xs
xsm
sm
md
lg

กวางสี : ถิ่นเครือญาติไท

เผยแพร่:   โดย: โชติช่วง นาดอน

ท้องถิ่นที่มีคนใช้ภาษาตระกูลเดียวกับภาษาไทยมากที่สุดในจีนคือ “ เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง-กวางสี “ คือมีอยู่ประมาณสิบสามล้านคน

ชนชาติที่ใช้ภาษาตระกูลเดียวกับภาษาไทยในกวางสีมี ชนชาติจ้วง ชนชาติปู้ยี(ผู้ญัย) ชนชาติสุ่ย ชนชาติมู่เหล่า ชนชาติเหมาหนาน

ชนชาติจ้วงมีจำนวนประชากรมากที่สุด คือมีประชากรอยู่ประมาณสิบสอง สิบสามล้านคน

เขตปกครองตนเองกวางสีมีพื้นที่ 2 แสน 3 หมื่นกว่าตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขตภูเขาหินปูน ประชากร(หลายชนชนติ) ประมาณ 44 ล้าน 9 แสน 3 หมื่นคน

กวางสีมีพื้นที่ติดทะเลเหมือนกัน แต่ในด้านเศรษฐกิจแล้วยังล้าหลังยากจนกว่ามณฑลกวางตุ้งมาก ยังจัดอยู่ในกลุ่มท้องที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่เจริญน้อยกว่ามณฑลแถบชายทะเลภาคตะวันออก

แต่กวางสีนั้นน่าสนใจ น่าไปเที่ยว และน่าสนับสนุนช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน

เพราะคนพื้นเมืองในกวางสีเป็นเครือญาติกับพวกเราคนไทย

ใช้คำศัพท์พื้นฐานในวิถีชีวิตเหมือนกันครับ กินข้าว กินเหล้า กินน้ำ หัว หู ปาก แขน ขา ไป มา กู มึง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย เป็ด ไก่ ปลา หมู ควาย ฯลฯ ตรงกันมากมายครับ

เพียงแต่สำเนียงต่างกับไทยมาก หากฟังทั้งประโยค จะสื่อสารกันไม่เข้าใจ เพราะนอกจากสำเนียงที่ออกจะแตกต่างกันมากแล้ว คำศัพท์อื่นๆ นั้น ชาวจ้วงหยิบยืมจากคำศัพท์จีนเยอะ เช่นเดียวกับที่คนไทยยืมคำจากอินเดียเยอะ เมื่อพูดเป็นประโยคจึงฟังกันไม่เข้าใจ

แต่ถ้ามาไล่เรียงคำศัพท์พื้นๆ ออกเสียงให้ฟังกันช้าๆ แล้ว ท่านจะตกใจมากที่คำศัพท์ไทยกับจ้วงตรงกันมากมาย

ผมไปกวางสีครั้งแรกเมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว โดยติดตามคุณมหัคฆ์ เสมอพิทักษ์ ไปศึกษาเรื่องชนชาติจ้วงที่วิทยาลัยชนชาติแห่งกวางสี

วิทยาลัยชนชาติจ้วงแห่งกวางสีเป็นสถาบันอุดมศึกษาสำคัญแห่งหนึ่งที่ผลิตบัณฑิตวิชาภาษาไทย

มหาวิทยาลัยจีนที่เปิดสอนภาษาไทย ที่ผมรู้ก็มีวิทยาลัยชนชาติแห่งยูนนาน วิทยาลัยชนชาติแห่งกวางสี วิทยาลัยชนชาติศูนย์กลาง(ที่ปักกิ่ง) มหาวิทยาลัยปักกิ่ง วิทยาลัยภาษาต่างประเทศกวางตุ้ง (เดี๋ยวนี้ไม่แน่ใจว่ายังสอนภาษาไทยอยู่หรือเปล่า เพราะมีช่วงหนึ่งที่ขาดแคลนอาจารย์วิชาภาษาไทย)

แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือกวางสีครับ เพราะที่นั่นมีพลเมืองที่ใช้ภาษาตระกูลเดียวกับภาษาไทยมากที่สุด

สมัยก่อนผมเดินทางไปกวางสีโดยไปเปลี่ยนเครื่องบินที่คุนหมิงหรือกวางเจา

เมื่อผมไปถึงสนามบินหนานหนิงครั้งแรกนั้น เหล่าอาจารย์สอนภาษาไทย (คนไทยเกิดที่อุบลราชธานี) อาจารย์สอนภาษาลาว (ชาวจ้วงสายผู้ไท) มายืนต้อนรับบนสนามหญ้าข้างเครื่องบินเลย พอผมกับลุงมหัคฆ์เดินลงบันไดถึงพื้น ท่านก็ตะโกนภาษาลาวทักทายเสียงดัง ผมยังนึกในใจว่า มาลงสนามบินผิดที่เมืองลาวหรือเปล่า (สมัยโน้นสนามบินคุนหมิงก็ยังเล็กนิดเดียวครับ)

แต่บัดนี้สนามบินหนานหนิงเป็นสนามบินนานาชาติไปแล้ว

สำหรับคนที่มีเวลา ควรนั่งรถไฟจากคุนหมิงไปหนานหนิง จะได้เห็นทิวทัศน์และวิถีชีวิตของผู้คนมากดีครับ

และที่น่าทดลองเดินทางคือ รถไฟสายฮานอยไปถึงคุนหมิงครับ เส้นทางสายนี้ในอดีตฝรั่งเศสได้สัมปทาน และหมอคลิฟตัน ดอดด์ ผู้เขียนเรื่อง “ชนชาติไต พี่ใหญ่ของชนชาติจีน” เคยนั่งรถไฟสายนี้เพื่อไปสำรวจเรื่องชนชาติไทในตั๋งเกี๋ย

เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว หนานหนิงเป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยงเจียง เมืองหนานหนิงยังเล็กกว่าคุนหมิงเสียอีก แต่เดี๋ยวนี้มันขยายตัวไปมาก มีตึกรามใหญ่โต

และรถติดครับ !

นักท่องเที่ยวที่ไม่สนใจเรื่องศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ไปเที่ยวกวางสีอาจจะไม่สนุก

แต่รู้มั้ยครับ การท่องเที่ยวที่กวางสีนั้นราคาแพงที่สุด หากท่านจะไปล่องแม่น้ำหลีเจียงที่กุ้ยหลิน ใครๆ ในจีนก็ใฝ่ฝันที่จะได้ล่องแม่น้ำหลีเจียงที่กุ้ยหลิน เขาว่าที่นั่นเหมือนสวรรค์

แต่ผมไปเที่ยวมาสี่ครั้ง รู้สึกเฉยๆ เสียแล้ว .
กำลังโหลดความคิดเห็น