xs
xsm
sm
md
lg

อาชีพเสริมดารามังกร อีกช่องทางเพิ่มเงินในกระเป๋า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยาฮูเน็ต21/09/05 – ถ้าพูดถึงดารา อาชีพหลักก็คือการแสดง ส่วนการทำธุรกิจถือเป็นการหารายได้เสริมอีกทาง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะถึงแม้ว่าดาราบางคนจะโด่งดังเป็นพลุแตก แต่เมื่อมียุคทอง ก็ต้องมียุคมืดเป็นของธรรมดา ใครจะรับประกันอนาคตในวงการมายาได้ ฉะนั้นในช่วงที่ยังมีโอกาสอยู่ ก็ต้องรู้จักใช้เงินต่อเงิน เหล่าดาราจำนวนไม่น้อยจึงกระโดดลงมาทำธุรกิจกันเป็นว่าเล่น

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ – ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นธุรกิจอันดับต้นๆ ที่ดาราควักกระเป๋าลงทุน ทั้ง เฉิงหลง โจวซิงฉือ กวนจือหลิน หวังเฟย (เฟย์ วอง) หลิวเต๋อหัว เหลียงเฉาเหว่ย ล้วนเป็นยอดยุทธด้านกว้านซื้อบ้านและที่ดิน บ้างเห็นคฤหาสน์ที่มีแนวโน้มว่าราคาจะสูงขึ้น ก็ชิงลงมือซื้อไว้ก่อน แล้วค่อยให้เช่า บ้างซื้อที่ซื้อร้านรอให้ราคาขึ้นแล้วค่อยขายเลหลัง ในจำนวนนี้ก็มี โจวซิงฉือ เจ้าพ่อหนังคอมเมดี้รวมอยู่ด้วย ตั้งแต่ปี 1990 เขาเริ่มซื้อบ้านซื้อที่ดิน จนถึงปี 2004 เฮียโจวสะสมอสังหาริมทรัพย์ได้รวมมูลค่าเกือบ 500 ล้านหยวน กลายเป็นดาราที่มั่งคั่งที่สุดบนเกาะฮ่องกง

แต่ก็ยังไม่ถึงขนาด เฉิงหลง ที่กล้าบุกตลาดนอก โดยก่อนหน้านี้ เขาเป็นนายหน้าขายคฤหาสน์หรูในฮอลลิวูดไปเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านเหรียญฮ่องกง รวมกับอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงอีก ปีหนึ่งเฉิงหลงทำเงินสูงกว่า 70 ล้านเหรียญฮ่องกง แถมเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าพ่อตำหรับ “ฟัด” ยังควักกระเป๋าซื้อที่ผืนโตราคากว่าร้อยล้านหยวนที่เกาลูน เพื่อเตรียมไว้สำหรับขยายบริษัทอีกต่างหาก...รวยจนไม่รู้จะรวยยังไง

ข้างฝ่ายเพื่อนร่วมวงการ หลิวเต๋อหัว นอกจากอาศัยแสดงภาพยนตร์ คอนเสิร์ต เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาจนรวยอู้ฟู่แล้ว ก็ยังเจียดเงินไปลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย ตามที่ยาฮูรายงาน ช่วงที่หลิวเต๋อหัวว่างจากการโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง จอมใจบ้านมีดบิน ของผู้กำกับจางอี้โหมว เจ้าตัวก็จะจับเครื่องบินไปเสิ่นหยัง หวังวางเงิน 400 ล้านหยวนซื้อที่ซื้อทางที่แผ่นดินใหญ่ด้วย ข้อมูลจากปากเพื่อนๆ ของเฮียหลิวเล่าว่า ปัจจุบันเฮียหลิวมีคฤหาสน์หลังงามในฮ่องกงไม่ต่ำกว่า 10 แห่งเข้าไปแล้ว หรือแม้แต่หลิวเสี่ยวชิ่ง นางเอกเรื่อง ซูสีไทเฮา ที่ก่อนหน้านี้เคยต้องคดีความฐานหนีภาษี จนถูกศาลสั่งปรับอาน แถมติดคุกอีกปีกว่า บ้านของเธอที่ถูกนำขายทอดตลาดก็มีมากถึง 19 หลัง

นอกจากดาราที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีดาราไต้หวันและฮ่องกงอีกหลายคนที่สนใจลงทุนธุรกิจดังกล่าวในแผ่นดินใหญ่ อาทิ เยิ่นต๊ะหัว หลินอี้เหลียน เหลียงเฉาเหว่ย และ เฉินเสี่ยวตง โดยปัจจุบัน ดาราทุกคนที่กล่าวมาล้วนมีคอนโดหรูที่เซี่ยงไฮ้ทั้งสิ้น เพื่อเป็นที่พักพิงยามที่พวกเขาไปบุกเบิกตลาดในจีนนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ดาราทุกคนที่นิยมซื้อบ้านซื้อที่ไว้เก็งกำไร เพราะยังมีบางคนที่ซื้อที่ไว้ “เพื่อการเพาะปลูก” อย่าง ดาราหนุ่ม ซุนซิ่ง ที่ลงทุนซื้อที่เพาะปลูกผักผลไม้ โดยเจ้าตัวเผยว่า “ผักผลไม้ของผมที่ปลูกที่นี่ไม่ได้ฉีดยาฆ่าแมลงเลย เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติล้วนๆ ผลไม้ที่เด็ดลงมา แค่ใช้ผ้าเช็ด ก็สามารถกินได้แล้ว รสชาติดีเยี่ยมทีเดียว”

ธุรกิจสินค้ามือสอง - ขึ้นชื่อว่าดารา แน่นอนว่าจะต้องก้าวล้ำนำสมัยอยู่เสมอ จะมาทำตัวเชยๆ ต่อหน้าธารกำนันได้อย่างไร ของที่ซื้อมา บางครั้งใช้แค่ครั้งเดียว พอ “เอ้าท์” ก็โยนทิ้ง ของที่เจ้าตัวไม่ต้องการแล้วมีอยู่เต็มบ้านไปหมด แล้วจะระบายของเหล่านี้อย่างไรดี นี่เองเป็นเหตุผลที่เหล่าดาราหัวใสคิดเปิดร้านสินค้ามือสองขึ้น

อย่างเช่น ร้านเสื้อผ้ามือสองของ เฉินฮุ่ยหลิน และเหลียงหย่งฉี เสื้อผ้าใส่แล้วบางชุดของพวกเธอ เอามาวางขาย ยังราคาแพงกว่าเสื้อผ้ามือหนึ่งเสียอีก เจ้าแม่หนังคอมเมดี้ หยางเชียนหัว ก็กระโดดลงมาทำธุรกิจมือสองกับเขาด้วย โดยนอกจากจะจำหน่ายเสื้อผ้าของเธอแล้ว ก็ยังมีของเพื่อนร่วมวงการ อย่าง กู่เทียนเล่อ เหลยซ่งเต๋อ เผิงหลิง และ เฉินฮุ่ยหลิน ด้วย ขณะที่ 2 สาววงทวินส์ก็ไม่น้อยหน้า เปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ซึ่งใครที่เป็นแฟนของสองสาวต้องไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยือนเวลาไปเที่ยวฮ่องกง

ไม่ใช่แต่เฉพาะดาราสาวเท่านั้นที่เปิดร้านขายของมือสอง ดาราชายก็มี อย่าง เจิ้งอี้เจี้ยน ที่โปรดปรานพวกสินค้าไฮเทคทั้งหลาย ถ้ามีสินค้ารุ่นใหม่ออกมา เป็นต้องชิงซื้อเป็นคนแรก เจ้าตัวเลยตัดสินใจเปิดร้านเซ็งลี้พวก “ของเล่น” เก่าเสียเลย ส่วนเฉินก้วนซี (เอดิสัน) ที่ชอบสะสมรองเท้าฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ก็จัดการขนรองเท้าของตัวเอง ที่มากขนาดสามารถวางเต็มเนื้อที่ร้านขนาด 200 ตารางเมตรได้ มาเรหลังขาย

ด้านนักร้องนักแสดงชื่อดัง เซี่ยถิงฟง ที่รักกีต้าร์เหมือนผู้หญิงชอบเพชรพลอยก็ไม่ปาน จัดการเปิดร้านขายกีต้าร์มือสอง โดยงานนี้ มีเพื่อนๆ ร่วมวงการ อย่าง หลูเฉี่ยวอิน เหอยุ่นซือ และ เฉินอี้ซวิ่น หอบกีต้าร์มาวางขายด้วย หรือแม้แต่พ่อหนุ่มหน้าตาย เจย์ โชว (โจวเจี๋ยหลุน) ก็มีหัวการค้าไม่หยอก เปิดร้านขายของเก่า ของโบราณ ที่เจ้าตัวไปซื้อมาจากยุโรป และ ประเทศไทย งานนี้ทำกำไรหรือไม่ไม่สำคัญ หนุ่มเจย์ว่าขอแค่ตัวเองมีความสุขก็พอ

ธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องประดับ – จางป๋อจือ เมื่อครั้งไปถ่ายภาพยนตร์ที่เกาหลีใต้ บังเอิญระหว่างเดินชอปปิ้งไปสะดุดตาสะดุดใจกับเสื้อผ้ายี่ห้อ A6 ของแดนโสมเข้า ก็เลยขอเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้า A6 ซะเลย โดยมาเปิดร้านชื่อว่า “A6 Collection” อยู่แถวแหล่งชอปปิ้งชื่อดังของวัยรุ่นที่ฮ่องกง

ขณะที่สองศรีพี่น้อง ต้าเอส (สีว์ซีหยวน) และ เสี่ยวเอส (สีว์ซีตี้) ที่นิยมชมชอบของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ก็เปิดร้านจำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องประดับ และของกระจุ๊กกระจิ๊กจากแดนอาทิตย์อุทัยที่ไต้หวัน ชื่อร้านว่า "ซือหมู่” นอกจากจะสนองความชอบส่วนตัวแล้ว บางครั้งสองสาวยังขนของในร้านไปกำนันเพื่อนซี้อย่าง ฟั่นเสี่ยวเซวียน และ อู๋เพ่ยเฉิน อีกด้วย...ถือว่าแบ่งๆ กันสวยโนะ

ด้านเฉินก้วนซี ก็สมกับเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนักธุรกิจใหญ่ในฮ่องกง มีหัวการค้าใช่ย่อย ไม่เพียงเปิดร้านขายสินค้ามือสอง ยังมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าแนวฮิป-ฮอปชื่อว่า “Juice” บ่อยครั้งที่เฉินก้วนซีลงทุนไปเสาะหาสินค้าใหม่ๆ ที่ญี่ปุ่นด้วยตัวเองเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีศิลปินจำนวนไม่น้อยที่ริเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา อย่างในปี 1996 ดาราหนุ่มใหญ่ วั่นจื่อเหลียง ถอยแบรนด์เครื่องแต่งกาย “วั่นซื่อ” ออกมาเจาะตลาดเสื้อผ้าแผ่นดินใหญ่ เฮียเฉิงหลงก็ส่งแบรนด์ “หลงผาย” บุกตลาดกว่างโจวเมื่อเร็วๆ นี้ ด้านเยิ่นต๊ะหัว อดีตพระเอกชื่อดังลงทุนกับธุรกิจแว่นตา โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษของตัวเอง "Simon" มาเป็นชื่อยี่ห้อ ธุรกิจไปได้สวยทีเดียว แถมแบบแว่นตาส่วนใหญ่ ยังเป็นผลงานการออกแบบของเยิ่นต๊ะหัวเอง และเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็จับมือกับเหมียวเฉียวเหว่ยเปิดร้านแว่นตาเพิ่มอีกกว่า 20 สาขาในฮ่องกง และยังข้ามถิ่นไปเปิดร้านที่เซี่ยงไฮ้ หวังเจาะตลาดจีนที่มีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคนด้วย

ผับบาร์และร้านอาหาร - หันมาทำธุรกิจร้านอาหาร เทรนด์เดียวกับดาราไทยหลายๆ คนเลย สำหรับ ผู้กำกับชื่อดัง เฝิงเสี่ยวกัง กับร้านอาหารร้านน้ำชา ที่ชื่อว่า “ปู๋เจี้ยนปู๋ซ่าน” (ไม่เจอไม่เลิกรา) กัวฟู่เฉิง นักร้องหนุ่มเท้าไฟ กับร้านอาหารฝรั่งเศส และสถานบันเทิงที่ขอบอกว่าไม่มีใครในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ไม่รู้จัก นั่นคือ “ตงเม่ย” ในย่านแหล่งบันเทิง ของซินเทียนตี้ ซึ่งเป็นการร่วมทุนของดาราชื่อดัง เฉิงหลง เจิงจื้อเหว่ย ค่วงเหม่ยหยุน จงลี่ถี (คริสตี้ ชุง แห่งจันดารา) จางเหวินฉือ จางฮุ่ยอี๋ เป็นต้น ด้วยเงินลงทุนสูงถึง 23 ล้านหยวน เมื่อคราวที่มีงานฉลองเปิดร้าน อลังการงานสร้างราวกับงานประกาศรางวัลตุ๊กตาทองเลยทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น