ว่ากันว่าการอ่านหนังสือ ดูหนัง-ทีวี ช่วยเปิดโลกทัศน์สู่โลกกว้าง และช่วยให้เราได้รับรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไปด้วยตนเอง
สุดสัปดาห์นี้จึงอยากเชิญชวนผู้อ่าน ‘มุมจีน’ ไปสัมผัสหลากหลายมิติของแดนมักกรผ่านโลกแห่งแผ่นฟิลม์กัน ในงานสัปดาห์ภาพยนตร์จีน ฉลองครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน ณ โรงภาพยนตร์ อีจีวี ชั้น 6 บิ๊กซี ราชดำริ
งานนี้ได้ผู้ใหญ่ใจดีจากหลายหน่วยงาน โดยเจ้าภาพใหญ่คือ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยประเทศจีน
สำหรับหนังที่คัดสรรมาฉายครั้งนี้มีทั้งหมด 6 เรื่องด้วยกัน แต่ละเรื่องนอกจากจะสะท้อนสภาพสังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนจีนได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีเนื้อหา อารมณ์ และเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งล้วนการันตีคุณภาพจากทั้งในและนอกประเทศจีน
โดยหนังรอบปฐมทัศน์ที่ฉายไปในวันนี้(1 ก.ย.) คือเรื่อง ‘กาต๋าเหมยหลิน’ (嘎达梅林-Gada Meilin) เรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ว่าด้วยวีรบุรุษชาวมองโกล เมื่อ 70 ปีก่อน ที่เป็นผู้นำชาวบ้านในการพิทักษ์รักษาท้องทุ่งอันกว้างใหญ่ของดินแดนมองโกเลียในไว้ให้ลูกหลาน
หนังเรื่องนี้ เน้นฉากธรรมชาติที่สวยงามน่าหลงใหลของทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ในมองโกเลียใน ภาพและเสียงเพลงพื้นเมืองที่สอดร้อยกันอย่างลงตัว เป็นเสมือนภาพยนตร์โอเปร่าเรื่องเยี่ยม ที่แสดงให้เห็นความเป็นคนซื่อสัตย์ รักพวกพ้อง และ กล้าได้กล้าเสียของชาวมองโกล
นอกจากเรื่อง‘กาต๋าเหมยหลิน’ แล้ว ยังมีอีก 5 เรื่อง ได้แก่
ฤดูที่รุ่งโรจน์(灿烂的季-Splendid Season)
จี้หัว กับ จี้เจิน สองสาวพี่น้องสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่สนิทกันมากและมีนิสัยรักเด็ก จี้เจินเข้าร่วมกิจกรรม ‘แม่บุญธรรม’และได้รับอุปการะ หย่วนหัง ที่แม่เสียชีวิตและมี จื้อเผิง น้าชายเป็นคนดูแล ส่วนจี้หัวแม้จะแต่งงานแล้ว แต่ก็ได้รับเลี้ยง จินโต้ว ที่เป็นเด็กกำพร้าเช่นกัน
จี้เจิน และ จื้อเผิง ช่วยกันเลี้ยงดู หย่วนหัง จนพัฒนาความสัมพันธ์จาก ความเข้าใจ เป็นความไว้วางใจ และความรักในที่สุด ส่วนสามีของจี้หัว แม้ช่วงแรกจะไม่รัก จินโต้ว แต่ภายหลังได้อบรมเลี้ยงดู ก็ค่อยๆ เกิดความรู้สึกผูกพันกันขึ้นทีละน้อยๆ จนในที่สุด จินโต้ว ก็ยอมรับจี้หัวและสามีเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง
และแล้วช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์สายใยที่แน่นเฟ้นระหว่างกันก็มาถึง เมื่อพ่อของหย่วนหังกลับมาเพื่อจะรับลูกไปอยู่ด้วย
‘ฤดูที่รุ่งโรจน์’ ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมฮวาเปียนและรางวัลแสดงนำชาย-หญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลประกวดภาพยนตร์จีนครั้งที่ 10
คุณแม่ผู้พิพากษา(法官妈妈-Judge Mama)
หนุ่มน้อยวัย 15 ปี จางซ่วย ถูกจับฐานลักทรัพย์ จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล คนที่บ้านหลงคำหลอกล่อของทนาย ว่าถ้ายอมจ่ายเงินใต้โต๊ะให้ผู้พิพากษาสาว อันฮุ่ย ก็จะช่วยลดทอนโทษของลูกชายลง แต่แล้วทนายกลับฮุบเงิน 20,000 ไว้เสียเอง ฝ่ายจางซ่วยต้องโทษจำคุก 3 ปี หลังจากนั้นไม่นานแม่ของหนุ่มน้อยก็ป่วยและเสียชีวิต เมื่อจางซ่วยพ้นโทษจึงหวังแก้แค้นให้กับแม่
จางซ่วยวางแผนเข้าไปอยู่ในบ้านของ อันฮุ่ย และติดเครื่องดักฟังไว้ในบ้านของเธอ เพื่อหวังจะหาหลักฐานความผิดที่เธอทำ เวลาผ่านไป ไม่เพียงจางซ่วยจะไม่พบพิรุธในตัวอันฮุ่ย เขายังได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเธอเป็นอย่างดี และเธอก็ได้ช่วยชีวิตของเขาไว้อีกครั้งหนึ่ง ความดีของอันฮุ่ยได้สั่นคลอนความคิดของจางซ่วย ซึ่งต้องเลือกระหว่างล้างแค้นให้แม่บังเกิดเกล้า กับตอบแทนผู้ที่ช่วยชีวิต
เรื่องนี้ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ดีเด่นจากเทศกาลภาพยนตร์จีนไป่ฮวาครั้งที่ 11
อาหน่วน (暖-Nuan)
หลินจิ่งเหอ ลางานกลับไปยังบ้านเกิดในชนบทที่จากมากว่า 10 ปี เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ยืดเยื้อของอาจารย์สมัยเรียนมัธยมจนสำเร็จลุล่วง ในวันที่จะเดินทางกลับ เขาได้พบกับ หน่วน หญิงสาวที่เขากลัวจะต้องพบหน้า แต่ก็ไม่เคยลืมไปจากใจ ความหลังเมื่อครั้งสอบเข้ามหาวิทยาลัยยังคงแจ่มชัดในความทรงจำ
จิ่งเหอ ก็เหมือนชายอื่นในหมู่บ้านที่ชอบและหวังจะได้เชยหน่วน เขาพยายามให้กำลังใจเธอ และบอกให้เธอตั้งใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ เพื่อทำความฝันที่อยากเป็นดาราให้เป็นจริง วันหนึ่งขณะที่ทั้งสองนั่งชิงช้าเล่นอยู่ เชือกผูกชิงช้าเกิดหลุด จนทั้งสองล้มลง ทำให้ข้อเท้าของหน่วนหัก
ในที่สุด จิ่งเหอ ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยในเมืองได้ ก่อนออกเดินทางเขาได้พูดต่อหน้าพ่อของหน่วนว่า ถ้าเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วจะกลับมารับหน่วน ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นการรอคอยที่ไม่มีทางเป็นจริงครั้งที่สองของเธอ โดยคราวนี้กลับมีชายใบ้มาเป็นคนยาใจ
หนังเรื่อง’อาหน่วน’ ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว
อยู่อย่างสงบ (安居- Live at Peace)
ความไม่ลงรอยกันของแม่ผัวลูกสะใภ้ ทำให้ลูกชายต้องแยกคุณแม่ไปอยู่ต่างหากตามลำพังที่ห้องพักเก่าๆ ในเมืองกว่างโจว และจ้างสาวใช้คนหนึ่งมาคอยปรนนิบัติดูแล จากแรกๆ ที่ไม่ถูกชะตากัน กลับกลายเป็นถูกคอถูกใจ จนคุณย่ากลับตัดสินใจยกเงินเก็บทั้งหมดให้กับสาวใช้เพื่อนำไปเปิดร้านอาหาร ส่วนตัวเองกลับเลือกย้ายไปใช้ชีวิตบั้นปลายในสถานสงเคราะห์คนชรา
หนังเรื่องนี้อาศัยสภาพจิตใจของคนแก่ มาสะท้อนความสัมพันธ์ และมิตรภาพของคนต่างวัยในสังคม โดดเด่นด้วยการแสดงที่สมจริงและให้อารมณ์ลึกซึ้ง จนได้รับรางวัลแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้ และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในงานประกวดภาพยนตร์จีนครั้งที่ 13
บัวหอม ( 荷香- The Story of Lotus)
เหอเซียง เป็นหญิงหม้ายที่สามีเสียหลังเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เธอจึงต้องรับภาระทุกอย่างในบ้านแต่เพียงผู้เดียวอย่างอดทน ความเป็นกุลสตรีที่เพรียบพร้อมและอ่อนโยน ได้โดนใจชาย 2 คน คือผู้จัดการเหมืองแร่และคนขับรถบัส คนแรกหน้าที่การงานและฐานะดี คนหลังจิตใจดีมีคุณธรรม แต่เธอต้องเลือกแค่คนใดคนหนึ่ง
วันคืนผ่านไป ชีวิตคู่กำลังจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เหอเซียงได้พบกับรักแท้ ซึ่งทำให้เธอได้รู้ว่า ชีวิตช่างเหมือนกับชาจีนเก่าแก่ ที่มักจะขมก่อนจะได้สัมผัสกับรสหวาน
หนังเรื่องเหอเซียง หรือบัวหอมนี้ ได้ร่วมฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติมอลทิออลครั้งที่ 27 ด้วย
***รอบหนังทั้ง 6 เรื่อง
วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2548
- ‘ฤดูที่รุ่งโรจน์’ : 15.00น.
- ‘บัวหอม’ : 17.15น.
- ‘อยู่อย่างสงบ’ : 19.30น.
วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน 2548
- ‘กาต๋าเหมยหลิน’ : 15.00น.
- ‘อาหน่วน’ : 17.30น.
- ‘คุณแม่ผู้พิพากษา’ : 19.30น.
หมายเหตุ ทั้ง 6 เรื่องฉายเป็นภาษาจีนกลาง มีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ