงไปยกให้แก๊งรถซิ่ง
พระเอกของเราในเรื่องนี้เป็นหมูบ้านพื้นเมืองตัวหนึ่ง และหมูป่าตัวหนึ่ง ทั้งสองตัวนี้ถึงจะเป็นหมูต่างพันธุ์ แต่มันมีจิตใจสมานฉันท์ดีกว่าผู้คนอีกมากที่ทะเลาะวิวาทกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ถึงแม้จะเป็นหมู แต่มันก็เป็นหมูมีเจ้าของเหมือนกัน ไม่ใช่เป็นหมูจรจัดตามข้างถนน เพราะเป็นหมูที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสเลี้ยงไว้ ถ้าพูดให้ถูกต้องก็หมายความว่าหมูทั้งสองตัวนี้เป็นหมูวัด
หมูพื้นบ้านมีชื่อเก๋ไก๋ “ บุญรอด ” อายุได้ ๓ ปีแล้วน้ำหนักประมาณ ๒๐๐ กิโลกรัม
หมูป่ามีชื่อไก๋เก๋ “ บุญเลิศ ” อายุได้ ๒ ฤดูฝน น้ำหนักประมาณ ๑๐๐ กิโลกรัม
เมื่อนับตามอายุและน้ำหนักแล้ว บุญรอดย่อมเป็นซือเฮีย “ ซือซวุง 师兄 shi xiong ” ส่วนบุญเลิศก็ต้องเป็นซือตี๋ “ ซือตี้ 师弟 shi di ”
การที่มีหมูพื้นบ้านและหมูป่ามาอาศัยอยู่ตามวัด ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไรนักหรอก เพราะวัดมักจะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บางชนิด ซึ่งเคยมีเจ้าของเลี้ยงดูแต่เมื่อหมดรักหมดเอ็นดูแล้วมักจะนำมาปล่อยวัด อย่างที่มีคำกล่าว ตัดหางปล่อยวัด “ 断尾放寺ต้วน เหว่ย ฟ่าง ซื่อ duan wei fang si ”นั่นแหละครับ
แต่การที่หมูบุญรอดกับหมูบุญเลิศ กลายเป็นข่าวพาดหัวขึ้นมา เพราะ ๒ เกลอหมูอ้วนคู่นี้มีนิสัยใจคอเหมือนกัน ในการที่เป็นหมูคอทองแดง เนื่องจากมันโปรดปรานการดื่มเบียร์เป็นประจำ
ทุกๆ วันในตอนเช้า ๒ หมูคู่ซี้มีภารกิจต้องมอร์นิ่งวอล์คจากวัดไปยังร้านค้าต่างๆ ในละแวกใกล้วัด ซึ่งเจ้าของร้านเห็นแล้วจะทักทายปราศรัย สวัสดีตอนเช้า “ จ่าวอาน 早安 zao an ” กับมิตรรักนักดื่มคู่นี้ด้วยการเปิดเบียร์ให้ซดกันอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อดื่มเสร็จมันก็กระดิกหางร้องอู๊ดๆ เดินส่ายก้นจากไปอย่างสบายๆ ถ้ายังรู้สึกไม่อิ่มหนำสมใจ มันก็จะแวะไปที่ร้านอื่นๆ ตามอัธยาศัย ซึ่งแต่ละร้านก็เต็มใจให้บริการหมูทั้งคู่อย่างดี
บางร้านก็ให้ดื่มเบียร์ 啤酒 pi jiu น้ำอัดลม 汽水 qi shui หรือโอเลี้ยง 乌凉wu liang สุดแล้วแต่จะประเคนให้ ในฐานะที่มันเป็นหมูวัด
เมื่อดื่มสิ่งต่างๆ จนสมควรแก่เวลาแล้ว มันก็เดินเป๋ไปเป๋มากลับวัด แต่ยังไม่ใช่การสิ้นสุดภารกิจประจำวันในภาคเช้าของมันเพียงแค่นั้น เพราะมันจะต้องแวะที่ร้านปากทางเข้าวัด ซึ่งเป็นร้านขายอาหารสัตว์ เพื่อขออาหารกินตามธรรมเนียม
เจ้าของร้านก็จัดการนำเมนูของโปรดมาให้บิ๊กหมูทั้งสองท่านรับประทานตามระเบียบ หลังจากการรับประทานครบเครื่องทั้งเครื่องดื่มและอาหารแล้ว มันก็กลับเข้าวัดไปพักผ่อนตามเรื่องตามราว
ขอเรียนให้ท่านทราบว่า ร้านค้าต่างๆ ที่บริการเครื่องดื่มและอาหารให้นั้น ล้วนแล้วแต่ให้หมูทั้ง ๒ หน่อดื่มฟรีกินฟรีทั้งนั้น เพราะชอบอกชอบใจในพฤติกรรมที่แสน บริสุทธิ์ของมัน ในการกินอย่างเปิดเผยไม่งุบงิบ โดยไม่ต้องให้ใครเขียนจดหมายรับรองว่ามันไม่ได้กินอะไรสักหน่อยตามข้อกล่าวหา
ความจริงในข่าวเรื่องหมูนี้ ยังมีสัตว์อีก ๑ ตัวปรากฏชื่อไว้คือ “ ไอ้เพชร ”
มันเป็นหมาตัวหนึ่ง ซึ่งก็คงเป็นหมาวัดนั่นแหละครับ เพราะหมาบ้านคงไม่ยอมลดตัวลงมาเป็นเพื่อนกับหมูวัด
ภารกิจของไอ้เพชรคือการทำหน้าที่เป็นหมานำทางให้บุญรอดกับบุญเลิศไปแวะดื่มแวะกินตามร้านต่างๆ อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเผชิญกับสัตว์อื่นๆ ที่อาจจะอิจฉาชีวิตอันแสนสุขสบายของบิ๊กหมูคู่นี้
ข่าวไม่ได้แจ้งว่าไอ้เพชรจะผสมโรงในการดื่มเบียร์กับเขาด้วยหรือไม่
กระผมอ่านข่าวนี้แล้วก็อ่านไปพลางยิ้มไปพลาง จึงอดไม่ได้ที่จะนำมาขยายต่อให้ท่านทราบเพื่อจะได้ยิ้มออกมาบ้างท่ามกลางข่าวเลวร้ายมากมาย
ถึงแม้ว่า จะชอบข่าวเรื่องหมูๆ นี้ก็จริง แต่ยังอยากติติงอยู่นิดหน่อย ในการที่ร้านค้าบางร้านให้บริการเครื่องดื่มประเภทเบียร์แก่หมูคู่นี้
ถ้าให้ดีควรจะบริการเฉพาะน้ำดื่มประเภทน้ำอัดลมหรือโอเลี้ยงก็นับว่าพอดีแล้ว ไม่ควรให้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะถ้าดื่มเป็นประจำมันจะเสพติด ยิ่งตอนนี้มีการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ยิ่งไม่สมควรให้หมูวัดดื่มเบียร์ เพราะดื่มมากแล้วมันจะเสียหมูได้ เหมือนคนเสพเหล้าเสพอำนาจนานๆ ก็เมาเหล้าเมาอำนาจได้ทั้งนั้น
อย่าให้หมูน่ารักอย่างนี้ต้องเสียหมูเลยนะครับ
พระเอกของเราในเรื่องนี้เป็นหมูบ้านพื้นเมืองตัวหนึ่ง และหมูป่าตัวหนึ่ง ทั้งสองตัวนี้ถึงจะเป็นหมูต่างพันธุ์ แต่มันมีจิตใจสมานฉันท์ดีกว่าผู้คนอีกมากที่ทะเลาะวิวาทกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ถึงแม้จะเป็นหมู แต่มันก็เป็นหมูมีเจ้าของเหมือนกัน ไม่ใช่เป็นหมูจรจัดตามข้างถนน เพราะเป็นหมูที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสเลี้ยงไว้ ถ้าพูดให้ถูกต้องก็หมายความว่าหมูทั้งสองตัวนี้เป็นหมูวัด
หมูพื้นบ้านมีชื่อเก๋ไก๋ “ บุญรอด ” อายุได้ ๓ ปีแล้วน้ำหนักประมาณ ๒๐๐ กิโลกรัม
หมูป่ามีชื่อไก๋เก๋ “ บุญเลิศ ” อายุได้ ๒ ฤดูฝน น้ำหนักประมาณ ๑๐๐ กิโลกรัม
เมื่อนับตามอายุและน้ำหนักแล้ว บุญรอดย่อมเป็นซือเฮีย “ ซือซวุง 师兄 shi xiong ” ส่วนบุญเลิศก็ต้องเป็นซือตี๋ “ ซือตี้ 师弟 shi di ”
การที่มีหมูพื้นบ้านและหมูป่ามาอาศัยอยู่ตามวัด ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไรนักหรอก เพราะวัดมักจะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บางชนิด ซึ่งเคยมีเจ้าของเลี้ยงดูแต่เมื่อหมดรักหมดเอ็นดูแล้วมักจะนำมาปล่อยวัด อย่างที่มีคำกล่าว ตัดหางปล่อยวัด “ 断尾放寺ต้วน เหว่ย ฟ่าง ซื่อ duan wei fang si ”นั่นแหละครับ
แต่การที่หมูบุญรอดกับหมูบุญเลิศ กลายเป็นข่าวพาดหัวขึ้นมา เพราะ ๒ เกลอหมูอ้วนคู่นี้มีนิสัยใจคอเหมือนกัน ในการที่เป็นหมูคอทองแดง เนื่องจากมันโปรดปรานการดื่มเบียร์เป็นประจำ
ทุกๆ วันในตอนเช้า ๒ หมูคู่ซี้มีภารกิจต้องมอร์นิ่งวอล์คจากวัดไปยังร้านค้าต่างๆ ในละแวกใกล้วัด ซึ่งเจ้าของร้านเห็นแล้วจะทักทายปราศรัย สวัสดีตอนเช้า “ จ่าวอาน 早安 zao an ” กับมิตรรักนักดื่มคู่นี้ด้วยการเปิดเบียร์ให้ซดกันอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อดื่มเสร็จมันก็กระดิกหางร้องอู๊ดๆ เดินส่ายก้นจากไปอย่างสบายๆ ถ้ายังรู้สึกไม่อิ่มหนำสมใจ มันก็จะแวะไปที่ร้านอื่นๆ ตามอัธยาศัย ซึ่งแต่ละร้านก็เต็มใจให้บริการหมูทั้งคู่อย่างดี
บางร้านก็ให้ดื่มเบียร์ 啤酒 pi jiu น้ำอัดลม 汽水 qi shui หรือโอเลี้ยง 乌凉wu liang สุดแล้วแต่จะประเคนให้ ในฐานะที่มันเป็นหมูวัด
เมื่อดื่มสิ่งต่างๆ จนสมควรแก่เวลาแล้ว มันก็เดินเป๋ไปเป๋มากลับวัด แต่ยังไม่ใช่การสิ้นสุดภารกิจประจำวันในภาคเช้าของมันเพียงแค่นั้น เพราะมันจะต้องแวะที่ร้านปากทางเข้าวัด ซึ่งเป็นร้านขายอาหารสัตว์ เพื่อขออาหารกินตามธรรมเนียม
เจ้าของร้านก็จัดการนำเมนูของโปรดมาให้บิ๊กหมูทั้งสองท่านรับประทานตามระเบียบ หลังจากการรับประทานครบเครื่องทั้งเครื่องดื่มและอาหารแล้ว มันก็กลับเข้าวัดไปพักผ่อนตามเรื่องตามราว
ขอเรียนให้ท่านทราบว่า ร้านค้าต่างๆ ที่บริการเครื่องดื่มและอาหารให้นั้น ล้วนแล้วแต่ให้หมูทั้ง ๒ หน่อดื่มฟรีกินฟรีทั้งนั้น เพราะชอบอกชอบใจในพฤติกรรมที่แสน บริสุทธิ์ของมัน ในการกินอย่างเปิดเผยไม่งุบงิบ โดยไม่ต้องให้ใครเขียนจดหมายรับรองว่ามันไม่ได้กินอะไรสักหน่อยตามข้อกล่าวหา
ความจริงในข่าวเรื่องหมูนี้ ยังมีสัตว์อีก ๑ ตัวปรากฏชื่อไว้คือ “ ไอ้เพชร ”
มันเป็นหมาตัวหนึ่ง ซึ่งก็คงเป็นหมาวัดนั่นแหละครับ เพราะหมาบ้านคงไม่ยอมลดตัวลงมาเป็นเพื่อนกับหมูวัด
ภารกิจของไอ้เพชรคือการทำหน้าที่เป็นหมานำทางให้บุญรอดกับบุญเลิศไปแวะดื่มแวะกินตามร้านต่างๆ อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเผชิญกับสัตว์อื่นๆ ที่อาจจะอิจฉาชีวิตอันแสนสุขสบายของบิ๊กหมูคู่นี้
ข่าวไม่ได้แจ้งว่าไอ้เพชรจะผสมโรงในการดื่มเบียร์กับเขาด้วยหรือไม่
กระผมอ่านข่าวนี้แล้วก็อ่านไปพลางยิ้มไปพลาง จึงอดไม่ได้ที่จะนำมาขยายต่อให้ท่านทราบเพื่อจะได้ยิ้มออกมาบ้างท่ามกลางข่าวเลวร้ายมากมาย
ถึงแม้ว่า จะชอบข่าวเรื่องหมูๆ นี้ก็จริง แต่ยังอยากติติงอยู่นิดหน่อย ในการที่ร้านค้าบางร้านให้บริการเครื่องดื่มประเภทเบียร์แก่หมูคู่นี้
ถ้าให้ดีควรจะบริการเฉพาะน้ำดื่มประเภทน้ำอัดลมหรือโอเลี้ยงก็นับว่าพอดีแล้ว ไม่ควรให้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะถ้าดื่มเป็นประจำมันจะเสพติด ยิ่งตอนนี้มีการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ยิ่งไม่สมควรให้หมูวัดดื่มเบียร์ เพราะดื่มมากแล้วมันจะเสียหมูได้ เหมือนคนเสพเหล้าเสพอำนาจนานๆ ก็เมาเหล้าเมาอำนาจได้ทั้งนั้น
อย่าให้หมูน่ารักอย่างนี้ต้องเสียหมูเลยนะครับ