xs
xsm
sm
md
lg

10 สาวงามใต้เงาฟิล์มของฉีเคอะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


1. หลินชิงเสีย เทพธิดาในดวงใจ

ฉีเคอะ เคยออกปากว่า ไม่มีใครสามารถแทนที่หลินชิงเสียได้ ในรอบ 50 ปี จึงจะมีคนอย่างหลินชิงเสียสัก 1 คน ในช่วงปี 60 หลินชิงเสียเป็นสาวสวยที่หนุ่มๆ หลายคนใฝ่ฝันถึง

หลินชิงเสียร่วมงานกับฉีเคอะในเรื่อง ซูซันเทพยุทธเขามหัศจรรย์ จนถึงเรื่อง เดชคัมภีร์เทวดา พูดได้เต็มปากว่า ฉีเคอะเป็นผู้ชุบชีวิตเธอให้ฟื้นคืนวงการบันเทิงอีกครั้ง ยิ่งในเรื่องเดชคัมภีร์เทวดากับการพลิกโฉมของหลินชิงเสียมาแต่งชุดผู้ชาย ยิ่งสร้างชื่อและทำให้ภาพลักษณ์ของตงฟางปู้ป้ายฉบับหลินชิงเสีย กลายเป็นต้นแบบให้กับ ตงฟางปู้ป้าย ในยุคต่อๆ มา

2. จางมั่นอี้ว์ งูเขียวสุดเซ็กซี่

ฉีเคอะได้สร้างมิติใหม่ให้กับวงการการสร้างหนังจากเรื่อง นางพญางูขาว (青蛇) ในปี 1993 และยังดึงเอาความสามารถที่แอบแฝงอยู่ของจางมั่นอี้ว์ออกมาได้สำเร็จ เรื่องนี้ทำให้จางมั่นอี้ว์คว้ารางวัลจากทั้งในและนอกประเทศจำนวนมาก นางงูเขียวที่จางมั่นอี้ว์แสดงนั้น ได้สลัดภาพปีศาจที่มนุษย์วาดภาพไว้แต่เดิม ให้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น นางงูเขียวฉบับจางมั่นอี้ว์มีกลิ่นอายของความเป็นปีศาจ แต่ก็ไม่ทิ้งความซุกซนน่ารักแบบมนุษย์ นอกจากเรื่องนี้แล้ว จางมั่นอี้ว์ได้ร่วมงานกับฉีเคอะอีกเรื่องคือ Dragon Inn ซึ่งเธอก็แสดงได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน

3. กวนจือหลิน แจกันดอกไม้ที่งดงาม

ภาพยนตร์เรื่อง ‘หวงเฟยหง’ ทั้ง 4 ภาค (ปี 1991-1994) กวนจือหลินรับบทเป็นท่านอา 13 ที่เติบโตมาพร้อมกับหวงเฟยหง ภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับคุณธรรมและความรักของจอมยุทธ กระบวนท่าการต่อสู้ที่มันส์สะใจ ฉากที่สวยงาม ส่งให้หวงเฟยหงที่ เจ็ท ลี (หลี่เหลียนเจี๋ย) แสดงประสบความสำเร็จสุดๆ และแน่นอนที่วีรบุรุษต้องคู่กับสาวงาม แต่น่าเสียดายที่หญิงงามส่วนใหญ่ก็เหมือนกับแจกันดอกไม้ประดับฉาก

หากกล่าวว่า คาแรคเตอร์ที่งดงามอ่อนโยนอย่างท่านอา 13 เป็นบทบาทส่วนใหญ่ที่กวนจือหลินได้รับ ถ้าเช่นนั้นบทบาท เยิ่นอิ๋งอิ๋ง ในเรื่อง เดชคัมภีร์เทวดา ก็เป็นการพลิกบทบาทของเธอ เยิ่นอิ๋งอิ๋ง ที่อ่อนโยนเหมือนสายน้ำ แต่ก็เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแย่งความโดดเด่นไปจากบท ตงฟางปู้ป้าย ที่หลินชิงเสียแสดงได้ แต่บทบาทของกวนจือหลินก็สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ไม่น้อยเช่นกัน

4. หวังจู่เสียน กับบทผีสาว ‘งามแต่อาภัพ’

อาจเพราะสวยเกิน ทำให้หลายปีที่ผ่านมา หวังจู่เสียนได้แสดงแต่บทบาท “แจกันดอกไม้ประดับฉาก” จนกระทั่งในที่สุดก็มาประสบความสำเร็จสุดๆ ในเรื่อง โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้ารัก ของฉีเคอะในปี 1987 เรื่องนี้ไม่แค่พลิกโฉมวงการจอเงินฮ่องกง แต่ยังกลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของหวังจู่เสียนนางเอกของเรื่องอีกด้วย

โปเยโปโลเย และ นางพญางูขาว ถือเป็นผลงานที่เจียระไนหวังจู่เสียนให้กลายเป็นเพชรน้ำงามประดับวงการจอเงินฮ่องกง หลายปีที่ผ่านมา บทบาททั้งสองยังคงตราตรึงในความทรงจำของแฟนหนังฮ่องกงมิรู้ลืม

5. หยางไฉ่หนี ดรุณีหยกตลอดกาล

หยางไฉ่หนีเมื่อครั้งเข้าสู่วงการบันเทิงใหม่ๆ มักถูกนำไปเปรียบเทียบกับ โจวฮุ่ยหมิ่นอยู่เสมอ แต่ต่อมาหยางไฉ่หนีเริ่มหันไปทำธุรกิจส่วนตัวและหายหน้าหายตาจากวงการบันเทิงไป จนถึงวันนี้ โจวฮุ่ยหมิ่นไม่ค่อยเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์อีก ส่วนหยางไฉ่หนีหลังจากเลิกกับแฟนหนุ่ม ก็หวนกลับคืนวงการ และมาร่วมงานกับฉีเคอะอีกครั้ง

ภาพยนตร์เรื่อง ม่านประเพณี ในปี 1994 ซึ่งนำแสดงโดย หยางไฉ่หนี และ อู๋ฉีหลง ฉีเคอะไม่ได้ใช้การต่อสู้และมุขตลกที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้นเข้ามาผสม แต่เป็นการถ่ายทำภาพยนตร์เชิงวรรณกรรมคลาสสิคสุดโรแมนติก ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ประเภทนี้ หยางไฉ่หนีที่แสดงเป็น จู้อิงไถ ที่สดใสน่ารักไร้เดียงสา แม้ปลอมตัวเป็นชาย แต่ก็ไม่ขาดความงามแบบผู้หญิง

จนมาเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ ฉีเคอะตัดสินใจสร้างภาพยนตร์เรื่อง 7 กระบี่เทวดา (Seven Swords) หยางไฉ่หนีก็เป็นตัวเลือกแรกของเขา ฉีเคอะเผยว่า “คาแรคเตอร์เดิมของหยางไฉ่หนี ดูบอบบางอ่อนแอ ตอนที่ผมติดต่อให้เธอมารับบทมือกระบี่เทียนเป้า ก็บอกเธอแล้วว่า ผมจะพลิกบทบาทในหนังจอเงินของเธอ”

6. หลี่เจียซิน ผีสาวที่สวยที่สุด

หลี่เจียซิน อดีตนางงามฮ่องกงปี 1988 ได้มีโอกาสร่วมแสดงในเรื่อง เดชคัมภีร์เทวดา ของฉีเคอะด้วย โดยในเรื่องเธอแสดงเป็นหญิงสาวที่แต่งกายเป็นชาย งานนี้เรียกได้ว่าเป็นการพลิกคาแรคเตอร์ของสาวคนนี้ไม่น้อย

และในเรื่อง ‘เยาโซ่วตูซื่อ’ ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักสุดโรแมนติกปนรันทดของ หลี่เจียซิน ที่แสดงเป็นผีสาวสุดสวย ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีกลิ่นอายเหมือนกับเรื่อง โปเยโปโลเยฯ อีกทั้งหลี่เจียซินถึงขนาดลงทุนเปลือยหลังเข้าฉาก แต่ก็ยังไม่สามารถเหนือกว่าเรื่อง โปเยโปโลเยฯ ไปได้ ดังนั้น เธอจึงยังไม่สามารถสลัดภาพลักษณ์ความเป็น ‘แจกันดอกไม้ประดับฉาก’ ไปได้ ถือว่าน่าเสียดายจริงๆ

7. หยวนหย่งอี๋ นางเอกภาพยนตร์สมัยใหม่

เป็นที่สังเกตว่า ในหนักตลกร่วมสมัย นางเอกที่ฉีเคอะเลือกส่วนใหญ่ ก็คือ หยวนหย่งอี๋นี่เอง ในเรื่อง ต้าซันหยวน (ปี 1996) เป็นผลงานเรื่องสุดท้ายของฉีเคอะก่อนบุกตลาดฮอลลิวูด ตั้งแต่องค์ประกอบของหนังจนถึงวัตถุดิบความตลกต่างๆ ทำให้คนดูรู้สึกว่า “มันเชยไปแล้ว” เทียบกับเรื่อง หม่านฮั่นเฉวียนซี ในปี 1994 ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การแสดงของหยวนหย่งอี๋ ในเรื่อง หม่านฮั่นเฉวียนซีก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ อาจเป็นเพราะฉีเคอะไม่ถนัดกำกับหนังร่วมสมัยก็เป็นได้

8. จางป๋อจือ ผู้รับช่วงต่อจากหลินชิงเสีย

หลายคนดูออกว่า ฉีเคอะมีความรู้สึกผูกพันเป็นพิเศษกับภาพยนตร์เรื่อง ซูซันเทพยุทธเขามหัศจรรย์ 《新蜀山剑侠传》 ที่หลินชิงเสียแสดงไว้เมื่อปี 1983 ดังนั้นจึงตัดสินใจนำเรื่องนี้มาปัดฝุ่นใหม่ในปี 2001 โดยใช้ชื่อเรื่องว่า ซูซัน ศึกเทพยุทธถล่มฟ้า 《蜀山》 และในครั้งนี้ ฉีเคอะก็ได้เลือกจางป๋อจือมารับบทนางเอกของเรื่องแทนหลินชิงเสีย

หลายคนบอกว่า จางป๋อจือ หน้าตาคล้ายกับหลินชิงเสียสมัยสาวๆ มีครั้งหนึ่งลูกสาวตัวน้อยของหลินชิงเสียเห็นรูปจางป๋อจือในหน้าหนังสือพิมพ์ ยังเข้าใจผิดเรียกจางป๋อจือว่า “แม่” เลย

9. จางจิ้งชู ดาวรุ่งดวงใหม่

จางจิ้งชู ซึ่งรับบทเป็นหลิวอี้ว์ฟาง ในเรื่อง 7 กระบี่เทวดา เป็นดาวดวงใหม่ที่ฉีเคอะค้นพบมาจากเรื่อง ข่งเช่ว์ ภาพยนตร์จีนน้ำดีที่เพิ่งคว้ารางวัลหมีเงิน ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองเบอร์ลินมาหมาดๆ

ฉีเคอะเคยพูดถึงจางจิ้งชูไว้ว่า “จางจิ้งชูเป็นนักแสดงหญิงที่แสดงได้สมบทบาท ในเรื่องข่งเช่ว์มีฉากหนึ่งที่เธอเกือบจะเปลือยหมด ถ้าพูดถึงเด็กใหม่แล้ว การแสดงของจางจิ้งชูมีความเป็นธรรมชาติ และมีโอกาสก้าวหน้ามากกว่าคนอื่น” ลองได้รับคำชมจากฉีเคอะแบบนี้ เชื่อว่า เส้นทางบนถนนสายบันเทิงของจางจิ้งชูจะต้องสดใสกว่าดาราหน้าใหม่คนอื่นๆ เป็นแน่

10. คิมโซยอน นักแสดงคนโปรดของฉีเคอะ

ตอนแรกมีข่าวว่า ที่ฉีเคอะเลือกคิมโซยอนมารับบท ลี่ว์จู ในเรื่อง 7 กระบี่เทวดานั้น เนื่องจากต้องการที่จะเจาะตลาดเอเชีย ต่อมาก็มีข่าวลือออกมาอีกว่า ดูเหมือนช่วงที่ถ่ายทำ 7 กระบี่เทวดานั้น ผู้กำกับฉีเคอะโปรดปรานนักแสดงสาวสายเลือดอารีดังคนนี้ออกนอกหน้า แถมยังเพิ่มบทให้เธอเป็นพิเศษอีกด้วย ในเรื่องนอกจากฉากต่อสู้ที่ตื่นเต้นแล้ว คิมโซยอนยังลงทุนเปลือยครั้งแรกเพื่อแสดงในฉากรักร้อนแรง ส่วนสาวคนนี้จะมีฝีมือด้านการแสดงแค่ไหนคงต้องลองไปพิสูจน์กันดู
กำลังโหลดความคิดเห็น