บ่อยครั้งทีเดียวที่เราได้ยินคำว่า “แมนดาริน” ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าหมายถึงจีน กระผมเองก็เคยเข้าใจเช่นนั้น กระทั่งได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นจากเอกสารตำราต่างๆ รวมกระทั่งจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความรอบรู้ในเรื่องจีนทั้งในและนอกประเทศ
จึงทำให้เกิดความรู้กระจ่างขึ้นถึงที่มาของคำว่า “แมนดาริน” และรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้ นับจากนั้นกระผมก็เลิกใช้คำนี้อีกในความหมายใดๆ ที่หมายถึงจีน เพราะที่มาของคำนี้เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวของชาวจีน
ขออนุญาตย้อนเล่าไปถึงประวัติศาสตร์ยุคปลายราชวงศ์หมิง 明Ming
ยุคนั้นราชสำนักหมิงตกต่ำลงอย่างยิ่งจากเหตุการณ์เกิดศึกสายเลือด อันเป็นกีฬายอดนิยมของราชสำนักจีนทุกราชวงศ์ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้มีราชวงศ์ใหม่แทนที่ราชวงศ์เก่า
ขณะที่ราชสำนักหมิงของชาวจีนเผ่าฮั่น 汉Han ต่อสู้แย่งชิงอำนาจฟาดฟันกันสาละวันเตี้ยลงๆๆ นั้น ชนชาติหม่านจู๋ (แมนจู) 满族 man zu นอกด่านกำแพงเมืองจีนกลับทวีอำนาจอิทธิพลสูงขึ้นๆๆ กระทั่งคุกคามราชสำนักหมิงจนกินนอนไม่เป็นสุข
ชาวฮั่นผู้รักชาติจำนวนมากต่างพยายามรวมตัวกันปกปักรักษาอธิปไตยของชนชาติจีนอย่างทรหดอดทน ขณะที่ราชสำนักหมิงอ่อนแอจนทำอะไรไม่ได้เลยแม้กระทั่งป้องกันตนเองก็ยังไม่ได้
ในที่สุด ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิงก็ต้องฆ่าลูกฆ่าเมียแล้วเผ่นหนีไปผูกคอตายที่ต้นไม้เพื่อรักษาเกียรติยศเพราะไม่อยากตกเป็นเชลย ถ้าใครไปเที่ยวกรุงปักกิ่งคงได้เห็นต้นไม้ที่ว่านี้ เพราะทางการได้อนุรักษ์ไว้ให้รู้ว่าตรงนั้นเคยเกิดอะไรขึ้น
การที่ชาวฮั่นฆ่าฟันกันเองตั้งแต่ในราชสำนักจนถึงตามตลาดถนนหนทางเกือบทั่วทั้งแผ่นดิน จึงเป็นโอกาสอันเหมาะของชาวหม่านจู๋กรีธาทัพเข้าเหยียบกรุงปักกิ่งนครหลวง และสามารถยึดกรุงปักกิ่งได้ในเวลาไม่นานนัก
ชาวหม่านจู๋ราชวงศ์ชิง 清Qing เข้าปกครองจีนตั้งแต่ ค.ศ. 1644 และบังคับให้ชาวจีนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นชาวฮั่นต้องปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีหลายอย่างตามที่ชาวหม่านจู๋ต้องการ อย่างเช่นการที่ผู้ชายต้องโกนศีรษะข้างหน้าแล้วไว้เปียยาว เพื่อให้สะดวกต่อการฉุดกระชากลากจูง
ในบรรดาข้อบังคับมากมายนั้น ที่สำคัญมากอย่างหนึ่งคือการใช้ภาษาพูดตามแบบอย่างของชาวหม่านจู๋
โดยสั่งให้ชาวจีนเรียกว่าเป็นภาษาของท่านหม่านจู๋ผู้ยิ่งใหญ่ 满大人man da ren ซึ่งได้เพี้ยนเสียงมาเป็น man da rin เมืองไทยนิยมออกเสียงเป็น แมน ดา ริน
ชาวจีนผู้รักชาติซึ่งไม่ยอมพูดภาษาจีนแบบแมนดาริน ถูกสังหารผลาญชีวิตไปมากมาย ขณะที่ชาวจีนผู้จำเป็นต้องตกอยู่ใต้อำนาจการปกครองของเจ้านายใหม่ขมีขมันกันเรียนและพูดภาษาแมนดารินกันเพื่อความอยู่รอด หรือเพื่อความก้าวหน้า กระทั่งร้องเพลงชาติจีนเวอร์ชันใหม่สไตล์หม่านจู๋อย่างครึกครื้น !!!
ราชวงศ์ชิงชาวหม่านจู๋ปกครองแผ่นดินจีนอย่างกดขี่เหยียดหยามชาวฮั่นอยู่นานถึง 267 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1644-1911
เวลาอันยาวนานมากกว่า ๒ ศตวรรษครึ่ง ย่อมทำให้นานมากพอที่ชาวฮั่นจำนวนมากพออกพอใจกับการที่ตนเองตกอยู่ใต้การปกครองของท่านใต้เท้าหม่านจู๋ หรือ man da ren และยังรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างยิ่งเมื่อฝรั่งเรียก man da rin เพราะรู้สึกว่าคำนี้ฟังแล้วเท่ระเบิดเถิดเทิง
ยิ่งได้ยินได้อ่านฝรั่งเรียกอะไรที่เป็นจีนๆ โดยมีคำว่าแมนดาริน พ่วงท้ายเข้าไปแล้วก็รู้สึกยืดคอชูหูตั้งกระดิกมากขึ้น อย่างที่ฝรั่งเรียก เป็ดแมนดาริน
ชาวจีนบางคนถึงขนาดยืดคอขึ้นเหมือนเป็ดนั้นเชียว ยังมีที่ดีใจถึงขนาดร้องก้าบๆ ตามประสาเป็ดด้วยเชียวนะจะบอกให้ หรือมิฉะนั้นก็แสดงท่าเดินแบบเป็ดให้หัวเราะกันครื้นเครง ถ้าหากมีหางด้วยคงต้องกระดิกหางอย่างน่าเอ็นดู
เมื่อทราบถึงที่มาของคำ man da rin กระผมจึงเลิกใช้คำนี้ในความหมายถึงสิ่งใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีน ส่วนใครจะชอบใช้อยู่ต่อไปก็ไม่ว่ากันครับ
มีบางท่านสอบถามไปที่โรงเรียนซึ่งกระผมเปิดสอนภาษาจีนอยู่นั้นว่าสอนภาษาจีนแมนดารินใช่หรือไม่ กระผมไม่สะดวกที่จะตอบคำถามนี้ทางโทรศัพท์ เพราะจะต้องอธิบายกันยืดยาว
กระผมตอบเพียงสั้นๆ ว่า ที่กระผมสอนนั้นเป็นภาษาจีนที่ใช้กันในปัจจุบัน !!
อย่างที่ชาวจีนส่วนใหญ่บนแผ่นดินจีนจำนวนประมาณ 1,300 ล้านคนใช้สื่อสารกันในชีวิตประจำวัน ทางการจีนเรียก ผู่ ทง ฮว่า 普通话pu tong hua หมายถึงภาษาสามัญชนที่ใช้ทั่วไป และเป็นภาษาจีนที่รับรองให้ใช้ในสหประชาชาติครับ
ท่านผู้ใดสนใจที่จะเรียนภาษาจีนอย่างที่กระผมเรียนมานี้ กรุณาติดต่อได้ที่โรงเรียนสอนภาษาจีนสุขสันต์วิทยา โทร 0-2579-1647 , 0-2941-1738
จึงทำให้เกิดความรู้กระจ่างขึ้นถึงที่มาของคำว่า “แมนดาริน” และรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้ นับจากนั้นกระผมก็เลิกใช้คำนี้อีกในความหมายใดๆ ที่หมายถึงจีน เพราะที่มาของคำนี้เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวของชาวจีน
ขออนุญาตย้อนเล่าไปถึงประวัติศาสตร์ยุคปลายราชวงศ์หมิง 明Ming
ยุคนั้นราชสำนักหมิงตกต่ำลงอย่างยิ่งจากเหตุการณ์เกิดศึกสายเลือด อันเป็นกีฬายอดนิยมของราชสำนักจีนทุกราชวงศ์ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้มีราชวงศ์ใหม่แทนที่ราชวงศ์เก่า
ขณะที่ราชสำนักหมิงของชาวจีนเผ่าฮั่น 汉Han ต่อสู้แย่งชิงอำนาจฟาดฟันกันสาละวันเตี้ยลงๆๆ นั้น ชนชาติหม่านจู๋ (แมนจู) 满族 man zu นอกด่านกำแพงเมืองจีนกลับทวีอำนาจอิทธิพลสูงขึ้นๆๆ กระทั่งคุกคามราชสำนักหมิงจนกินนอนไม่เป็นสุข
ชาวฮั่นผู้รักชาติจำนวนมากต่างพยายามรวมตัวกันปกปักรักษาอธิปไตยของชนชาติจีนอย่างทรหดอดทน ขณะที่ราชสำนักหมิงอ่อนแอจนทำอะไรไม่ได้เลยแม้กระทั่งป้องกันตนเองก็ยังไม่ได้
ในที่สุด ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิงก็ต้องฆ่าลูกฆ่าเมียแล้วเผ่นหนีไปผูกคอตายที่ต้นไม้เพื่อรักษาเกียรติยศเพราะไม่อยากตกเป็นเชลย ถ้าใครไปเที่ยวกรุงปักกิ่งคงได้เห็นต้นไม้ที่ว่านี้ เพราะทางการได้อนุรักษ์ไว้ให้รู้ว่าตรงนั้นเคยเกิดอะไรขึ้น
การที่ชาวฮั่นฆ่าฟันกันเองตั้งแต่ในราชสำนักจนถึงตามตลาดถนนหนทางเกือบทั่วทั้งแผ่นดิน จึงเป็นโอกาสอันเหมาะของชาวหม่านจู๋กรีธาทัพเข้าเหยียบกรุงปักกิ่งนครหลวง และสามารถยึดกรุงปักกิ่งได้ในเวลาไม่นานนัก
ชาวหม่านจู๋ราชวงศ์ชิง 清Qing เข้าปกครองจีนตั้งแต่ ค.ศ. 1644 และบังคับให้ชาวจีนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นชาวฮั่นต้องปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีหลายอย่างตามที่ชาวหม่านจู๋ต้องการ อย่างเช่นการที่ผู้ชายต้องโกนศีรษะข้างหน้าแล้วไว้เปียยาว เพื่อให้สะดวกต่อการฉุดกระชากลากจูง
ในบรรดาข้อบังคับมากมายนั้น ที่สำคัญมากอย่างหนึ่งคือการใช้ภาษาพูดตามแบบอย่างของชาวหม่านจู๋
โดยสั่งให้ชาวจีนเรียกว่าเป็นภาษาของท่านหม่านจู๋ผู้ยิ่งใหญ่ 满大人man da ren ซึ่งได้เพี้ยนเสียงมาเป็น man da rin เมืองไทยนิยมออกเสียงเป็น แมน ดา ริน
ชาวจีนผู้รักชาติซึ่งไม่ยอมพูดภาษาจีนแบบแมนดาริน ถูกสังหารผลาญชีวิตไปมากมาย ขณะที่ชาวจีนผู้จำเป็นต้องตกอยู่ใต้อำนาจการปกครองของเจ้านายใหม่ขมีขมันกันเรียนและพูดภาษาแมนดารินกันเพื่อความอยู่รอด หรือเพื่อความก้าวหน้า กระทั่งร้องเพลงชาติจีนเวอร์ชันใหม่สไตล์หม่านจู๋อย่างครึกครื้น !!!
ราชวงศ์ชิงชาวหม่านจู๋ปกครองแผ่นดินจีนอย่างกดขี่เหยียดหยามชาวฮั่นอยู่นานถึง 267 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1644-1911
เวลาอันยาวนานมากกว่า ๒ ศตวรรษครึ่ง ย่อมทำให้นานมากพอที่ชาวฮั่นจำนวนมากพออกพอใจกับการที่ตนเองตกอยู่ใต้การปกครองของท่านใต้เท้าหม่านจู๋ หรือ man da ren และยังรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างยิ่งเมื่อฝรั่งเรียก man da rin เพราะรู้สึกว่าคำนี้ฟังแล้วเท่ระเบิดเถิดเทิง
ยิ่งได้ยินได้อ่านฝรั่งเรียกอะไรที่เป็นจีนๆ โดยมีคำว่าแมนดาริน พ่วงท้ายเข้าไปแล้วก็รู้สึกยืดคอชูหูตั้งกระดิกมากขึ้น อย่างที่ฝรั่งเรียก เป็ดแมนดาริน
ชาวจีนบางคนถึงขนาดยืดคอขึ้นเหมือนเป็ดนั้นเชียว ยังมีที่ดีใจถึงขนาดร้องก้าบๆ ตามประสาเป็ดด้วยเชียวนะจะบอกให้ หรือมิฉะนั้นก็แสดงท่าเดินแบบเป็ดให้หัวเราะกันครื้นเครง ถ้าหากมีหางด้วยคงต้องกระดิกหางอย่างน่าเอ็นดู
เมื่อทราบถึงที่มาของคำ man da rin กระผมจึงเลิกใช้คำนี้ในความหมายถึงสิ่งใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับจีน ส่วนใครจะชอบใช้อยู่ต่อไปก็ไม่ว่ากันครับ
มีบางท่านสอบถามไปที่โรงเรียนซึ่งกระผมเปิดสอนภาษาจีนอยู่นั้นว่าสอนภาษาจีนแมนดารินใช่หรือไม่ กระผมไม่สะดวกที่จะตอบคำถามนี้ทางโทรศัพท์ เพราะจะต้องอธิบายกันยืดยาว
กระผมตอบเพียงสั้นๆ ว่า ที่กระผมสอนนั้นเป็นภาษาจีนที่ใช้กันในปัจจุบัน !!
อย่างที่ชาวจีนส่วนใหญ่บนแผ่นดินจีนจำนวนประมาณ 1,300 ล้านคนใช้สื่อสารกันในชีวิตประจำวัน ทางการจีนเรียก ผู่ ทง ฮว่า 普通话pu tong hua หมายถึงภาษาสามัญชนที่ใช้ทั่วไป และเป็นภาษาจีนที่รับรองให้ใช้ในสหประชาชาติครับ
ท่านผู้ใดสนใจที่จะเรียนภาษาจีนอย่างที่กระผมเรียนมานี้ กรุณาติดต่อได้ที่โรงเรียนสอนภาษาจีนสุขสันต์วิทยา โทร 0-2579-1647 , 0-2941-1738