ก่อนอื่นต้องกล่าวขออภัยแก่บรรดาท่านผู้อ่านที่ติดตามคอลัมน์นี้ที่ผมเบี้ยวมาหลายสัปดาห์ ข้ออ้างแบบข้างๆ คูๆ ก็ คือ ผมหนีไป 'เที่ยว' มาครับ ... แต่ไปเที่ยวที่ไหนมานั้นผมขออุบเอาไว้เฉลยกันตอนท้าย และเพื่อไม่ให้เสียเวลา เราเริ่มซีรีย์ 'ซิ่ง' ตอนจบกันเลยดีกว่า
จำได้ว่าเราคุยค้างกันไว้ถึงเรื่อง ภาพโป๊ หรือ ภาพวาดอีโรติกของจีน .....
ในปัจจุบัน ภาพโป๊ หนังโป๊ หนังสือโป๊ หนังสือปกขาว นิยายปกขาว รวมไปสิ่งที่บ้านเราเรียกรวมกันว่า 'สื่อลามก' นั้นชาวจีนเขาให้คำว่า หวงเส้อ (黄色) หรือแปลเป็นไทยว่า สีเหลือง เป็นตัวแทน ทั้งนี้หลังจากยุคศักดินา ที่ 'สีเหลือง' แสดงถึง สัญลักษณ์ของฮ่องเต้ ผู้ปกครอง สิ้นสุดไปตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ถึงปัจจุบันคนจีนกลับใช้คำว่า 'สีเหลือง' นี้มาเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึง สื่อลามก รวมถึงสื่อหรือวัสดุที่ใช้กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ
อย่างไรก็ตาม ดังที่กล่าวไปในตอนที่แล้วว่า ภาพอีโรติกของจีน โบราณ นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่อง 'ไม่ดี' เสมอไป แต่ภาพวาดเช่นนี้กลับมีนัยยะ และประโยชน์ต่อสังคมในสมัยโบราณ อย่างเช่น เจี้ยจวงฮว่า (嫁妆画) หรือ ภาพวาดที่บรรดาพ่อ-แม่ จะมอบให้เจ้าสาวติดตัวไปพร้อมๆ กับของใช้ส่วนตัวอื่นๆ เมื่อถึงเวลาออกเรือนไปอาศัยอยู่บ้านเจ้าบ่าว นั้นก็มีคุณค่าในฐานะของการเป็น คู่มือการศึกษาวิธีการใช้ชีวิตคู่หลักสูตรสำคัญที่สุดหลักสูตรหนึ่ง โดยนอกจาก คำว่า เจี้ยจวงฮว่า ที่แปลได้ว่า ภาพออกเรือน แล้วชาวจีนยังเรียกภาพเหล่านี้ว่า ภาพ(สำหรับ)ลูกสาว (หนี่ว์เอ๋อร์ถู;女儿图) หรือ ตำราข้างหมอน (เจิ่นเปียนซู;枕边书) อีกด้วย
เจี้ยจวงฮว่า นั้นถือเป็นประเภทหนึ่งของภาพวาดอีโรติก ที่เรียกกันว่า ชุนกงฮว่า (春宫画) ชุนกงถู (春宫图) ของชาวจีนในสมัยโบราณ .... โบราณขนาดไหน?
โดยทั่วไป นักวิชาการที่ศึกษาเรื่องนี้มักจะระบุว่า ภาพวาดอีโรติกนั้นมีต้นกำเนิดในสมัยฮั่นตะวันตก (ก่อนคริสต์กาล 202 ปี-ค.ศ.23) ในรัชสมัยของฮ่องเต้ฮั่นจิ่งตี้ (汉景帝) อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้ว นักประวัติศาสตร์จีนหลายคนชชี้ว่า ภาพวาดอีโรติกของชาวจีนอย่างน้อยน่าจะมีมาตั้งแต่ในสมัยปลายราชวงศ์ซัง (商) หรือ เมื่อ 3,000 กว่าปีก่อนแล้ว*
ในเวลาต่อมา ชุนกงฮว่า ได้แพร่ไปในหมู่ชาวบ้านร้านตลาด เนื่องมาจากเริ่มมีการนำ ภาพเหล่านี้แทรกไว้ในหนังสือเพศศึกษาต่างๆ อย่างไรก็ตามในยุคก่อนที่เทคโนโลยีการพิมพ์ยังไม่แพร่หลายและก้าวหน้า โดยเฉพาะการพิมพ์ภาพวาด ประกอบกับการที่ภาพเหล่านี้ถูกจัดให้เป็น 'ภาพใต้ดิน' ทำให้แม้ภาพเหล่านี้จะปรากฎมาตั้งนานนม และปรากฎชื่อจิตรกรภาพที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัย ถัง ซ่ง แต่กว่าที่ภาพเหล่านี้จะแพร่หลายไปในครัวเรือนต่างๆ เวลาก็ย่างเข้ามาถึง สมัยหยวน หมิง ชิง ยุคศักดินาสามยุคสุดท้ายในประวัติศาสตร์จีน
กล่าวมาถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านหลายคน อาจรู้สึกกระอักกระอ่วนว่าทำไมผมเอาเรื่องนี้มากล่าวได้อย่างเป็นวรรคเป็นเวรอย่างนี้ ก่อนจะกล่าวเลยไป เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ภาพชุนกงฮว่า หรือ ภาพอีโรติกของจีนในสมัยโบราณนั้นก็ถือว่าเป็น ศิลปะชั้นสูงแขนงหนึ่ง โดยศิลปินผู้วาดภาพนั้นเป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียง นอกจากนี้ภาพที่วาดออกมามิจำเป็นต้องเป็นภาพในลักษณะที่ชาย-หญิงอยู่ในระหว่างกิจกรรมการร่วมเพศ หรือ ต้องวาดให้เห็นอวัยวะเพศเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึง ภาพเหตุการณ์ก่อน หรือ หลัง กิจกรรม รวมถึง ภาพที่กระตุ้นให้ผู้ชมสามารถจินตนาการต่อไปได้ตัวเอง ตรงนี้นี่เองที่เป็นตัวกำหนดว่า ภาพอีโรติกดังกล่าวเป็น 'งานศิลปะชั้นสูง' หรือ 'ภาพวาดชั้นต่ำ'
หรือ หากจะเปรียบเทียบแบบง่ายๆ กับ การถ่ายแฟชั่น ในวงการนิตยสารบ้านเราในปัจจุบันไปก็คือ เส้นแบ่งระหว่าง 'ภาพเซ็กซี่' กับ 'ภาพอนาจาร' นั่นเอง
ในยุคแรกๆ ของราชวงศ์หยวน ปรากฎจิตกรนามว่า เจ้าเมิ่งฝู่ (赵孟頫) เจ้าเมิ่งฝู่เป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่ง โดยเขานอกจากจะวาดภาพธรรมดาแล้ว ยังวาดภาพอีโรติกอีกด้วย หลักฐานพิสูจน์ก็คือ นวนิยายเรื่อง บัณฑิตก่อนเที่ยงคืน (โย่วผูถวน;肉蒲团) ที่เขียนขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง
ในตอนหนึ่งของบัณฑิตก่อนเที่ยงคืน เพื่อที่จะกระตุ้นอารมณ์ของภรรยา ยู่เซียง (玉香;หรือ ฟุ้งหอมผู้สูงส่ง ตามภาษาการแปลภาคภาษาไทย ของ คุณชลันธร) ที่เติบโตมาในครอบครัวหัวเก่า และเคร่งครัดในขนบธรรมเนียมเป็นอย่างมาก จนไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับสามี บัณฑิตก่อนเที่ยงคืน เว่ยหยังเซิง (未央生;เว่ยหยังเช็ง) จึงจำใจควักกระเป๋าไปซื้อสมุดภาพของ เจ้าเมิ่งฝู่ มาหนึ่งชุด ..... จาก นวนิยายบัณฑิตก่อนเที่ยงคืน เป็นข้ออ้างอิงเล็กๆ ได้ว่า แม้แต่ จิตรกรผู้เรืองนามก็ยังเคยวาด 'ภาพใต้ดิน' เช่นนี้มาก่อน
ถัดมาในสมัยราชวงศ์หมิงและชิงก็มี จิตรกรผู้มีชื่อเสียง ถือกำเนิดขึ้นมามากมาย โดย จิตรกรสองคนที่ถือว่าเป็นปรมาจารย์ของภาพชุนกงฮว่า นั้นถือกำเนิดขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง โดยมีนามว่า ถังหยิน (唐寅) และ ฉิวอิง (仇英) โดยผลงานภาพชุนกงฮว่าของจิตรกรสองท่านนี้ส่งผลให้ชาวจีนรุ่นหลังยกย่องกันว่า ในช่วงปลายของราชวงศ์หมิงเป็นยุคที่รุ่งโรจน์ที่สุดของภาพชุนกงฮว่า ทำให้ในยุคต่อมามีจิตรกรคนอื่นพยายามแอบอ้างชื่อไปใส่ไว้ผลงานของตัวเองก็มีมาก
นอกจากในยุคปลายของราชวงศ์หมิงจะถือกำเนิดจิตรกร ผู้มีพรสวรรค์แล้ว ยังมีปัจจัยที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญทำให้ภาพอีโรติกเหล่านี้แพร่หลายก็คือ ในช่วงปลายหมิงต้นชิง เทคโนโลยีการพิมพ์มีความก้าวหน้าขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง โดยในยุคนั้นที่ก้าวหน้าจนสามารถพิมพ์ภาพสีได้**
ขณะที่ ศ.หลิวต๋าหลิน ก็ให้ข้อสังเกตว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่เร่งให้เกิดความแพร่หลายของภาพอีโรติกจีนในสมัยหมิงและชิงนั้นเกิดจาก แรงสะท้อนทางสังคมที่เมื่อมีการ 'กด' เรื่องเพศเอาไว้มาก ผู้คนก็ย่อมเสาะแสวงหาสิ่งเหล่านี้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
กล่าวถึง ภาพวาดจีนในสมัยหมิงแล้ว ปัจจุบัน ดังเช่นที่คุณ Peking man เคยแนะนำไว้ตั้งแต่เขียน เรื่อง 'ซิ่ง' ตอนแรก ในแวดวงผู้ศึกษาเรื่องภาพอีโรติกของจีนทั่วโลกรวมถึงในผู้เชี่ยวชาญในจีนเอง ต่างก็อ้างอิงถึง นักวิชาการด้านจีนศึกษาชาวตะวันตกผู้หนึ่งผู้มีนามว่า Robert Hans van Gulik (ค.ศ.1910-1967)
van Gulik เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาชาวเนเธอร์แลนด์ ผู้มีภรรยาเป็นชาวจีน เขามีผลงานแปลนิยายจีน และทำการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับจีนไว้มากมาย โดยผลงานสำคัญที่เกี่ยวกับ เซ็กส์และสังคมจีนในสมัยโบราณ ก็คือ การรวมรวบ-สะสม ภาพชุนกงฮว่าของจีน และ ทำการศึกษาอย่างเป็นวิชาการ โดยต่อมา van Gulik ตีพิมพ์หนังสือในด้านนี้ออกมาสองเล่ม ประกอบด้วย
หนึ่ง Sexual Life in Ancient China:A Preliminary Survey of Chinese Sex and Society from Ca. 1500 B.C. Till 1644 A.D. หรือ ภาษาจีนคือ 中国古代房内考
สอง Erotic Colour Prints of the Ming Period: With an Essay on Chinese Sex Life from the Han to the Ching Dynasty, B.C. 206-A.D. 1644 หรือ ภาษาจีนคือ 明代春宫彩印
ในหนังสือเล่มแรก Sexual Life in Ancient China นั้น van Gulik รวบรวมเอาภาพชุนกงฮว่าสมัยหมิงไว้ 12 ชุด รวม 300 กว่าภาพ จากนั้นจึงนำมาจัดหมวดหมู่ทำเป็นสถิติถึงพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของชาวจีนในสมัยปลายราชวงศ์หมิง โดยผลลัพธ์ที่ได้นั้น ปรากฎให้เห็นถึงเทคนิค วิธี และพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของชาวจีนในสมัยโบราณในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็รวมไปถึง การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันด้วย โดย van Gulik ได้ทำการวิเคราะห์ และ สรุปออกมาว่า พฤติกรรมทางเพศของชาวจีนในสมัยโบราณนั้นเรียกได้ว่า เป็นพฤติกรรมที่ถูกสุขลักษณะ และถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์**
เจียงเสี่ยวหยวน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง ผู้เขียน หนังสือ 性感:一种文化解释 ได้ชี้ให้เห็นว่าการรวบรวมสถิติของ van Gulik นั้นก็มีบางส่วนที่ผิดพลาด เช่น การตีความภาพคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตามหากพิจารณาในภาพรวมแล้ว ผลงานของ van Gulik ก็ถือได้ว่าเป็นผลงานชั้นยอด อันประกอบด้วยข้อสังเกต ข้อสรุป ที่มีคุณค่าทางวิชาการอย่างยิ่ง
ยกตัวอย่างเช่น ในภาพ 300 กว่าภาพที่ van Gulik ทำการรวบรวม มีภาพกว่าครึ่งที่ในภาพมีผู้ชาย 1 คน อยู่ร่วมผู้หญิงหลายคน โดยขณะที่ชายหนึ่งหญิงหนึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์กันอยู่นั้น ผู้หญิงคนอื่นๆ ก็คอยปรนนิบัติ ดูแล หรือ มองอยู่ข้างๆ การค้นพบดังกล่าว สะท้อนให้คนปัจจุบันมองเห็นภาพสังคมจีนในสมัยโบราณได้ชัดเจนขึ้น ก็คือ สถานะของฝ่ายชาย ที่ผู้ชายจีนในสมัยโบราณสามารถมีภรรยาหลายคน อีกประการหนึ่งก็คือ ชาวจีนในสมัยโบราณที่ตกแต่งอยู่กินกันอย่างเปิดเผย ถูกต้องตามธรรมเนียมนั้นไม่ได้มองกิจกรรมทางเพศเป็นเรื่องลึกลับ หรือ น่าอาย ตรงกันข้ามกลับเป็นเรื่องที่เปิดเผย โดยมีเพียงผู้ที่เป็นชู้ หรือ บรรดาผู้รักร่วมเพศเท่านั้นที่ต้องแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กัน
ปิดท้ายด้วยข้อสงสัยที่ว่า ในสังคมจีนโบราณ 'ชุนกงฮว่า' มีประโยชน์อะไรบ้าง? คำตอบคือ
หนึ่ง เพื่อความหรรษา
สอง เพื่อการศึกษาเรื่องเพศ
สาม เพื่อกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ
และ สี่ ตอบสนองความเชื่อของชาวจีนที่ว่า ภาพโป๊เหล่านี้สามารถใช้เป็น ภาพป้องกันอัคคีภัย (避火图) ได้อีกด้วย เนื่องจากชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่า 'เทพแห่งไฟ (火神)' กลัวภาพหญิงสาวเปลือยโดยเมื่อเจอภาพเหล่านี้ก็จะตกใจ และไม่กล้าเข้าใกล้ โดย สมัยก่อนนักสะสมหนังสือชาวจีนก็มักจะแทรกรูปชุนกงฮว่าไว้ตามหนังสือ เพื่อประโยชน์ในลักษณะดังกล่าว**
จริงๆ แล้วเรื่องที่เกี่ยวพันกับ 'เรื่องซิ่ง' ของจีนนั้นยังมีประเด็นที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่างเช่น เรื่องอาชีพโสเภณีในประเทศจีน อิทธิพลของนวนิยายปกขาวต่อแวดวงวรรณกรรมจีน ประเพณีการรัดเท้าของผู้หญิงในประเทศจีน ขันที การแพร่กระจายของวัฒนธรรมทางเพศของจีนไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ฯลฯ ผู้ที่สนใจเพิ่มเติมก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือที่ผมอ้างอิง และท่านผู้อ่านท่านอื่นๆ แนะนำเอาไว้
สำหรับตอนหน้าผมจะพาไปชมทิวทัศน์และประวัติศาสตร์ของ มณฑลเหอหนาน (河南) มณฑลที่คนชอบประวัติศาสตร์จีนไม่ไปไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง พลาดไม่ได้นะครับ!
Tips สำหรับการเดินทาง:
- พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมทางเพศโบราณของจีน (中国古代性文化博物馆:The Museum of Ancient Chinese Sex Culture) อยู่ที่หมู่บ้านถงหลี่ เมืองอู๋เจียง (吴江市) มณฑลเจียงซู ประเทศจีน โทรศัพท์ 0512-63322973 บัตรเข้าชมราคา 20 หยวน และมีข้อแม้ประการหนึ่งว่า ผู้เข้าชมจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น
หมายเหตุ :
*หนังสือ 浮世与春梦 หน้า 228-251 โดยผู้เขียนอ้างอิงจากหนังสือ 《列女传》มาอีกทอดหนึ่ง
**หนังสือ 性感:一种文化解释 โดย เจียงเสี่ยวหยวน สำนักพิมพ์ 海南出版社 พิมพ์เดือนมิถุนายน ปีค.ศ.2003 หน้า 151-158