ในขณะที่นักสิ่งแวดล้อมตะวันตกยังกุมขมับเพื่อค้นหาคำตอบว่าจะใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร จะมีวิถีชีวิตอย่างไรถึงจะกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่ชาวจีนมีคำตอบเหล่านั้นมานานหลายพันแล้ว นั่นคือการใช้ชีวิตในถ้ำ
ขณะที่การอยู่ในถ้ำทำให้นึกถึงภาพของคนยุคก่อนประวัติศาสตร์ แต่สำหรับชาวจีนนับล้านตามพื้นที่ส่วนต่างของประเทศอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นมันเป็นเพียงวิถีชีวิตดั้งเดิมอันปกติธรรมดาของพวกเขา
นอกจากนั้น ทุกวันนี้ ที่อยู่อาศัยของพวกเขายังมีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ทั้ง หม้อหุงขาว และตู้เย็น หรือแม้เคเบิลทีวีใยแก้วนำแสง
"เหยาต้ง" หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่าเป็นบ้านถ้ำ ส่วนใหญ่จะพบตามที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ทางเหนือของจีน แม้ดินเหลืองของภูเขาจะไม่ง่ายต่อการขุดเป็นโพรงเพื่อเข้าไปอาศัย แต่ดินแบบนี้ก็เกาะกันแน่นมั่นคงได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ก่อสร้างใดเพิ่มเติม
ประเมินกันว่ามีชาวจีนราว 40 ล้านคนยังคงอาศัยกันอยู่ตามถ้ำรวมทั้งแหล่งอาศัยใต้ดินต่างๆ ทั่วพื้นที่ทางเหนืออันเต็มไปด้วยเทือกเขาและความแห้งแล้งของแผ่นดินมังกร
สำหรับพวกเขา ไม่มีอะไรที่จะดูธรรมดาสามัญและเป็นธรรมชาติมากกว่าการใช้ชีวิตตามหลุมโพรง บ้านของพวกเขา สร้างกันง่ายและราคาถูก อบอุ่นในยามหนาวและเย็นสบายในหน้าร้อน เป็นเกราะคุ้มกันพวกเขาจากจากสายลมที่เกรี้ยวกราดและอากาศอันโหดร้ายภายนอก
ในยุคที่ใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ คนจีนก็พึงพอใจของใช้ทุกอย่างที่ทันสมัย ตั้งแต่รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ และกล้องดิจิตอล อย่างไรก็ตาม วิถีชีวิตในถ้ำก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านในมณฑลส่านซีตั้งมั่นว่าจะไม่ละทิ้งมันไปสู่ถนนแห่งความเจริญและความทันสมัย
ผู้คนส่วนใหญ่ในดินแดนอันเป็นอดีตฐานทัพของกองทัพปฏิวัติแห่งหยุนหนัน(ยูนนาน) แห่งนี้ ล้วนแต่เคยอาศัยอยู่ในถ้ำในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตแล้วทั้งนั้น แม้ว่าสำหรับบางคน ที่ตอนนี้อยู่กันตามแฟลต พวกเขาบอกว่ายังคงคิดถึงการใช้ชีวิตในถ้ำ
จาง เสี่ยวชุน คนงานก่อสร้าง อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งกับภรรยา บนเนินเขาไม่ห่างจากฐานทัพของกองโจรคอมมิวนิสต์ยุคทศวรรษ 1930 บ้านถ้ำของพวกเขาสร้างขึ้นง่ายๆ โดยการเจาะเข้าไปบนผนังเขาและมีอิฐก่อขึ้นตรงทางเข้าด้านหน้า แต่บ้านถ้ำแบบง่ายๆ นี้ก็เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าและเคเบิลทีวี
บนเนื้อที่ 70 ตารางเมตรภายใต้เพดานดิน เสี่ยวชุนและภรรยาได้หลับ ได้นอนดูโทรทัศน์ หุงหาอาหารและทานอาหารเย็นร่วมกันกับลูกๆ ซึ่งโตแล้วและย้ายออกไปอยู่ในถ้ำอีกแห่ง บนเนินเขาใกล้ๆ
"ข้อดีของการอยู่ในถ้ำคือเย็นสบายในหน้าร้อน แต่อบอุ่นในหน้าหนาว" จางกล่าว "ไม่จำเป็นต้องมีพัดลมหรือแอร์ในหน้าร้อน แม้ว่ามันจะเปียกชื้นไปบ้างหลังจากที่ฝนตกก็ตาม" จางกล่าวและยังบอกด้วยว่าข้อดีจริงๆ อีกอย่างหนึ่งของการอยู่ถ้ำคือค่าเช่าค่อนข้างถูก
เมื่อมีงาน จางจะมีรายได้ 500 หยวนต่อเดือน (2,500 บาท) เขาจ่ายค่าเช่าเดือนละ 110 หยวน(550 บาท) ซึ่งยังต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของค่าเช่าแฟลตกลางมณฑลหยุนหนัน นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในถ้ำยังถูกกว่าเพราะไม่ต้องใช้แอร์หรือเครื่องทำความร้อน
แม้ว่าภูมิอากาศในมณฑลส่านซีอาจจะต่ำกว่าลบ 20 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว แต่ดินจะช่วยรักษาอุณหภูมิในถ้ำให้อบอุ่น นอกจากนี้ ภายในถ้ำที่พวกเขาอาศัยอยู่ จะมีเตียงหินขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "ค่าง" เตียงแบบนี้มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านล่างนั้นมีรูต่อทะลุกับปล่องไฟภายในถ้ำ และเมื่อมีการก่อไฟทำอาหารความร้อนจากเตาก็จะทำให้แท่นหินนี้มีอุณหภูมิสูงขึ้น วิธีนี้จะช่วยเพิ่มอุณหภูมิภายในถ้ำอีกทางหนึ่ง ทำให้อุณหภูมิภายในถ้ำคงที่อยู่ประมาณ 10 องศาเซลเซียสด้วย
การอยู่ในถ้ำบางทีอาจจะเป็นหนทางที่ไม่อาจเลือกได้สำหรับใครบางคนในยุคนี้ แต่สำหรับชาวจีนอีกหลายคน การใช้ชีวิตเป็นชาวถ้ำยังเป็นเรื่องของความผูกพันทางด้านจิตใจ พวกเขาบอกว่ารู้สึก "ใช่" เมื่ออยู่ในถ้ำมากกว่าการอยู่แฟลตทั่วไปๆ