xs
xsm
sm
md
lg

หวงเซิ่งอีหันหลังให้ บ.โจวซิงฉือ ประกาศกร้าวไม่แสดง ‘คนเล็กฯ 2’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทอมเน็ต/ซิน่าเน็ต 09/08/05 - เป็นเรื่องราวลุกลามใหญ่โตซะแล้วสำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่าง ‘หวงเซิ่งอี’ นางเอกคนเล็กหมัดเทวดา (KungFu Hustle) กับ ซิงฮุย บริษัทภาพยนตร์ของโจวซิงฉือ โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเอเจนซี่ดังกล่าวไม่พอใจที่หวงเซิ่งอีรับงานถ่ายชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ให้กับนิตยสารฟอร์ฮิมโดยพลการ ทำลายภาพลักษณ์สาวน้อยใสซื่อที่ทางบริษัทพยายามสร้างให้ จึงออกมาต่อว่าผ่านสื่อ พร้อมระบุว่านี่ไม่ใช่การรับงานโดยพลการครั้งแรกของเธอ นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าทางบริษัทจะแช่แข็งเธอด้วย

หลังจากทราบข่าวดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 ส.ค. หวงเซิ่งอีก็จัดแถลงข่าวขึ้น โดยเจ้าตัวลั่นยอมเสียค่าชดเชยไม่ว่าเท่าไรก็ตามเพื่อยกเลิกสัญญาที่เซ็นไว้กับบริษัทเป็นเวลา 8 ปี และขอถอนตัวจากการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ‘คนเล็กหมัดเทวดาภาค 2’ ด้วย

หวงเซิ่งอีให้เหตุผลที่ไม่อาจแสดงในเรื่องนี้ได้อีกว่า “ฉันรู้สึกว่ารากฐานการร่วมมือของพวกเรามันสั่นคลอนไปแล้ว ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้อีก ความจริงฉันเลื่อมใสในความสามารถของโจวซิงฉือมาโดยตลอด และรู้ดีว่าไม่มีเขาก็ไม่มีฉัน เราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เรื่องจะให้เขามาช่วยนั้น ฉันเข้าใจว่าเขาก็เป็นดาราเหมือนกัน มีงานมากมายต้องทำ ไม่มีเวลามาสนใจกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้หรอก การยกเลิกสัญญาครั้งนี้ก็ไม่ได้คิดที่จะเป็นปรปักษ์กับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะออกหน้าจัดการปัญหานี้ให้ แต่ครั้งหน้าก็ยังคงเหมือนเดิมอยู่นั่นเอง เพราะปัญหาของซิงฮุยไม่ใช่แค่เถ้าแก่มาพูดคำสองคำแล้วจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ยกเว้นแต่จะเปลี่ยนพนักงานทั้งหมดของบริษัทเท่านั้นล่ะ” หวงเซิ่งอีกล่าวอย่างอัดอั้น

หลังจากหวงเซิ่งอีเซ็นสัญญาเข้าสังกัดของซิงฮุยแล้ว ปัจจุบันผ่านมาแค่ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งว่ากันจริงๆ หากจะต้องจ่ายเงินชดเชย ตัวเงินอาจจะสูงหลายสิบล้านหยวน อย่างไรก็ตามหวงเซิ่งอีได้ว่าจ้างทนายให้เป็นผู้จัดการเรื่องดังกล่าว ถ้าจะต้องชดเชยจริงๆ เธอก็คงยอม เพราะเจ้าตัวแสดงความจำนงไม่ต้องการอยู่กับซิงฮุยอีกต่อไปแล้ว

ด้านคุณพ่อของหวงเซิ่งอีให้สัมภาษณ์ว่า “ระหว่างบริษัทเอเจนซี่และศิลปินมีความขัดแย้งกันเป็นเรื่องธรรมดา เกิดปัญหาขึ้นแล้วสิ่งสำคัญคือจะแก้ไขอย่างไร แต่บริษัทซิงฮุยกลับนำเรื่องความขัดแย้งมาประกาศสู่สาธารณชน นึกว่าทำแบบนี้แล้วจะสามารถกดดันให้นักแสดงเชื่อฟังได้หรือ การทำเช่นนี้ยิ่งเป็นการทำลายชื่อเสียงของทั้งสองฝ่ายและเพิ่มความขัดแย้งระหว่างกันเข้าไปอีก

คุณพ่อของหวงเซิ่งอีเล่าว่า "ปัญหาระหว่างสองฝ่ายมีขึ้นตั้งนานแล้ว หลังจากโปรโมตเรื่อง ‘คนเล็กฯ ’ จบ อย่ามองว่าหวงเซิ่งอีมีข่าวตามสื่อต่างๆ มากมาย แต่ทุกครั้งที่ลูกสาวกลับมาบ้าน มักจะมีท่าทางไม่สบายใจ ตอนอยู่บ้านโทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่องของเซิ่งอีจะดังตลอดเลย จนผมต้องถามว่างานยุ่งขนาดนี้เลยเหรอ แต่ลูกสาวผมก็ได้แต่ถอนใจแล้วว่า 'บริษัทไม่สนใจหนู หนูก็ได้แต่ช่วยตัวเองแล้วล่ะ'"

ตามที่ทราบมา บริษัทซิงฮุยไม่มีสำนักงานตัวแทนอยู่ที่แผ่นดินใหญ่ งานส่วนใหญ่ที่รับให้ก็ล้วนเป็นงานในฮ่องกงทั้งนั้น แต่หวงเซิ่งอีอยากที่จะก้าวหน้าในจีนมากกว่า ดังนั้นงานส่วนใหญ่ทั้งละคร และกิจกรรมต่างๆ ในแผ่นดินใหญ่ก็เป็นงานที่เธอรับเองทั้งสิ้น โดยหวงเซิ่งอีเคยอธิบายว่า “พูดว่าฉันรับงานโดยพลการ ก็ในเมื่อพวกคุณไม่รับให้ฉัน แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ”

ซิงฮุยโต้ไม่เคยคิดแช่แข็งหวงเซิ่งอี

เว่ยต๋าเซิน ผู้รับผิดชอบฝ่ายดูแลศิลปินของซิงฮุยออกมาย้ำว่า บริษัทไม่เคยคิดที่จะแช่แข็งหวงเซิ่งอี โดยวานนี้ (8 ส.ค.) ทางซิงฮุยได้รับหนังสือจากทนายของหวงเซิ่งอีที่ส่งมาเพื่อขอยกเลิกสัญญา แต่ทางซิงฮุยได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีการยกเลิกสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น หากหวงเซิ่งอียังยืนกรานที่จะยกเลิกก็สู้กันต่อทางกฎหมาย

พร้อมกันนี้ยังออกมาปฏิเสธข่าวที่หวงเซิ่งอีให้ไว้ก่อนหน้านี้ ว่าบริษัทบังคับให้เธอเซ็นสัญญาแสดงในละครโทรทัศน์เรื่อง 'จอหงวนกังฟู' โดยขังเธอไว้ในห้องจนกว่าจะยอมเซ็นสัญญาดังกล่าว ซึ่งทางบริษัทก็โต้ว่า "ซิงฮุยไม่มีการบีบให้เธอเซ็นสัญญา และไม่ต้องการให้การแสดงกระทบการเรียนของเธอ" และในเช้าวันนี้ซิงฮุยจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง

ความขัดแย้งครั้งนี้ผลสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไป 



กำลังโหลดความคิดเห็น