ชีวิตคนเมืองจีน / ภาพความน่าสะพรึงกลัวของปลาฉลามขาวตัวใหญ่ยักษ์จากหนังเรื่อง Jaws คงเป็นอดีตไปแล้ว เพราะตอนนี้เจ้า ‘เพชฌฆาตแห่งท้องทะเล’ ที่เพิ่งพุ่งขึ้นมาสร้างความหวาดหวั่นริมชายฝั่งสหรัฐฯ ไปเมื่อไม่นานมานี้ได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักตัวใหม่ของหนุ่มแดนมังกรนายหนึ่ง ที่ควักเงินราวครึ่งแสนบาทซื้อปลาฉลาม 1 คู่มาเลี้ยงไว้ดูเล่น โดยมีค่าใช้จ่ายจิปาถะเดือนละราว 10,000 บาท และเสียค่าเปลี่ยนน้ำทะเลใหม่อีกครั้งละ 10,000 บาท
(หมายเหตุ : 1 หยวน ≈ 5.10 บาท)
ค่าเลี้ยงดูปลาฉลามเดือนละ 2,000 หยวน
ณ ห้องทำงานของนายหู ชาวเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลิน มีตู้โชว์ที่เลี้ยงปลาคล้ายห้องทำงานของชายจีนทั่วไป จะพิเศษก็ตรงที่ปลาในตู้ไม่ใช่ปลาสวยงามธรรมดา แต่เป็นปลาฉลามพันธุ์ Lemon Shark กำลังแหวกว่ายไปมาอย่างเพลิดเพลินอยู่ในตู้ขนาด 80 เซนติเมตร x 2 เมตร x 1 เมตร
คุณหูซื้อปลาฉลามคู่นี้มาในราคาตัวละ 5,000 หยวน โดยซื้อมาพร้อมกับตู้ รวมแล้วจ่ายไปทั้งหมด 15,000 หยวน
“ปลาฉลาม 2 ตัวนี้ผมเล็งไว้นานแล้ว ตกลงกับเถ้าแก่ร้านขายปลาว่าถ้าทางร้านเลี้ยงไป 4-5 เดือนแล้วยังไม่ตายผมก็จะซื้อมาเลี้ยงต่อ…แล้วสังเกตหรือไม่ว่าปลาคู่นี้จะเชิดหน้าขึ้นตลอด ซึ่งถือเป็นบุคลิกพิเศษของมันที่ถูกใจผมมาก”
นายหูยังได้แจกแจงค่าใช้จ่ายสำหรับปลาฉลามแสนรักคู่นี้ให้ฟังว่า แต่ละวันมันจะกินปลาทองตัวเป็นๆ 10 ตัว ราคาประมาณตัวละ 3 หยวน เดือนหนึ่งเฉพาะค่าอาหารก็ตก 900 หยวน ยังมีค่าไฟสำหรับเครื่องปั๊มน้ำและทำออกซิเจนตลอด 24 ชั่วโมง รวมเบ็ดเสร็จแล้วแต่ละเดือนต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 2,000 หยวนในการเลี้ยงเจ้าปลาฉลามสองตัวนี้
‘ปลาทอง’ เมนูสุดโปรดของปลาฉลาม
ในช่วงเช้าคุณหูจะเป็นคนให้อาหารปลาเองทุกวัน “ปลาฉลามคู่นี้กินแต่ปลาทองตัวเป็นๆ ผมจะจับหางปลาทองไว้ แล้วมันจะมางับแล้วกลืนเลยในคำเดียว ผมกลัวว่าถ้าวันไหนเกิดมีใครยื่นมือลงไปในน้ำจะโดนมันกัดเอา ก็เลยแปะป้ายเตือนว่า “กรุณาอย่าลูบปลา ระวังโดนกัด” ไว้ข้างตู้ ”
“ผมไม่กล้าให้มันกินอิ่มมาก เพราะกลัวมันจะโตเร็วเกินไป ซึ่งพอมันโตเต็มที่แล้วอาจจะมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 2 เมตร ถึงตอนนั้นผมก็ต้องเปลี่ยนตู้ปลาอีก คุณอย่าคิดว่าแค่มีเงินก็เลี้ยงปลาฉลามได้นะ ต้องคิดวางแผนเตรียมการให้รอบคอบ ถ้าตู้ปลาเล็กเกินไปมันก็จะว่ายได้ไม่สะดวก” คุณหูเล่าให้ฟังอย่างผู้เชี่ยวชาญ
เปลี่ยนน้ำทะเลที่จ่าย 2,000 หยวน
เพื่อเลี้ยงปลาคู่นี้ให้อยู่รอดปลอดภัย นายหูลงทุนไปไม่น้อย แค่ตู้ปลาที่ใช้ตอนนี้ก็มีราคา 7,000 กว่าหยวนแล้ว ค่าน้ำทะเลปริมาณ 2 ตันที่ใช้ใส่ในตู้อีก 2,000 หยวน ยังมีค่าอุปกรณ์ท่อน้ำและสายออกซิเจนอื่นๆ อีก ที่สำคัญต้องคอยประคบประหงมเลี้ยงดู
คุณหูอธิบายธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงแสนรักเพิ่มเติมว่า “ปลาฉลาม Lemon Shark นี้เป็นปลาทะเลที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก และถ้าขาดออกซิเจนมันจะตายภายใน 1 ชั่วโมง”
“นอกจากนั้น ถ้าคุณภาพของน้ำทะเลแย่ลง มันก็จะป่วย ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนน้ำอย่างน้อยปีละครั้ง ซึ่งน้ำทะเลที่ใช้อยู่ตอนนี้ใส่เกลือคุณภาพดีผสมลงไปด้วย โดยเกลือราคาถุงละ 100 หยวน ผสมได้น้ำทะเล 100 กิโลกรัม คิดแล้วถ้าจะใช้น้ำทะเล 1 ตันก็ต้องเสียเงินประมาณ 1,000 หยวน”
ส่วนใครที่สงสัยว่าแล้วความจริงปลาฉลามเป็นสัตว์ที่นำมาเลี้ยงได้หรือไม่ในประเทศจีน? ทางสมาคมอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติจีนชี้แจ้งว่า “ปลาฉลามไม่จัดเป็นสัตว์สงวน จึงเลี้ยงได้ไม่ผิดกฎหมาย !”
แต่ถ้าคนส่วนใหญ่คิดเช่นนี้ อีกหน่อยคงมีใครอุตริไปหาสัตว์ที่ไม่ควรแก่การเลี้ยงไว้ดูเล่นมาครอบครองกันมากขึ้น ถึงตรงนั้นเลี้ยงแล้วจะเชื่องและเชื่อฟังหรือไม่ ผู้เลี้ยงก็คงต้องเสี่ยงชีวิตเอาเองแล้วหล่ะ!?!
เรียบเรียงจาก http://www.creaders.net
(หมายเหตุ : 1 หยวน ≈ 5.10 บาท)
ค่าเลี้ยงดูปลาฉลามเดือนละ 2,000 หยวน
ณ ห้องทำงานของนายหู ชาวเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลิน มีตู้โชว์ที่เลี้ยงปลาคล้ายห้องทำงานของชายจีนทั่วไป จะพิเศษก็ตรงที่ปลาในตู้ไม่ใช่ปลาสวยงามธรรมดา แต่เป็นปลาฉลามพันธุ์ Lemon Shark กำลังแหวกว่ายไปมาอย่างเพลิดเพลินอยู่ในตู้ขนาด 80 เซนติเมตร x 2 เมตร x 1 เมตร
คุณหูซื้อปลาฉลามคู่นี้มาในราคาตัวละ 5,000 หยวน โดยซื้อมาพร้อมกับตู้ รวมแล้วจ่ายไปทั้งหมด 15,000 หยวน
“ปลาฉลาม 2 ตัวนี้ผมเล็งไว้นานแล้ว ตกลงกับเถ้าแก่ร้านขายปลาว่าถ้าทางร้านเลี้ยงไป 4-5 เดือนแล้วยังไม่ตายผมก็จะซื้อมาเลี้ยงต่อ…แล้วสังเกตหรือไม่ว่าปลาคู่นี้จะเชิดหน้าขึ้นตลอด ซึ่งถือเป็นบุคลิกพิเศษของมันที่ถูกใจผมมาก”
นายหูยังได้แจกแจงค่าใช้จ่ายสำหรับปลาฉลามแสนรักคู่นี้ให้ฟังว่า แต่ละวันมันจะกินปลาทองตัวเป็นๆ 10 ตัว ราคาประมาณตัวละ 3 หยวน เดือนหนึ่งเฉพาะค่าอาหารก็ตก 900 หยวน ยังมีค่าไฟสำหรับเครื่องปั๊มน้ำและทำออกซิเจนตลอด 24 ชั่วโมง รวมเบ็ดเสร็จแล้วแต่ละเดือนต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 2,000 หยวนในการเลี้ยงเจ้าปลาฉลามสองตัวนี้
‘ปลาทอง’ เมนูสุดโปรดของปลาฉลาม
ในช่วงเช้าคุณหูจะเป็นคนให้อาหารปลาเองทุกวัน “ปลาฉลามคู่นี้กินแต่ปลาทองตัวเป็นๆ ผมจะจับหางปลาทองไว้ แล้วมันจะมางับแล้วกลืนเลยในคำเดียว ผมกลัวว่าถ้าวันไหนเกิดมีใครยื่นมือลงไปในน้ำจะโดนมันกัดเอา ก็เลยแปะป้ายเตือนว่า “กรุณาอย่าลูบปลา ระวังโดนกัด” ไว้ข้างตู้ ”
“ผมไม่กล้าให้มันกินอิ่มมาก เพราะกลัวมันจะโตเร็วเกินไป ซึ่งพอมันโตเต็มที่แล้วอาจจะมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 2 เมตร ถึงตอนนั้นผมก็ต้องเปลี่ยนตู้ปลาอีก คุณอย่าคิดว่าแค่มีเงินก็เลี้ยงปลาฉลามได้นะ ต้องคิดวางแผนเตรียมการให้รอบคอบ ถ้าตู้ปลาเล็กเกินไปมันก็จะว่ายได้ไม่สะดวก” คุณหูเล่าให้ฟังอย่างผู้เชี่ยวชาญ
เปลี่ยนน้ำทะเลที่จ่าย 2,000 หยวน
เพื่อเลี้ยงปลาคู่นี้ให้อยู่รอดปลอดภัย นายหูลงทุนไปไม่น้อย แค่ตู้ปลาที่ใช้ตอนนี้ก็มีราคา 7,000 กว่าหยวนแล้ว ค่าน้ำทะเลปริมาณ 2 ตันที่ใช้ใส่ในตู้อีก 2,000 หยวน ยังมีค่าอุปกรณ์ท่อน้ำและสายออกซิเจนอื่นๆ อีก ที่สำคัญต้องคอยประคบประหงมเลี้ยงดู
คุณหูอธิบายธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงแสนรักเพิ่มเติมว่า “ปลาฉลาม Lemon Shark นี้เป็นปลาทะเลที่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก และถ้าขาดออกซิเจนมันจะตายภายใน 1 ชั่วโมง”
“นอกจากนั้น ถ้าคุณภาพของน้ำทะเลแย่ลง มันก็จะป่วย ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนน้ำอย่างน้อยปีละครั้ง ซึ่งน้ำทะเลที่ใช้อยู่ตอนนี้ใส่เกลือคุณภาพดีผสมลงไปด้วย โดยเกลือราคาถุงละ 100 หยวน ผสมได้น้ำทะเล 100 กิโลกรัม คิดแล้วถ้าจะใช้น้ำทะเล 1 ตันก็ต้องเสียเงินประมาณ 1,000 หยวน”
ส่วนใครที่สงสัยว่าแล้วความจริงปลาฉลามเป็นสัตว์ที่นำมาเลี้ยงได้หรือไม่ในประเทศจีน? ทางสมาคมอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติจีนชี้แจ้งว่า “ปลาฉลามไม่จัดเป็นสัตว์สงวน จึงเลี้ยงได้ไม่ผิดกฎหมาย !”
แต่ถ้าคนส่วนใหญ่คิดเช่นนี้ อีกหน่อยคงมีใครอุตริไปหาสัตว์ที่ไม่ควรแก่การเลี้ยงไว้ดูเล่นมาครอบครองกันมากขึ้น ถึงตรงนั้นเลี้ยงแล้วจะเชื่องและเชื่อฟังหรือไม่ ผู้เลี้ยงก็คงต้องเสี่ยงชีวิตเอาเองแล้วหล่ะ!?!
เรียบเรียงจาก http://www.creaders.net
