xs
xsm
sm
md
lg

10 เส้นทางเดินเท้าหฤโหดในจีน ฝันไกลเกินเอื้อมของคุณหรือเปล่า ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักลุยบางท่านที่เบื่อหน่ายการท่องเที่ยวประเทศจีนตามโปรแกรมทัวร์ทั่วไป คราวนี้คงได้เฮ เพราะ 'เที่ยวกินถิ่นจีน' ขอนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวแปลกๆ ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นสไตล์ 'เดินทัศนาจร' ในแผ่นดินจีนกันบ้าง

การเดินทางท่องเที่ยวโดยไม่ใช้ยานพาหนะ หรือการเดินทัศนาจร (徒步旅游) เป็นแฟชั่นใหม่ในจีน ยิ่งหนุ่มสาวชาวจีนด้วยแล้วยิ่งนิยมสะพานเป้ไปเที่ยวกันเองแบบอิสระอย่างนี้เพิ่มมากขึ้นทุกที จุดสำคัญของการเดินทัศนาจรอยู่ที่การที่ต้องแบกสัมภาระทั้งหมดไว้บนบ่า ในขณะที่การเคลื่อนไหวของแขนขาเป็นไปอย่างอิสระ และเสน่ห์ของมันอยู่ที่การได้เดินออกจากโลกที่อึกทึกครึกโครมเข้าสู่ธรรมชาติด้วยกายใจที่สงบนิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นวิถีทางสร้างเสริมความกล้าหาญและการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของชีวิตอีกทางหนึ่งด้วย

รสชาติระหว่างการเดินทางโดยเท้าไปตามเส้นทางต่างๆ บ้างก็มาจากการย่ำไปบนเส้นทางเก่าที่นักเดินทางรุ่นพี่ได้บุกเบิกมาก่อนหน้า หรือมิเช่นนั้นก็เป็นการผจญภัยสำรวจเส้นทางใหม่ มีการเดินหน้าก็มีย้อนกลับหลังและหลงทาง ระหว่างทางอาจมีหมู่บ้านในพักเอาแรงและเติมพลัง ซึ่งการได้เจอหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากแสงสีในเมืองราวฟ้ากับดิน อีกทั้งได้พบเห็นชาวบ้านที่ยังมีวิถีชีวิตบริสุทธิ์เรียบง่าย คงไม่มีใครปฏิเสธว่านับเป็นประสบการณ์ที่เพลิดเพลินจนลืมความเหน็ดเหนื่อยไปได้เลย

สถานที่ที่เรานำมาเสนอนี้บางท่านอ่านแล้วอาจร้อง ยี้ ! ด้วยขัดใจว่าจะไปเที่ยวกันได้อย่างไรถึงเมืองจีน ลองดูเถอะค่ะ เผื่อว่ามีโอกาสในอนาคต ก็น่าจะลองเก็บไว้เป็นจุดหมายสำหรับการเที่ยวเมืองจีนในครั้งต่อไป หรือท่านใดไม่สามารถไปได้ด้วยเหตุผลใดก็แล้ว ก็ลองชื่นชมความงามจากภาพถ่ายเรียกน้ำย่อยเหล่านี้ไปก่อนนะคะ

คลิกไอคอนมัลติมีเดียมุมบนขวา เพื่อรับชมภาพชุด 10 เส้นทางเดินทางหฤโหด ในรูปแบบ โฟโต้ สไลด์

อันดับที่ 1 เส้นทางเดินเท้าในเขตม่อทัว หมู่บ้านสุดท้ายที่ถนนหลวงยังเข้าไม่ถึง

เส้นทางเดินเท้าเส้นแรกที่เราจะแนะนำก็คือ ม่อทัว (墨脱) ในเขตปกครองตนเองทิเบต (ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้) เป็นสถานที่ที่แม้แต่ชาวจีนเองก็ไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก เพราะตั้งอยู่ในตำบลที่ยังไม่มีถนนตัดผ่าน จึงกลายเป็นสวรรค์ของนักผจญภัยผู้พิสมัยการเดินทัศนาจรเป็นอย่างมาก

ม่อทัว มีความหมายในภาษาทิเบตว่า 'ดอกบัวที่ซ่อนเร้น' เป็นสถานที่ซึ่งมีทัศนียภาพและประเพณีพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หนทางเดินหฤโหดมากเนื่องจากต้องเผชิญกับความทารุณของระดับความสูง สภาพอากาศและการคมนาคมที่เลวร้าย โดยเฉพาะในฤดูหนาวซึ่งเส้นทางถูกปิดเพราะปกคลุมไปด้วยหิมะ จะเปิดระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมเท่านั้น ดังนั้น ที่นี่จึงกลายเป็นที่ดึงดูดนักเดินเท้าอาชีพจำนวนหนึ่งอย่างมาก

การเดินเท้าเข้าม่อทัว ก่อนอื่นต้องทำเรื่องขอใบอนุญาตที่เรียกว่า เปียนฝางเจิ้ง (边防证) ที่ที่ว่าการเขตหลินจือ (林芝的派乡) เริ่มออกเดินจากที่นี่ผ่านหมู่บ้านเล็กบนเขาสูงและทิวทัศน์ทะเลสาบที่งดงาม หากจะเดินเท้าให้ทั่วม่อทัวต้องใช้เวลาราว 9 วัน เป็นเส้นทางที่ท้าทายพละกำลัง ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ตลอดจนไหวพริบปฏิภาณของนักเดินทางอย่างมาก

ระดับความโหด :10

อันดับที่ 2 เดินเท้าขึ้นชมยอดเอเวอเรสต์ สัมผัสรสชาติบนแผ่นดินสูงสุดของโลก

คงไม่มีใครไม่รู้ถึงกิตติศัพท์ความยากลำบากในการขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์ (珠穆朗玛峰) ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัยอันยิ่งใหญ่ตามชายแดนประเทศจีนและเนปาล และมีนักไต่เขาเพียงไม่กี่คนที่สามารถพิชิตยอดเขาแห่งนี้ได้ แม้แต่คนที่จะเดินเท้าขึ้นไปเฉียดยอดเอเวอเรสต์ถึงบริเวณที่เรียกว่า เอเวอเรสต์ เบสแคมป์ก็หาตัวได้น้อยเช่นกัน กล่าวกันในหมู่ชาวจีนว่า จะหาคนที่จะเดินขึ้นไปเหยียบยอดเขาแห่งนี้ช่างยากเย็นราวกับการเสาะหาขนหงส์เขากิเลนเลยทีเดียว

การเดินเท้าไปเอเวอเรส เบสแคมป์ ในพื้นที่เขตปกครองตนเองทิเบต จุดที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวกันว่าสามารถชมยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สวยและใกล้ชิดกว่ามองจากฝั่งประเทศเนปาล โดยทั่วไปนักเดินเท้านิยมเลือกเส้นทางจากเมืองติ้งยื่อ (定日) และออกทางตำบลเหล่าติ้งยี่ (老定日) ใช้เวลาเดิน 2 วันบนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 5,200 เมตร ถึงเบสแคมป์ จุดที่นักไต่เขาจะเริ่มปีนขึ้นสู่ยอดเอเวอเรสต์ จากจุดนี้ท่านจะมองเห็นยอดเอเวอร์เรสได้จากมุมไกลๆ แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้เราซึมซับความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาแห่งนี้ได้

ระดับความโหด : 9

อันดับที่ 3 ก้าวย่างสู่ภูไตรผาริมฝั่งแยงซี คือบทกวีชิ้นเลิศแห่งสหัสวรรษ

การเดินทัศนาจรสู่ภูไตรผาแห่งแม่น้ำฉางเจียง (แยงซี) หรือซันเสีย โดยเฉพาะในปีนี้ทางการท่องเที่ยวจีนรณรงค์แผนท่องเที่ยวเส้นทางนี้อย่างคึกคัก เพราะนับเป็นการชมฉากสุดท้ายของภูเขาอันยิ่งใหญ่ท่ามกลางสายน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศจีน ก่อนที่ภาพความงดงามทั้งหมดจะจมลงสู่สายน้ำ....เนื่อง จากระดับน้ำจะสูงขึ้นตามโครงการสร้างเขื่อนยักษ์ซันเสียที่จะเสร็จสิ้นลงในปี ค.ศ.2009...

'ซันเสีย' (三峡) คือคำเรียกของหน้าผาใหญ่สามลูกทางตอนบนของแม่น้ำแยงซี ช่วงตั้งแต่เมืองไป๋ตี้เฉิงในเขตนครฉงชิ่ง จนมาถึงหนันจินกวนในเมืองอี๋ชางเขตมณฑลหูเป่ย รวมความยาว 192 กิโลเมตร ได้แก่ ผาจี้ว์ถังเสีย(瞿塘峡) ผาอูเสีย (巫峡) ผาซีหลิงเสีย(西陵峡) (เรียงจากทิศตะวันออกไปตะวันตก)

การเดินทัศนาจรสู่เขตทิวทัศน์ภูไตรผาในเขตรอยต่อนครฉงชิ่ง (ทางตะวันออกเฉียงเหนือ) กับมณฑลหูเป่ย (ทิศตะวันตก) นี้ ยังไม่มีเส้นทางที่แน่นอน อยู่ที่นักเดินเท้าแต่ละคนจะวางแผนหรือเลือกเส้นทางกันเอง โดยมีจุดสำคัญได้แก่ เมืองไป๋ตี้เฉิงไปชมผาจี้ว์ถังเสีย มุ่งสู่อำเภออูซันในฉงชิ่ง เพื่อข้ามเข้าเขตอำเภอปาตงในหูเป่ยชมผาอูเสีย และต่อไปยังเมืองอี๋ชาง(宜昌市) เพื่อไปชมผาซีหลิงเสีย นอกจากธรรมชาติแล้วเส้นทางนี้ยังมีวัดวาอารามและแหล่งศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจให้ชมระหว่างทางด้วย ถึงแม้เส้นทางดังกล่าวจะไม่เจอกับอุปสรรคเรื่องระดับความสูง ทว่าผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเส้นทางสู่ซันเสียเต็มไปด้วยอันตรายที่นักผจญภัยต้องเตรียมพร้อมให้ดีก่อนเดินทาง คลิกชม 'คู่มือเดินเท้าสู่ซันเสีย' (ภาษาจีน)

ระดับความโหด : 8

อันดับที่ 4 สู่เส้นทางจาริกแสวงบุญบนยอดเขาเซียน 'กั่งเหรินปอฉี'

มีชาวทิเบตและชาวพุทธไม่น้อยที่ใช้พลังศรัทธาพิชิตภูเขากั่งเหรินปอฉี (岗仁波齐) ที่ตั้งอยู่ในเขตอาหลี (阿里地区) ทางทิศตะวันตกในเขตปกครองตนเองทิเบตมาแล้ว เขาดังกล่าวได้รับการขนานนามว่า ภูเขาเซียน เป็นถิ่นที่พุทธศาสนิกชนชาวทิเบตนิยมเดินทางไปแสวงบุญกันมากที่สุด เชื่อกันว่า ในปีม้า (ปีมะเมีย) ใครได้ไปแสวงบุญบนเขาแห่งนี้ ถือเป็นสิริมงคลยิ่งยวดเป็นทวีคูณ

เส้นทางจาริกแสวงบุญสู่เขากั่งเหรินปอฉี เริ่มจากต้าจิน (大金) ระหว่างทางผ่านวัดเก่าแก่ของทิเบตหลายแห่ง เดินทางเป็นวงกลมอ้อมเขาใช้เวลา 3 วัน ความยากลำบากของการขึ้นเขานี้อยู่ที่สภาพอากาศอันทารุณบนระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 5,000 เมตร

ระดับความโหด : 7





อันดับที่ 5 ป้ายสุดท้ายของดินแดนเชียงการีล่า - ย่าหนิงในเต้าเฉิง

อำเภอเต้าเฉิง (稻城 ) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกในซื่อชวน (เสฉวน) มณฑลที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งธรรมชาติอันงดงาม เคยได้รับการกล่าวขานว่าเป็นจุดสิ้นสุดของดินแดนที่เรียกว่า เชียงการีล่า (香格里拉) แม้ว่าข้อขัดแย้งเรื่องการกำหนดเขตเชียงการีล่าได้ยุติลง เมื่อมีการยกจงเตี้ยน (ในมณฑลหยุนหนัน) ให้เป็นอำเภอเชียงการีล่า แต่ความงดงามทางธรรมชาติของดินแดนเต้าเฉิงไม่เคยลดเลือนไปจากสายตาของผู้มาเยือน โดยเฉพาะย่าหนิง (亚丁) ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่ทอดตัวอย่างสงบงามอยู่ทางทิศตะวันออกของที่ราบสูงทิเบต-ชิงไห่ ท่านสามารถเดินทางออกจากอำเภอเต้าเฉิง มุ่งหน้าลงใต้ผ่านเซ่อลา (色拉) เข้าสู่ย่าหนิง โดยใช้เวลาเดินเท้า 3 วัน

ระดับความโหด : 6.5

อันดับที่ 6 พลิก ‘เทือกเขาแอลป์แห่งแผ่นดินจีน’ เดินทัศนาจรจากเขาสี่ดรุณีสู่ปี้เผิงโกว

ปัจจุบันนักเดินทัศนาจรชาวจีนต่างให้ความสนใจกับเส้นทางเดินเท้าในมณฑลซื่อชวนที่มุ่งสู่เมืองเต้าเฉิงและเขาสี่ดรุณีสองเส้นนี้มาก เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้ ! เขาสี่ดรุณี หรือซื่อกูเหนียงซัน (四姑娘山) อยู่ห่างจากตัวเมืองเฉิงตูไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 286 กิโลเมตร (สามารถนั่งรถยนต์ใช้เวลา 6 ชม.) มีทัศนียภาพอันน่าหลงใหลคล้ายธรรมชาติในแถบยุโรปใต้ จนได้รับฉายาว่า "เทือกเขาแอลป์ในแผ่นดินจีน"

การเดินเท้าจากเทือกเขาสี่ดรุณีสู่เขาปี้เผิงโกว (毕棚沟) ไม่ยากลำบากนัก เริ่มต้นจากยื่อหลง (日隆) ในเขตทิวทัศน์เขาสี่ดรุณี ผ่านฉางผิงชุนโข่ว(长坪村口) ชาจื่อโกวโข่ว(叉子沟口) ย่าโข่ว (垭口) และสิ้นสุดที่เขาปี้เผิงโกว (毕棚沟 อยู่ห่างจากเฉิงตู 221 กิโลเมตร) ใช้เวลาราว 3-4 วัน เส้นทางนี้เป็นเส้นทางแนะนำที่นักเดินทัศนาจรหลายคนชื่นชอบมากๆ (สถานที่บางแห่งเก็บค่าเข้าชม ราคาบัตรเข้าอุทยานปี้เผิงโกว 30 หยวน)

ระดับความโหด : 6

อันดับที่ 7 เดินรอบกำแพงเมืองจีน การเดินที่มีความหมายใหญ่หลวง

ไม่ต้องสาธยายใครๆ ก็รู้จักกำแพงเมืองจีน สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองทางประวัติศาสตร์อารยธรรมของประเทศจีนดี และการได้ไปเยือนกำแพงเมืองจีนก็ถือเป็นความทรงจำที่มีคุณค่าของลูกหลานจีนทุกคน ในความคิดของคนทั่วไปแล้ว การเดินขึ้นกำแพงเมืองจีนโดยสามารถเดินรอบกำแพงทั้งหมดทุกด่านได้นั้นยิ่งถือเป็นความท้าทายอย่างใหญ่หลวง ทว่าคนส่วนใหญ่เดินทางสู่กำแพงเมืองจีนโดยเลือกขึ้นบางด่านบางช่วงเท่านั้น ซึ่งโดยมากมักเป็นจุดที่อยู่ใกล้กรุงปักกิ่ง

เนื่องจากความยาวของกำแพงที่ยากจะมีผู้พิชิตได้ การเดินรอบกำแพงเมืองจีนนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ด่านซันไห่กวน (山海关) ริมทะเลทางตะวันออกของประเทศ (เขตมณฑลเหอเป่ย) จนมาถึงด่านเจียอี้ว์กวน (嘉峪关) ในเขตทะเลทรายทางตะวันตก (ในเขตมณฑลกันซู่) ที่มีความยาวโดยรวมแล้วถึง 6,700 กิโลเมตร จึงนับเป็นการเดินทัศนาจรที่เต็มไปด้วยบททดสอบและความหมายอันยิ่งใหญ่ ที่รอคอยผู้กล้ามาพิสูจน์ความทรหด

ระดับความโหด : 5.5

อันดับที่ 8 เดินหน้าสู่คาน่าซือ ชมความงามของวันคืนแห่งฤดูใบไม้ร่วง

ทุกคนที่เดินทางกลับจากคาน่าซือ (หรือ ฮาน่าซือ) ในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง (ซินเกียง) มักจะพร่ำเพ้อถึงทิวทัศน์อันงามสะพรั่งในฤดูใบไม้ร่วงอยู่ไม่ขาดปาก ซึ่งสิ่งที่ประทับตาตรึงใจพวกเขาก็คือ สีส้มและสีเหลืองทองของใบไม้ที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของป่าเขาในฮาน่าซือ กับสีฟ้าใสบริสุทธิ์ของทะเลสาบฮาน่าซือนั่นเอง นอกจากนี้ ความลึกลับน่าพิศวงของหมู่บ้านชนเผ่าถูหว่าเหริน (图瓦人) ชนพื้นเมืองในท้องถิ่นที่เรียกตนเองว่าชนชาติมองโกล ยังเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลมาค้นหาความทรงจำดีๆ ที่ฮาน่าซือนี้ ซึ่งทั้งหมดคือที่มาของชื่อ 'ฮาน่าซือ' ที่มีความหมายตามภาษามองโกลว่า ความงามและความลี้ลับ

ฮาน่าซือ เดิมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีป่าพืชพันธุ์โบราณ โดยเฉพาะหมู่บ้านที่คงความบริสุทธิ์ราวกับดินแดนบนสรวงสวรรค์ แต่ปัจจุบัน ที่นี่ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเป็นจำนวนมากอย่างไม่หยุดหย่อน จนทำให้เสน่ห์ของฮาน่าซือถูกเหยียบย่ำเสียหายไปอย่างน่าเสียดาย ฉะนั้นหากนักเดินทางท่านใดสนใจเดินทางเข้าไปชมความงามที่นี่ โปรดเดินทางอย่างมีสติ พร้อมกับปฏิบัติตามกฎการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างเคร่งครัด

เส้นทางที่นักเดินเท้าส่วนใหญ่ใช้มักเริ่มต้นจากเกาะต้าหงอี๋ว์ (大红渔岛) ในทะเลสาบฮาน่าซือ เมืองอาเล่อไท่ (阿勒泰市) ทางตอนเหนือของซินเจียง ผ่านเฮยหู (黑湖) หรือทะเลสาบสีดำ หมู่บ้านเหอมู่ชุน (禾木村) และมาสิ้นสุดจุดหมายปลายทางที่หุบเขาเจี่ยเติงอี้ว์ (贾登峪) เส้นทางนี้ค่อนข้างไกลใช้เวลาเดินอย่างต่ำ 3 วัน

ระดับความโหด : 5

อันดับที่ 9 เดินตามสมัยนิยม เดินประจันหน้าผาหู่เที่ยวเสีย

หน้าผาหู่เที่ยวเสีย (虎跳峡) จัดอยู่ในทิวทัศน์ที่นักท่องเที่ยวผู้เดินทางไปเยือนเมืองเก่าลี่เจียง (丽江) หนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรมในมณฑลหยุนหนัน (ยูนนาน) จะต้องแวะไปชม สามารถใช้เวลาเดินเท้าเพียง 2 วัน สำหรับเดินเข้าและออกบริเวณทิวทัศน์ธรรมชาติของหน้าผาหูเที่ยวเสีย ความจริงหนทางเดินเท้าสู่ผานี้ไม่ยากลำบากเลย แต่ความเชี่ยวกรากของสายน้ำจินซาเจียงเบื้องล่างเขาเป็นภาพระทึกใจที่อาจสร้างความน่าหวาดหวั่นให้กับนักเดินทางได้

ผาหู่เที่ยวเสียตั้งอยู่ในเขตทิวทัศน์ธรรมชาติใกล้เมืองลี่เจียง ท่านสามารถเดินทางไปลี่เจียงซึ่งมีเส้นทางต่อไปยังหน้าผานี้ได้สะดวก (อ่านรายละเอียดที่ เมืองเก่าลี่เจียง)

ระดับความโหด : 4

อันดับที่ 10 ดื่มด่ำหลีเจียง ชื่นชมความงามเลิศในปฐพีแห่งกุ้ยหลิน

กุ้ยหลิน ทิวทัศน์เขาสวยน้ำงามทางตอนเหนือในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง กว่างซี (กวางสี) ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันดับต้นๆ ที่ชาวจีนและชาวต่างชาติต่างใฝ่ฝันจะได้ไปสัมผัสซักครั้งหนึ่งในชีวิต เนื่องจากภาพความงดงามของทิวเขาบนสายน้ำหลีเจียง (漓江) ที่ได้รับการยกย่องเป็นเสมือนภาพวาดพู่กันจีนที่เป็นเอกในปฐพี ทว่าหลายท่านที่เคยไปเที่ยวกุ้ยหลินล้วนใช้บริการของบริษัททัวร์ท่องเที่ยว ซึ่งถึงแม้กลับบ้านไปแล้วก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ 'เข้าถึง' กุ้ยหลินอยู่ดี

เส้นทางท่องเที่ยวที่จะแนะนำนี้เป็นเส้นทางชื่นชมแม่น้ำหลีเจียงโดยทางเท้า ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเริ่มต้นจากท่าเรือหยังตี(杨堤码头) บนแม่น้ำหลีเจียง มีเส้นทางเดินเท้าลงใต้มาที่ซิงผิง (兴坪) รวมระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร สามารถใช้เวลาเพียง 1 วันก็สามารถดื่มด่ำกับความงามของทิวทัศน์หลีเจียงได้อย่างใกล้ชิด และเข้าถึงความเป็นอยู่ของชาวบ้านเมืองหยางซั่ว (阳朔) ได้อย่างเต็มอิ่ม

ระดับความโหด : 3

เป็นไงคะเส้นทางเดินทัศนาจรที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เห็นอย่างนี้แล้วพอจะมีเส้นทางไหนที่ท่านจะเลือกไปเดินสานฝันให้เป็นจริงได้บ้าง....

เรียบเรียงจาก จงกั๋วจิงจี้เน็ต





กำลังโหลดความคิดเห็น