หร่วนหลิงอี้ว์ 阮玲玉 ( 26 เม.ย.1910 - 8 มี.ค.1935) ดาราสาวผู้โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในยุคภาพยนตร์เงียบช่วงทศวรรษที่ 30 มีชื่อเดิมว่า หร่วนเฟิงตัน เกิดที่เมืองเซี่ยงไฮ้ แต่พื้นเพของครอบครัวเป็นชาวเมืองจงซัน มณฑลกว่างตง เนื่องจากบิดาเสียชีวิตลงตั้งแต่ยังเด็ก จึงต้องติดตามมารดามาเป็นคนรับใช้ในตระกูลผู้ดีแห่งหนึ่ง ซึ่งก็มีชีวิตที่ต้องกระเบียดกระเสียรพอสมควร ทั้งยังต้องตกเป็นภรรยาของลูกชายเจ้าของบ้านโดยไม่ได้แต่งงาน
แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านการแสดง ที่มีมาตั้งแต่ยังเด็ก จึงทำให้ในปี 1926 เมื่ออายุได้เพียง 16 ปี หร่วนตัดสินใจเข้าทดสอบหน้ากล้องของภาพยนตร์เรื่อง ‘กว้าหมิงเตอะฟูชี’ 《挂名的夫妻》 ของบริษัทผลิตภาพยนตร์เซี่ยงไฮ้ ซ่างไห่หมิงซิงอิ่งเพี่ยนกงซือ (上海明星影片公司) ด้วยจุดเด่นจากดวงตารียาวที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว ทำให้เธอได้รับบทตัวเอกของเรื่อง ที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอที่ถูกกดขี่ภายใต้ระบบศักดินา และนี่ก็คือก้าวแรกของการเข้าสู่เส้นทางบันเทิงอย่างแท้จริงของเธอ และก็มีผลงานออกมาหลายต่อหลายเรื่อง

กระทั่งในปี 1929 หร่วนได้เข้าเป็นพนักงานของเหลียนหัวอิ่งเยี่ย บริษัทผลิตภาพยนตร์น้องใหม่ที่สร้างภาพยนตร์เรื่อง ‘กู้ตูชุนเมิ่ง’ 《古都春梦》 และมอบบทโสเภณีสาว ชื่อเยี่ยนเยี่ยนให้กับหร่วน เช่นเดียวกับ ‘เสินหนี่ว์’ 《神女》 ที่สร้างขึ้นในปี 1934 อันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตหญิงสาวที่จำยอมเป็นโสเภณีเพราะต้องหาเงินมาเลี้ยงลูกชาย แต่ท้ายที่สุดก็ยังต้องทนกับการดูถูกจากสังคม บทบาททั้งสองเรื่องสร้างความมั่นคงให้กับสถานภาพบนเวทีการแสดงของเธอได้เป็นอย่างดี
ซุนอี้ว์ ผู้กำกับชื่อดังของยุค ได้เคยกล่าวถึงหร่วนหลิงอี้ว์ไว้ในนิตยสาร ‘เหลียนหัวฮั่วเป้า’ ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ไว้ว่า "ฝีมือการแสดงของหร่วนนับว่าเป็นยอดของนักแสดงหญิงในช่วงกว่า 10 ปีของวงการภาพยนตร์จีน" ซึ่งต่อมา หลังจากที่หร่วนเสียชีวิตไปแล้ว 20 ปี ซุนอี้ว์ก็ได้ระลึกถึงหร่วนอีกว่า "พรสวรรค์ของหร่วนหลิงอี้ว์ ถือเป็นความภาคภูมิใจของยุคหนังเงียบจีน "
ซุนอี้ว์บันทึกอีกว่า “การได้กำกับงานที่มีหร่วนหลิงอี้ว์ร่วมแสดง ถือว่าเป็นความสุขที่สุดของผู้กำกับทุกคน เพียงแค่แนะนำก่อนเปิดกล้องเล็กน้อย เธอก็สามารถเข้าใจความต้องการของผู้กำกับได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งน้อยครั้งมากที่ต้องถ่ายหลายเทค โดยทั่วไปแล้ว ผู้กำกับมักจะเป็นผู้ช่วยเหลือนักแสดง แต่สำหรับหร่วน เธอกลับเป็นผู้สนับสนุนการทำงานของผู้กำกับ นอกจากนั้น การแสดงของเธอยังสามารถสะท้อนสิ่งที่ผู้กำกับต้องการออกมาได้ดีกว่าที่ตัวผู้กำกับคิดไว้ด้วยซ้ำ ”

แต่น่าเสียดายที่ชีวิตของเธอกลับต้องมาพัวพันกับผู้ชายที่ใช้ไม่ได้ถึง 2 คน คนแรกคือ จางต๋าหมิง คุณชายจากบ้านที่เธอและแม่เคยเป็นคนรับใช้ ที่แม้จะเลิกรากันไปพักหนึ่งหลังจากที่เธอเข้าสู่วงการบันเทิง โดยมีสัญญาว่า หร่วนต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูจางเดือนละ 100 หยวนด้วย ซึ่งหลังจากนั้น หร่วนก็มีรักใหม่กับถังจี้ซ่าน หนุ่มเจ้าชู้ซึ่งเป็นอดีตคนรักของจางจือหยุน ราชินีจอเงินคนแรกของจีนในยุค 20
เมื่อหร่วนมีรักใหม่ คนรักเก่าก็ตามมารังควาน โดยเรื่องไปถึงชั้นศาลเมื่อจางต๋าหมิงฟ้องร้องถังจี้ซ่านว่า ทำลายชีวิตครอบครัวระหว่างเขากับหร่วน แต่ในที่สุด ศาลก็ตัดสินว่าถังไม่มีความผิด เนื่องจากหร่วนและจางไม่เคยแต่งงานกันมาก่อน แต่กว่าที่ศาลจะมีผลสรุปออกมา ตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็ตีข่าวคาวของหร่วนออกมาไม่เว้นแต่ละวันไปแล้ว
ด้วยความเป็นคนอ่อนไหว ในที่สุดหร่วนก็ทนรับกับความกดดันดังกล่าวไม่ได้ และจบชีวิตอันแสนสั้นเพียง 25 ปี ด้วยยานอนหลับขนานแรง ในวันที่ 8 มีนาคม ปี 1935 รวมอายุที่อยู่ในวงการภาพยนตร์จีนได้เพียง 10 ปี
ข่าวการเสียชีวิตของดารายอดนิยมแห่งยุคได้สร้างความตื่นตระหนกแก่เมืองเซี่ยงไฮ้อย่างใหญ่หลวง ตลอดจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ.....

ศพของหร่วนหลิงอี้ว์ ได้ถูกเคลื่อนย้ายจากบ้านพักไปยังหอฌาปนกิจว่านกั๋ว มีการบันทึกสถิติว่าเฉพาะในวันที่ 9 -11 มีนาคม เพียง 3 วันหลังการสูญเสีย แฟนภาพยนตร์หลั่งไหลมาเคารพศพดาราในดวงใจชาวจีนผู้นี้ไม่ต่ำกว่า 60,000 คน นอกจากนั้น ในวันสุดท้ายของการตั้งศพ คือวันที่ 12 มี.ค. ก็ได้มีผู้คนถึงกว่า 30,000 คนที่มาอำลาหร่วนหลิงอี้ว์เป็นครั้งสุดท้าย
เช้าวันที่ 14 มีนาคม 1935 ซึ่งเป็นวันเคลื่อนขบวนศพดาราดังแห่งยุคจากหอประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ไปยังสุสานเหลียนอี้ซันจวง ทั่วทั้งเมืองล้วนอยู่ในบรรยากาศโศกเศร้า ฝูงชนจากทั่วเซี่ยงไฮ้มาร่วมไว้อาลัย บางคนถึงกับเดินทางมาจากเมืองข้างเคียงเช่น หนันจิง หังโจว เพื่อร่วมพิธีส่งศพ ตลอดเส้นทางของขบวนศพประมาณ 10 กิโลเมตร ไม่มีพื้นที่ไหนของเมืองเลยที่ไม่มีคนรายล้อม ซึ่งคาดว่าตลอดทางมีผู้คนประมาณ 300,000 คน
หลังจากนั้นในปี 1960 ผู้กำกับไช่ฉู่เซิง ยังแกะสลักหยกขาวเป็นป้ายชื่อหน้าหลุมศพของเธอ โดยจารึกว่า ‘หลุมศพของหร่วนหลิงอี้ว์ ศิลปินแห่งยุค (一代艺人阮玲玉之墓) ' แต่น่าเสียดายที่ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (ค.ศ.1966-1976) ป้ายหยกดังกล่าวกลับถูกรื้อและนำไปล้อมเป็นส่วนหนึ่งของเล้าหมู

หร่วนหลิงอี้ว์ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจชาวจีนไปอีกนาน หลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว ในปี 1982 ทั้งอิตาลีและฝรั่งเศส ต่างมีนิทรรศการเกี่ยวกับภาพยนตร์จีนในอดีต ซึ่งทั้งสองแห่งก็ได้นำภาพยนตร์เรื่อง เสินหนี่ว์ 《神女》 ที่เป็นผลงานเด่นเรื่องหนึ่งของหร่วนกลับมาฉายอีกครั้ง และยังได้รับคำชมจากนักวิจารณ์นานาชาติมากมาย
หลังจากนั้นต่อมาในปี 1991-1992 ยังมีภาพยนตร์ที่เป็นชีวิตของนางเอกคนดังคนนี้ออกมาสู่จอเงิน โดยใช้ชื่อว่า หร่วนหลิงอี้ว์ 《阮玲玉》 และได้ดาราเจ้าบทบาท จางมั่นอี้ว์มารับบทนำ กำกับการแสดงโดยกวนจิ่นเผิง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในระดับสากล
เช่นเดียวกับเดือนธันวาคม ปี 1995 ในการเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 90 ปีอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีน และในงานก็มีพิธีมอบ ‘รางวัลศตวรรษภาพยนตร์‘ ซึ่งสำหรับหร่วนก็ได้รับเกียรติให้รับรางวัล ‘ผู้แสดงฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม’ และภาพยนตร์ที่เธอแสดง คือเรื่อง ‘เสินหนี่ว์’ 《神女》 ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
ต่อมาในปี 1997 ภาพยนตร์ของหร่วนหลิงอี้ว์ที่ถ่ายทำตั้งแต่ปี 1931 คือเรื่อง ‘เลี่ยนอ้ายอี๋ว์อี้อู้’ 《恋爱与义务》 ได้เป็นภาพยนตร์เปิดในเทศกาลภาพยนตร์เอเชีย-อเมริกันนานาชาติ ครั้งที่ 15 ที่ซานฟรานซิสโก นอกจากนั้น ‘เสินหนี่ว์’ 《神女》 และ ‘เถาฮัวชี่เสี่ยว์จี้’ 《桃花泣血记》 และอีกหลายเรื่อง ก็ได้ไปฉายในพิพิธภัณฑ์โซโลมอน อาร์.กูเกนเฮม และเทศกาลภาพยนตร์จีน ดอน: เออร์ลี่ เช่นเดียวกับนิทรรศการภาพยนตร์เงียบโปรเดนอนในอิตาลี
26 เมษายน 1998 ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิด 88 ปีของหร่วน ชาวจีนที่ยังระลึกถึงดาวในดวงใจดวงนี้ โดยได้จัดพิธีวางรูปปั้นหร่วนหลิงอี้ว์ ที่บริเวณสวนสาธารณะฝูโซ่วหลิงย่วน ในเขตชิงผู่ เมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อให้เป็นที่พักพิงอันแสนสงบสุขให้กับเธอไปตลอดกาล.....
เรียบเรียงจากhttp://www.geocities.com/lingyuruan/suicide.html, http://news.tom.com/1006/200438-734298.html , www.people.com.cn
แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านการแสดง ที่มีมาตั้งแต่ยังเด็ก จึงทำให้ในปี 1926 เมื่ออายุได้เพียง 16 ปี หร่วนตัดสินใจเข้าทดสอบหน้ากล้องของภาพยนตร์เรื่อง ‘กว้าหมิงเตอะฟูชี’ 《挂名的夫妻》 ของบริษัทผลิตภาพยนตร์เซี่ยงไฮ้ ซ่างไห่หมิงซิงอิ่งเพี่ยนกงซือ (上海明星影片公司) ด้วยจุดเด่นจากดวงตารียาวที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว ทำให้เธอได้รับบทตัวเอกของเรื่อง ที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอที่ถูกกดขี่ภายใต้ระบบศักดินา และนี่ก็คือก้าวแรกของการเข้าสู่เส้นทางบันเทิงอย่างแท้จริงของเธอ และก็มีผลงานออกมาหลายต่อหลายเรื่อง
กระทั่งในปี 1929 หร่วนได้เข้าเป็นพนักงานของเหลียนหัวอิ่งเยี่ย บริษัทผลิตภาพยนตร์น้องใหม่ที่สร้างภาพยนตร์เรื่อง ‘กู้ตูชุนเมิ่ง’ 《古都春梦》 และมอบบทโสเภณีสาว ชื่อเยี่ยนเยี่ยนให้กับหร่วน เช่นเดียวกับ ‘เสินหนี่ว์’ 《神女》 ที่สร้างขึ้นในปี 1934 อันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตหญิงสาวที่จำยอมเป็นโสเภณีเพราะต้องหาเงินมาเลี้ยงลูกชาย แต่ท้ายที่สุดก็ยังต้องทนกับการดูถูกจากสังคม บทบาททั้งสองเรื่องสร้างความมั่นคงให้กับสถานภาพบนเวทีการแสดงของเธอได้เป็นอย่างดี
ซุนอี้ว์ ผู้กำกับชื่อดังของยุค ได้เคยกล่าวถึงหร่วนหลิงอี้ว์ไว้ในนิตยสาร ‘เหลียนหัวฮั่วเป้า’ ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ไว้ว่า "ฝีมือการแสดงของหร่วนนับว่าเป็นยอดของนักแสดงหญิงในช่วงกว่า 10 ปีของวงการภาพยนตร์จีน" ซึ่งต่อมา หลังจากที่หร่วนเสียชีวิตไปแล้ว 20 ปี ซุนอี้ว์ก็ได้ระลึกถึงหร่วนอีกว่า "พรสวรรค์ของหร่วนหลิงอี้ว์ ถือเป็นความภาคภูมิใจของยุคหนังเงียบจีน "
ซุนอี้ว์บันทึกอีกว่า “การได้กำกับงานที่มีหร่วนหลิงอี้ว์ร่วมแสดง ถือว่าเป็นความสุขที่สุดของผู้กำกับทุกคน เพียงแค่แนะนำก่อนเปิดกล้องเล็กน้อย เธอก็สามารถเข้าใจความต้องการของผู้กำกับได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งน้อยครั้งมากที่ต้องถ่ายหลายเทค โดยทั่วไปแล้ว ผู้กำกับมักจะเป็นผู้ช่วยเหลือนักแสดง แต่สำหรับหร่วน เธอกลับเป็นผู้สนับสนุนการทำงานของผู้กำกับ นอกจากนั้น การแสดงของเธอยังสามารถสะท้อนสิ่งที่ผู้กำกับต้องการออกมาได้ดีกว่าที่ตัวผู้กำกับคิดไว้ด้วยซ้ำ ”
แต่น่าเสียดายที่ชีวิตของเธอกลับต้องมาพัวพันกับผู้ชายที่ใช้ไม่ได้ถึง 2 คน คนแรกคือ จางต๋าหมิง คุณชายจากบ้านที่เธอและแม่เคยเป็นคนรับใช้ ที่แม้จะเลิกรากันไปพักหนึ่งหลังจากที่เธอเข้าสู่วงการบันเทิง โดยมีสัญญาว่า หร่วนต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูจางเดือนละ 100 หยวนด้วย ซึ่งหลังจากนั้น หร่วนก็มีรักใหม่กับถังจี้ซ่าน หนุ่มเจ้าชู้ซึ่งเป็นอดีตคนรักของจางจือหยุน ราชินีจอเงินคนแรกของจีนในยุค 20
เมื่อหร่วนมีรักใหม่ คนรักเก่าก็ตามมารังควาน โดยเรื่องไปถึงชั้นศาลเมื่อจางต๋าหมิงฟ้องร้องถังจี้ซ่านว่า ทำลายชีวิตครอบครัวระหว่างเขากับหร่วน แต่ในที่สุด ศาลก็ตัดสินว่าถังไม่มีความผิด เนื่องจากหร่วนและจางไม่เคยแต่งงานกันมาก่อน แต่กว่าที่ศาลจะมีผลสรุปออกมา ตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็ตีข่าวคาวของหร่วนออกมาไม่เว้นแต่ละวันไปแล้ว
ด้วยความเป็นคนอ่อนไหว ในที่สุดหร่วนก็ทนรับกับความกดดันดังกล่าวไม่ได้ และจบชีวิตอันแสนสั้นเพียง 25 ปี ด้วยยานอนหลับขนานแรง ในวันที่ 8 มีนาคม ปี 1935 รวมอายุที่อยู่ในวงการภาพยนตร์จีนได้เพียง 10 ปี
ข่าวการเสียชีวิตของดารายอดนิยมแห่งยุคได้สร้างความตื่นตระหนกแก่เมืองเซี่ยงไฮ้อย่างใหญ่หลวง ตลอดจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ.....
ศพของหร่วนหลิงอี้ว์ ได้ถูกเคลื่อนย้ายจากบ้านพักไปยังหอฌาปนกิจว่านกั๋ว มีการบันทึกสถิติว่าเฉพาะในวันที่ 9 -11 มีนาคม เพียง 3 วันหลังการสูญเสีย แฟนภาพยนตร์หลั่งไหลมาเคารพศพดาราในดวงใจชาวจีนผู้นี้ไม่ต่ำกว่า 60,000 คน นอกจากนั้น ในวันสุดท้ายของการตั้งศพ คือวันที่ 12 มี.ค. ก็ได้มีผู้คนถึงกว่า 30,000 คนที่มาอำลาหร่วนหลิงอี้ว์เป็นครั้งสุดท้าย
เช้าวันที่ 14 มีนาคม 1935 ซึ่งเป็นวันเคลื่อนขบวนศพดาราดังแห่งยุคจากหอประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ไปยังสุสานเหลียนอี้ซันจวง ทั่วทั้งเมืองล้วนอยู่ในบรรยากาศโศกเศร้า ฝูงชนจากทั่วเซี่ยงไฮ้มาร่วมไว้อาลัย บางคนถึงกับเดินทางมาจากเมืองข้างเคียงเช่น หนันจิง หังโจว เพื่อร่วมพิธีส่งศพ ตลอดเส้นทางของขบวนศพประมาณ 10 กิโลเมตร ไม่มีพื้นที่ไหนของเมืองเลยที่ไม่มีคนรายล้อม ซึ่งคาดว่าตลอดทางมีผู้คนประมาณ 300,000 คน
หลังจากนั้นในปี 1960 ผู้กำกับไช่ฉู่เซิง ยังแกะสลักหยกขาวเป็นป้ายชื่อหน้าหลุมศพของเธอ โดยจารึกว่า ‘หลุมศพของหร่วนหลิงอี้ว์ ศิลปินแห่งยุค (一代艺人阮玲玉之墓) ' แต่น่าเสียดายที่ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (ค.ศ.1966-1976) ป้ายหยกดังกล่าวกลับถูกรื้อและนำไปล้อมเป็นส่วนหนึ่งของเล้าหมู
หร่วนหลิงอี้ว์ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจชาวจีนไปอีกนาน หลังจากที่เธอเสียชีวิตไปแล้ว ในปี 1982 ทั้งอิตาลีและฝรั่งเศส ต่างมีนิทรรศการเกี่ยวกับภาพยนตร์จีนในอดีต ซึ่งทั้งสองแห่งก็ได้นำภาพยนตร์เรื่อง เสินหนี่ว์ 《神女》 ที่เป็นผลงานเด่นเรื่องหนึ่งของหร่วนกลับมาฉายอีกครั้ง และยังได้รับคำชมจากนักวิจารณ์นานาชาติมากมาย
หลังจากนั้นต่อมาในปี 1991-1992 ยังมีภาพยนตร์ที่เป็นชีวิตของนางเอกคนดังคนนี้ออกมาสู่จอเงิน โดยใช้ชื่อว่า หร่วนหลิงอี้ว์ 《阮玲玉》 และได้ดาราเจ้าบทบาท จางมั่นอี้ว์มารับบทนำ กำกับการแสดงโดยกวนจิ่นเผิง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในระดับสากล
เช่นเดียวกับเดือนธันวาคม ปี 1995 ในการเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 90 ปีอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีน และในงานก็มีพิธีมอบ ‘รางวัลศตวรรษภาพยนตร์‘ ซึ่งสำหรับหร่วนก็ได้รับเกียรติให้รับรางวัล ‘ผู้แสดงฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม’ และภาพยนตร์ที่เธอแสดง คือเรื่อง ‘เสินหนี่ว์’ 《神女》 ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
ต่อมาในปี 1997 ภาพยนตร์ของหร่วนหลิงอี้ว์ที่ถ่ายทำตั้งแต่ปี 1931 คือเรื่อง ‘เลี่ยนอ้ายอี๋ว์อี้อู้’ 《恋爱与义务》 ได้เป็นภาพยนตร์เปิดในเทศกาลภาพยนตร์เอเชีย-อเมริกันนานาชาติ ครั้งที่ 15 ที่ซานฟรานซิสโก นอกจากนั้น ‘เสินหนี่ว์’ 《神女》 และ ‘เถาฮัวชี่เสี่ยว์จี้’ 《桃花泣血记》 และอีกหลายเรื่อง ก็ได้ไปฉายในพิพิธภัณฑ์โซโลมอน อาร์.กูเกนเฮม และเทศกาลภาพยนตร์จีน ดอน: เออร์ลี่ เช่นเดียวกับนิทรรศการภาพยนตร์เงียบโปรเดนอนในอิตาลี
26 เมษายน 1998 ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิด 88 ปีของหร่วน ชาวจีนที่ยังระลึกถึงดาวในดวงใจดวงนี้ โดยได้จัดพิธีวางรูปปั้นหร่วนหลิงอี้ว์ ที่บริเวณสวนสาธารณะฝูโซ่วหลิงย่วน ในเขตชิงผู่ เมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อให้เป็นที่พักพิงอันแสนสงบสุขให้กับเธอไปตลอดกาล.....
เรียบเรียงจากhttp://www.geocities.com/lingyuruan/suicide.html, http://news.tom.com/1006/200438-734298.html , www.people.com.cn