xs
xsm
sm
md
lg

รู้จักซีนุค: ยักษ์น้ำมันอันดับ 3 ของจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปิดแฟ้มบริษัทจีน/ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ชิ้นหนึ่งที่จุดประกายความสนใจของผู้ติดตามข่าวสารของจีนได้เป็นอย่างดี นั่นคือ การประกาศเสนอซื้อยูโนแคล ยักษ์น้ำมันอันดับ 9 ของสหรัฐฯ ด้วยราคาสูงลิ่วจากยักษ์น้ำมันจีนที่ชื่อ ไชน่า เนชั่นแนล ออฟชอร์ ออยล์ คอร์เปอเรชั่น หรือ ซีนุค CNOOC แม้ว่าสุดท้ายแล้ว การเจรจาขอซื้อครั้งนี้จะไม่สำเร็จ เนื่องจากมีประเด็นเรื่องการเมืองมาแทรก แต่อย่างน้อยก็เป็นการประกาศศักดาของบริษัทจีนในเวทีโลกไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว

ซีนุค หรือชื่อจีน 中国海洋石油总公司 เป็นวิสาหกิจน้ำมันของรัฐบาลที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1982 ภายใต้ระเบียบที่ว่าด้วยการสำรวจแหล่งน้ำมันของจีนร่วมกับบริษัทต่างประเทศ โดยได้สิทธิเต็มตัวในการสำรวจทั้งแหล่งน้ำมันและก๊าซใกล้ฝั่งร่วมกับพันธมิตรต่างชาติ มีสำนักงานใหญ่ที่นครปักกิ่ง และมีทุนจดทะเบียน 50,000 ล้านหยวน ปัจจุบันมีสถานภาพเป็นยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของอุตสาหกรรมนี้บนแผ่นดินใหญ่ โดยเป็นรองจากซิโนเปค(Sinopec)และปิโตรไชน่า (Petro China)เท่านั้น

ซีนุคเดินหน้าสร้างประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจด้วยการให้น้ำหนักกับอุตสาหกรรมต้นน้ำและพัฒนาไปสู่บริษัทที่มีการผลิตครบวงจร จนปัจจุบันซีนุคมี 6 ภาคธุรกิจ ตั้งแต่การสำรวจ พัฒนาก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน การบริการด้านเทคนิค ด้านโลจิสติกส์ เคมี ปุ๋ยเคมีและการเงิน ซึ่งทั้งหมดล้วนมีอัตราการเติบโตที่ดี

ในปี 2004 ซีนุคมีผลประกอบการและอัตราการเติบโตที่น่าพึงพอใจ โดยมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 70,920 ล้านหยวน และกำไรสุทธิ 24,220 ล้านหยวน อันเป็นอัตราเติบโต 32% และ 62% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2003 และเมื่อสิ้นสุดปี 2004 ซีนุคมีทรัพย์สินและทรัพย์สินสุทธิเป็นมูลค่า 153,260 ล้านหยวน และ 83,060 ล้านหยวน โดยผลกำไรทั้งหมด และทรัพย์สินทั้งหมดของซีนุค อยู่ในอันดับที่ 5 และ 12 ของบรรดาวิสาหกิจรัฐบาลทั่วประเทศ นอกจากนั้น ในสายตานักลงทุนต่างประเทศ ซีนุคยังเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับ ด้วยการได้มาตรฐานระดับ BBB+ และ A2 เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดของบริษัทจีนเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่อาจนับว่า ณ ขณะนี้ธุรกิจของซีนุคครบวงจร เนื่องจากยักษ์ผลิตน้ำมันอันดับ 3 ของจีนรายนี้ ยังขาดโรงกลั่นของตนเอง และแล้วในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซีนุคก็ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลในการสร้างโรงกลั่นหนันไห่ ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่เป็นความร่วมมือระหว่างซีนุคกับ เชลล์ ยักษ์น้ำมันโลก ในโครงการซีนุค-เชลล์ ปิโตรเคมีคัลส์ โปรเจ็ค ด้วยเงินลงทุน 16,700 ล้านหยวน ที่จะเนรมิตโรงกลั่นที่มีกำลังการผลิต 12 ล้านตันต่อปี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจะลงมือสร้างในปลายปีนี้ที่มณฑลกว่างตง ตอนใต้ของประเทศจีน และเริ่มใช้งานจริงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2008 ซึ่งโครงการดังกล่าว จะช่วยพัฒนาธุรกิจด้านโรงกลั่นให้กับซีนุก และผลักดันให้ซีนุกเป็นบริษัทด้านพลังงานครบวงจรที่มีความสามารถแข่งขันในระดับสูง ขณะเดียวกันก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกว่างตงและพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของจีนด้วย

ทั้งนี้ โครงการซีนุค-เชลล์ ปิโตรเคมีคัลส์ โปรเจ็ค เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างจีนกับต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของแผ่นดินใหญ่ ณ ปัจจุบัน โดยมีเงินสำหรับลงทุนถึง 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดตั้งปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ ที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ปริมาณ 2.3 ล้านตันต่อปี จากคอมเพล็กซ์ที่จะสร้างขึ้นบริเวณอ่าวต้าหยา เมืองฮุ่ยโจว มณฑลกว่างตงในสิ้นปีนี้

นอกจากนั้น ซีนุคยังเป็นบริษัทแรกที่นำเข้าก๊าซหุงต้ม (Liquefied Natural Gas : LNG ก๊าซธรรมชาติเหลว  ) ซึ่งโรงงานที่ตั้งอยู่ในมณฑลกว่างตงและฝูเจี้ยนทำให้ซีนุคกลายเป็นเจ้าแห่งอุตสาหกรรมภาคนี้ไม่ยาก และในปีที่ผ่านมา ซีนุคก็ได้บรรลุสัญญากับพันธมิตรท้องถิ่นในการตั้งโครงการ LNG ในเซี่ยงไฮ้และเจ้อเจียง ซึ่งเป็นรากฐานอันดีในการสร้างเครือข่ายท่อส่งก๊าซตามแนวชายฝั่ง พร้อมกันนี้ ยังได้ลงนามในสัญญาข้อตกลงเบื้องต้น (HOA) ข้อตกลงกรอบความร่วมมือ รวมถึงข้อตกลงด้านการวิจัยร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นของมณฑลเหลียวหนิง เจียงซู เหอเป่ย เป่ยจิง เทียนจินและซันโถว ซึ่งการลงทุนทั้งหมดตลอดแนวชายฝั่งเช่นนี้ ย่อมมีส่วนช่วยขจัดปัญหาการขาดแคลนพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชายฝั่งที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู

สำหรับโลโก้ของซีนุค ลายคลื่นสีน้ำเงินหมายถึงชายฝั่งทะเลของจีน และตัวหนังสือสีแดงที่เขียนว่า CNOOC ก็คือตัวย่อของ China Offshore Oil Corporation ตัวอักษร C ให้ความรู้สึกถึงดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นสู่ฟากฟ้า ซึ่งหมายถึงอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันที่กำลังเฟื่องฟู ส่วน NOOC นั้นมีลักษณะเหมือนแท่นและโครงการขุดเจาะ โดยเฉพาะตัว N ที่มีรูปลักษณ์คล้ายปั้นจั่น .

ฟู่เฉิงอี้ว์ ผู้ชายเบอร์หนึ่งแห่งซีนุค
ฟู่เฉิงอี้ว์ วัย 53 เป็นสุดยอดซีอีโอที่มีวิสัยทัศน์คนหนึ่งของจีน เขาคือผู้บริหารวิสาหกิจน้ำมันรายใหญ่ของรัฐแห่งนี้ แต่ด้วยบุคลิกที่ไม่ค่อยพูด และทำตัวโลว์โปรไฟล์ บรรดาสื่อมวลชนจึงให้สมญาว่า “守口如瓶” ที่แปลว่า ‘ปิดปากเงียบสนิท’ ให้กับเขา

ฟู่เฉิงอี้ว์ คนนี้เป็นชาวเมืองชีชีฮาร์ ในมณฑลเฮยหลงเจียง จากครอบครัวผู้ใช้แรงงานธรรมดา แต่โชคดีที่เขาได้รับโอกาสอันดีด้านการศึกษา ในช่วงที่อายุได้ 20 ปี ก็ได้รับการคัดเลือกระดับอำเภอให้เข้าเรียนได้ที่วิทยาลัยปิโตรเลียมตะวันออกเฉียงเหนือ (ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยปิโตรเลียมต้าชิ่ง) ในชั้นของนักเรียนเฉพาะของผู้ใช้แรงงาน เกษตรกรและทหาร ซึ่งก่อนหน้านั้น ระดับการศึกษาของเขามีเพียงแค่มัธยม 2 เท่านั้น แต่ทว่าสิ่งนี้ไม่เป็นอุปสรรค เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีความเพียรพยายาม ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นเขาอ่านหนังสือยามค่ำคืนอยู่ในห้องเรียนหรือห้องสมุด และในบางครั้งถึงกับจุดเทียนเพื่ออ่านหนังสือ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังที่ผลการเรียนของเขาอยู่ในระดับต้นๆ ทีเดียว

นอกจากผลการเรียนในระดับเยี่ยมแล้ว ฟู่เฉิงอี้ว์ยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลตัวหลักของโรงเรียนอีกด้วย แต่แม้จะมีความสามารถรอบด้าน ในสายตาของเพื่อนฝูงและครูอาจารย์ เขาเป็นคนถ่อมตัว และเก่งในเรื่องการทำงานเป็นทีม ที่สำคัญคือเขาเป็นคนมีน้ำใจ ดังที่หยางอิงเจี๋ย จากสถาบันวิจัยบ่อน้ำมันเหลียวเหอ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาเล่าให้ฟังว่า “ สมัยนั้นอาหารการกินยังจำกัด แต่ละคนได้โควตาธัญพืชยังไม่ผ่านการแปรรูปเดือนละ 17 กิโลกรัมและที่ผ่านการแปรรูปแล้วอีก 2.5 กิโลกรัม ซึ่งสำหรับผมมันไม่พอ เฉิงอี้ว์ก็มักจะแบ่งขนมเปี๊ยะให้เสมอ ”

ชีวิตการทำงานของฟู่เฉิงอี้ว์หลังเรียนจบเกี่ยวพันกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียมมาโดยตลอด และในปี 1982 ที่ก่อตั้งซีนุค ขณะนั้นเขาทำงานอยู่ที่บ่อน้ำมันแห่งหนึ่งทางภาคเหนือได้ 7 ปีแล้ว ก็ถูกเรียกตัวเข้ามารับงานที่ซีนุคในปักกิ่ง หลังจากนั้น 2 ปี ก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองผู้จัดการแผนกสำรวจ พร้อมกันนั้น ยังได้ทุนไปเรียนต่อด้านวิศวกรรมปิโตรเลียมที่มหาวิทยาลัยเซาท์ แคลิฟอร์เนียระดับปริญญาโทด้วย

หลังจากจบจากสหรัฐอเมริกา ฟู่เฉิงอี้ว์กลับมาทำงานที่ซีนุคเหมือนเดิม และได้รับการเลื่อนตำแหน่งสม่ำเสมอ จนตำแหน่งสุดท้ายคือรองผู้จัดการภาคตะวันออก ในเดือนธันวาคม ปี 1995 เขาก็ต้องรับคำสั่งออกจากซีนุค เพื่อรับตำแหน่งรองซีอีโอของบริษัทฟิลิปส์ ภาคพื้นประเทศจีนและควบตำแหน่งผู้จัดการใหญ่บ่อน้ำมันซีเจียง อันเป็นความร่วมมือทางธุรกิจโครงการหนึ่งระหว่างรัฐจีนกับบริษัทเอกชนต่างชาติที่เริ่มไหลเข้ามาหลังจีนเปิดประเทศ

อย่างไรก็ตาม ดวงชะตาของเขาก็ยังสมพงษ์กับซีนุค โดยในปี 1999 ที่ยักษ์น้ำมันแห่งนี้เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็หวังที่จะได้ฟู่เฉิงอี้ว์เข้ามาปรับโครงสร้างองค์กร ดังนั้นในเดือนตุลาคมปีถัดมา เขาก็ได้กลับเขามาในตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ พร้อมกับรักษาการณ์ประธานบริษัทซีนุคเซี่ยงไฮ้ (มหาชน) หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์ เขาก็ได้กระโดดขึ้นรักษาการณ์เป็นซีอีโอของซีนุค และรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในปี 2003 ขึ้นชั้นเป็นเบอร์ 1 ของยักษ์น้ำมันอันดับ 3 ของจีน ด้วยประสบการณ์อันช่ำชองในสายงานนี้ .

www.cnooc.com.cn
กำลังโหลดความคิดเห็น