xs
xsm
sm
md
lg

ตราอาญาสิทธิ์รูปเสือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ราอาญาสิทธิ์เป็นเครื่องหมายแสดงหลักฐานชนิดหนึ่งในสมัยโบราณ ใช้ในการถ่ายทอดคำสั่ง รวมถึงบัญชาการเคลื่อนทัพของทางราชสำนักจีนในสมัยโบราณ กล่าวกันว่าเจียงจื่อหยา ขุนศึกคนสำคัญในยุคราชวงศ์โจวเป็นผู้คิดค้นขึ้น จัดทำขึ้นจากวัสดุต่างๆ อาทิ โลหะสำริด ทองคำ เงิน หยก เขาสัตว์ ไม้ไผ่ ไม้ เป็นต้น

ตราอาญาสิทธิ์รูปเสือ หรือตราอาญาสิทธิ์ทางทหาร ใช้เป็นหลักฐานในการมอบหมายอำนาจทางการทหารและการถ่ายทอดคำสั่งเคลื่อนพลในสมัยโบราณ โดยมากจัดทำขึ้นจากสำริด ตราอาญาสิทธิ์นี้สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วน เมื่อต้องการเคลื่อนทัพก็จะมอบส่วนด้านซ้ายให้กับแม่ทัพที่นำทัพไป ส่วนด้านขวาจะเก็บรักษาไว้กับตัวเจ้าผู้ครองแคว้นนั้น เมื่อต้องการเคลื่อนย้ายกำลังพลเจ้าแคว้นก็จะมอบตราอาญาสิทธิ์ส่วนขวาให้กับผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ เมื่อผู้รับมอบอำนาจได้พบกับแม่ทัพที่คุมกำลังพล ต่างฝ่ายก็จะแสดงตราอาญาสิทธิ์ส่วนของตน จากนั้นนำมาประกบเข้าด้วยกันเพื่อเป็นหลักฐานในการถ่ายทอดคำสั่งจากเบื้องบน ผู้รับมอบอำนาจจึงจะสามารถเคลื่อนย้ายกำลังทหารได้

ปลายยุคจั๋นกั๋ว ในราว 257 ปีก่อนคริสตศักราช ทัพฉินบุกแคว้นเจ้า โอบล้อมเมืองหลวงหานตานเอาไว้ แคว้นเจ้าจึงขอความช่วยเหลือมายังแคว้นวุ่ยกับแคว้นฉู่ แคว้นวุ่ยจัดส่งจิ้นปี่นำทัพสิบหมื่นไปช่วยเหลือ แต่แคว้นฉินกดดันเจ้าแคว้นวุ่ยให้รั้งทัพเอาไว้ ซิ่นหลิงจวิน เสนาบดีแคว้นวุ่ยทราบว่าหากสิ้นแคว้นเจ้า แคว้นวุ่ยย่อมตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน จึงคิดแผนขโมยตราอาญาสิทธิ์ทางทหาร โดยร่วมมือกับหรูจีสนมคนโปรดของเจ้าแคว้นวุ่ย(พี่สาวของซิ่นหลิงจวิน) แอบนำตราอาญาสิทธิ์ส่วนของเจ้าแคว้นวุ่ยออกมาได้ จากนั้นถือตราอาญาสิทธิ์นี้อ้างคำสั่งเจ้าแคว้นวุ่ยสังหารจิ้นปี่ ชิงอำนาจในการนำทัพ ร่วมมือกับทัพฉู่โจมตีทัพฉิน ช่วยเหลือแคว้นเจ้าให้พ้นจากวิกฤตมาได้ เรื่องราวนี้ได้แสดงถึงระเบียบของกองทัพในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารที่เก่าแก่ที่สุดของจีน ได้แก่ตราอาญาสิทธิ์รูปเสือ (ตู้) เป็นของแคว้นฉินในสมัยจั้นกั๋ว (ราว 335–323 ปีก่อนคริสตศักราช) ทำจากโลหะสำริด มีความสูง 4.4 ซม. ยาว 9.5 ซม. บนร่างเสือมีอักษรถมทอง 40 ตัวอักษร มีใจความว่า “ตราอาญาสิทธิ์ทหาร ขวาอยู่กับเจ้า (แคว้น) ซ้ายอยู่กับตู้ (ตู้ เป็นชื่อสถานที่ในเขตแคว้นฉินโบราณ ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเมืองฉางอัน มณฑลส่านซี) ....” จากอักษรที่สลักบนตราอาญาสิทธิ์รูปเสือทำให้ทราบว่า ในสมัยนั้นหากมีการเคลื่อนย้ายกำลังพลตั้งแต่ 50 นายขึ้นไป จะต้องแสดงตราอาญาสิทธิ์เป็นสำคัญ แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน สามารถจุดไฟสัญญาณและเคลื่อนพลได้โดยไม่ต้องใช้ตราอาญาสิทธิ์ ปัจจุบันตราอาญาสิทธิ์นี้เก็บรักษาอยู่ในพิพิธภัณฑ์ส่านซี ทางภาคตะวันตกของจีน

นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติในปักกิ่งยังเก็บรักษาตราอาญาสิทธิ์รูปเสืออีกชิ้นหนึ่ง นั่นคือตราอาญาสิทธิ์หยางหลิง เป็นตราอาญาสิทธิ์ที่ฉินสื่อหวงหรือจิ๋นซีฮ่องเต้ได้มอบให้กับแม่ทัพที่ไปรักษาเมืองหยางหลิง ภายหลังการรวมแผ่นดินจีนเป็นผลสำเร็จ บนตราอาญาสิทธิ์จารึกอักษรทองคำมีใจความว่า “ตราอาญาสิทธิ์ทางทหาร ขวาอยู่กับหวงตี้ (ฮ่องเต้) ซ้ายอยู่กับหยางหลิง” เนื่องจากตราอาญาสิทธิ์มีความสำคัญในการเคลื่อนทัพจึงต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี อีกทั้งตราสัญลักษณ์ก็จัดทำให้มีขนาดเล็กเก็บซ่อนได้ง่าย

เมื่อถึงสมัยฮั่น ยังคงมีการใช้ตราอาญาสิทธิ์ทางทหาร (รูปเสือ) เช่นเดียวกับสมัยฉิน แต่มีข้อแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ในสมัยฉิน อักษรทองคำบนร่างเสือจะมีข้อความเหมือนกันทั้งซ้ายขวา แต่ในตราอาญาสิทธิ์สมัยฮั่น ต้องนำสัญลักษณ์ทั้งสองมาประกบเข้าคู่กันจึงสามารถอ่านใจความที่สมบูรณ์ได้ การใช้ตราอาญาสิทธิ์รูปเสือยังคงปรากฏจวบจนถึงยุคราชวงศ์เหนือใต้ ต่อเมื่อถึงราชวงศ์ถังได้เปลี่ยนจากตราอาญาสิทธิ์รูปเสือเป็นรูปปลา และเมื่อถึงสมัยซ่งและในยุคต่อมา ก็เปลี่ยนเป็นป้ายอาญาสิทธิ์ไปในที่สุด

ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารนี้ นอกจากจะเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกการจัดระเบียบกองทัพของจีนแต่โบราณแล้ว ยังเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับวิวัฒนาการของตัวอักษรจีน และวิทยาการงานหัตถศิลป์ของจีนในยุคต่อมา

เรียบเรียงจาก
www.poeple.com
www.csonline.com





กำลังโหลดความคิดเห็น