คงต้องทักทายท่านผู้อ่านกันใหม่อีกครั้ง เนื่องจากผู้เขียนหายหน้าหายตาไปนาน ช่วงที่ผ่านมาผู้เขียนเดินทางมาก ทั้งในประเทศนอกประเทศ งานเขียน ‘จีนะเทศ’ จึงขาดตกไป
ผู้เขียนเพิ่งกลับจากประเทศเกาหลีเหนือและจีน ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องราวในประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งกำลังเป็นจุดที่ง่ายต่อการเกิดวิกฤติการณ์จุดหนึ่ง
โหราจารย์คนไทยท่านหนึ่งพยากรณ์ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้จะเกิดวิกฤติตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับเกาหลีเหนือ ปรากฏว่าสำนักข่าวตะวันตกเสนอข่าวว่าเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธ ยิงไปตกในทะเลญี่ปุ่น สื่อต่างๆ ก็รายงานตามสำนักข่าวฝ่ายตะวันตก ทำให้ประเทศเกาหลีเหนือกลายเป็นยักษ์เป็นมารตัวร้าย คุกคามสันติสุขของพลโลก
ในช่วงสงกรานต์ระหว่างที่ผู้เขียนอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ ข่าว CNN ในประเทศไทยเสนอรายงานข่าวว่า ประเทศเกาหลีเหนือเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ประชาชนตัดผมสั้น ควรไว้ผมไม่ยาวเกิน 5 เซนติเมตร ภาพข่าวก็มีภาพประชาชนเกาหลีเหนือเข้าคิวรอตัดผมกันหลายคน
ช่วงสงกรานต์ไทยนั้น ในประเทศเกาหลีเป็นช่วงย่างฤดูใบไม้ผลิ จะเรียกว่าตรุษเกาหลีก็ได้ และบังเอิญวันเกิดของประธานาธิบดีคิมอิลซุง – The Great Leader ของเกาหลีเหนือตรงกับวันที่ 15 เมษายน ทางเกาหลีเหนือเขาจึงเฉลิมฉลองวันเกิดของผู้นำไปด้วย เรียกว่า Sun’s Day เป็นเทศกาลใหญ่หยุดงานกันหลายวัน มีการเฉลิมฉลอง มีงานต่างๆ สนุกสนาน ผู้คนตามถนนแย้มยิ้มเบิกบาน แต่งกายกันงดงาม ดูไม่เห็นร่องรอยของความทุกข์ยาก อดอยากแสนเข็ญอย่างที่ปรากฏตามข่าวสำนักข่าวตะวันตก
เจ็ดวันที่ผมอยู่ในเกาหลีเหนือ ไม่เห็นมีคนไปเข้าคิวรอตัดผมอย่างที่ CNN ออกข่าวเลย ไม่รู้ว่าเขาไปถ่ายมาจากเมืองใดในเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือมีทัศนคติยึดมั่นถือมั่นในเรื่อง “เอกราช” – Independence มากๆ เขาไม่ยอมก้มหัวให้อภิมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา
แต่ก็มิใช่ว่าเขากำลังเป็นฝ่าย”คุกคาม” ผู้อื่นนะครับ
เขาชี้แจงว่าสิ่งที่เขาทำ(สร้างระเบิดปรมาณู) เขาทำไว้ป้องกันตัวเท่านั้น ไม่เคยคิดรุกรานใครก่อน
ในทัศนะของคนเกาหลีเหนือนั้น เขาเห็นว่าประเทศของเขาถูกคุกคามโดยสหรัฐ ยุคจอร์จ ดับเบิลยู บุช(ยุคคลินตันนั้น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเกาหลีเหนือ) และที่ไม่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อตะวันตกก็คือ เกาหลีเหนือบอกว่าสหรัฐและเกาหลีใต้ก็สร้างระเบิดปรมาณูไว้ในเกาหลีใต้ก่อน เกาหลีเหนือจึงต้องสร้างปรมาณูไว้ถ่วงดุล
ผู้เขียนติดตามสถานการณ์ในเอเชียตะวันออกไกลมาตลอด อีกทั้งผู้เขียนออกจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย( pessimism) ผู้เขียนยอมรับว่าไม่ค่อยมีความหวังที่จะเห็นความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ลงเอยอย่างสันติสุข (ในระยะยาว)
ความสัมพันธ์ของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกไกล อันประกอบด้วย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ จีนแผ่นดินใหญ่ จีนไต้หวัน แม้จะดูราบเรียบ มีความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจมากมหาศาล
แต่คลื่นใต้น้ำ มันแรง !
จีนกับไต้หวันจะกลับมารวมกันได้อย่างไร เกาหลีเหนือเกาหลีใต้จะรวมประเทศกันได้อย่างไร คนจีน, คนเกาหลี จะเป็นมิตรไมตรีกับประเทศญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริงหรือ เรื่องทั้งหมดนี้แม้ไม่มีสหรัฐเข้ามายุ่มย่าม การคลี่คลายความขัดแย้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
แต่นี่ยังมีสหรัฐอเมริกาเข้ามาสอดแทรก กระทั่งว่าบางช่วงคือผู้บงการอีกด้วย ผู้เขียนจึงหมดหวังที่จะเห็นการคลี่คลายอย่างสันติสุข
ปัญหามันกลายเป็นเรื่องสองค่ายเสียแล้ว เข้าทำนองค่ายทุนนิยมตะวันตกกับค่ายสังคมนิยมในยุคสงครามเย็น นั่นคือสหรัฐสร้างพันธมิตร สหรัฐ- ญี่ปุ่น- เกาหลีใต้ –ไต้หวัน เป็นแนวต่อต้านจีน
ปัญหามันยังไม่เดือดขึ้นมา เนื่องจากสหรัฐยังจมปลักสงครามอยู่ในอิรัก ยังไม่อาจมาอาละวาดในแถบเอเชียตะวันออกไกล
ตอนนี้เกาหลีเหนือเขาตัดสินใจ “ยอมหัก ไม่ยอมงอ” แน่แล้ว และเท่าที่ผู้เขียนสังเกตดู “ความเปลี่ยนแปลง” ในระดับรัฐของเกาหลีเหนือคงจะยังไม่เกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ ดังนั้น จะหวังให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของเขา (ต่อต้านอเมริกา) คงเป็นไปไม่ได้ บางท่านคิดว่า จีนอาจใช้อิทธิพลบีบให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนท่าทีได้ แต่ผู้เขียนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่จะสำเร็จได้ง่ายๆ
สรุปได้ว่า อย่านอนใจนึกว่าเศรษฐกิจเอเชียจะดีตลอดไป จงระวังวิกฤติการณ์ในเอเชียตะวันออกไว้บ้าง .
ผู้เขียนเพิ่งกลับจากประเทศเกาหลีเหนือและจีน ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องราวในประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งกำลังเป็นจุดที่ง่ายต่อการเกิดวิกฤติการณ์จุดหนึ่ง
โหราจารย์คนไทยท่านหนึ่งพยากรณ์ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้จะเกิดวิกฤติตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับเกาหลีเหนือ ปรากฏว่าสำนักข่าวตะวันตกเสนอข่าวว่าเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธ ยิงไปตกในทะเลญี่ปุ่น สื่อต่างๆ ก็รายงานตามสำนักข่าวฝ่ายตะวันตก ทำให้ประเทศเกาหลีเหนือกลายเป็นยักษ์เป็นมารตัวร้าย คุกคามสันติสุขของพลโลก
ในช่วงสงกรานต์ระหว่างที่ผู้เขียนอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ ข่าว CNN ในประเทศไทยเสนอรายงานข่าวว่า ประเทศเกาหลีเหนือเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ประชาชนตัดผมสั้น ควรไว้ผมไม่ยาวเกิน 5 เซนติเมตร ภาพข่าวก็มีภาพประชาชนเกาหลีเหนือเข้าคิวรอตัดผมกันหลายคน
ช่วงสงกรานต์ไทยนั้น ในประเทศเกาหลีเป็นช่วงย่างฤดูใบไม้ผลิ จะเรียกว่าตรุษเกาหลีก็ได้ และบังเอิญวันเกิดของประธานาธิบดีคิมอิลซุง – The Great Leader ของเกาหลีเหนือตรงกับวันที่ 15 เมษายน ทางเกาหลีเหนือเขาจึงเฉลิมฉลองวันเกิดของผู้นำไปด้วย เรียกว่า Sun’s Day เป็นเทศกาลใหญ่หยุดงานกันหลายวัน มีการเฉลิมฉลอง มีงานต่างๆ สนุกสนาน ผู้คนตามถนนแย้มยิ้มเบิกบาน แต่งกายกันงดงาม ดูไม่เห็นร่องรอยของความทุกข์ยาก อดอยากแสนเข็ญอย่างที่ปรากฏตามข่าวสำนักข่าวตะวันตก
เจ็ดวันที่ผมอยู่ในเกาหลีเหนือ ไม่เห็นมีคนไปเข้าคิวรอตัดผมอย่างที่ CNN ออกข่าวเลย ไม่รู้ว่าเขาไปถ่ายมาจากเมืองใดในเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือมีทัศนคติยึดมั่นถือมั่นในเรื่อง “เอกราช” – Independence มากๆ เขาไม่ยอมก้มหัวให้อภิมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา
แต่ก็มิใช่ว่าเขากำลังเป็นฝ่าย”คุกคาม” ผู้อื่นนะครับ
เขาชี้แจงว่าสิ่งที่เขาทำ(สร้างระเบิดปรมาณู) เขาทำไว้ป้องกันตัวเท่านั้น ไม่เคยคิดรุกรานใครก่อน
ในทัศนะของคนเกาหลีเหนือนั้น เขาเห็นว่าประเทศของเขาถูกคุกคามโดยสหรัฐ ยุคจอร์จ ดับเบิลยู บุช(ยุคคลินตันนั้น มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเกาหลีเหนือ) และที่ไม่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อตะวันตกก็คือ เกาหลีเหนือบอกว่าสหรัฐและเกาหลีใต้ก็สร้างระเบิดปรมาณูไว้ในเกาหลีใต้ก่อน เกาหลีเหนือจึงต้องสร้างปรมาณูไว้ถ่วงดุล
ผู้เขียนติดตามสถานการณ์ในเอเชียตะวันออกไกลมาตลอด อีกทั้งผู้เขียนออกจะเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย( pessimism) ผู้เขียนยอมรับว่าไม่ค่อยมีความหวังที่จะเห็นความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ลงเอยอย่างสันติสุข (ในระยะยาว)
ความสัมพันธ์ของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกไกล อันประกอบด้วย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ จีนแผ่นดินใหญ่ จีนไต้หวัน แม้จะดูราบเรียบ มีความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจมากมหาศาล
แต่คลื่นใต้น้ำ มันแรง !
จีนกับไต้หวันจะกลับมารวมกันได้อย่างไร เกาหลีเหนือเกาหลีใต้จะรวมประเทศกันได้อย่างไร คนจีน, คนเกาหลี จะเป็นมิตรไมตรีกับประเทศญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริงหรือ เรื่องทั้งหมดนี้แม้ไม่มีสหรัฐเข้ามายุ่มย่าม การคลี่คลายความขัดแย้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
แต่นี่ยังมีสหรัฐอเมริกาเข้ามาสอดแทรก กระทั่งว่าบางช่วงคือผู้บงการอีกด้วย ผู้เขียนจึงหมดหวังที่จะเห็นการคลี่คลายอย่างสันติสุข
ปัญหามันกลายเป็นเรื่องสองค่ายเสียแล้ว เข้าทำนองค่ายทุนนิยมตะวันตกกับค่ายสังคมนิยมในยุคสงครามเย็น นั่นคือสหรัฐสร้างพันธมิตร สหรัฐ- ญี่ปุ่น- เกาหลีใต้ –ไต้หวัน เป็นแนวต่อต้านจีน
ปัญหามันยังไม่เดือดขึ้นมา เนื่องจากสหรัฐยังจมปลักสงครามอยู่ในอิรัก ยังไม่อาจมาอาละวาดในแถบเอเชียตะวันออกไกล
ตอนนี้เกาหลีเหนือเขาตัดสินใจ “ยอมหัก ไม่ยอมงอ” แน่แล้ว และเท่าที่ผู้เขียนสังเกตดู “ความเปลี่ยนแปลง” ในระดับรัฐของเกาหลีเหนือคงจะยังไม่เกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ ดังนั้น จะหวังให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของเขา (ต่อต้านอเมริกา) คงเป็นไปไม่ได้ บางท่านคิดว่า จีนอาจใช้อิทธิพลบีบให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนท่าทีได้ แต่ผู้เขียนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่จะสำเร็จได้ง่ายๆ
สรุปได้ว่า อย่านอนใจนึกว่าเศรษฐกิจเอเชียจะดีตลอดไป จงระวังวิกฤติการณ์ในเอเชียตะวันออกไว้บ้าง .