xs
xsm
sm
md
lg

รัฐมนตุ๊ก &傀&儡&阁&员

เผยแพร่:   โดย: สุขสันต์ วิเวกเมธากร

สามก๊กเป็นเรื่องจีนที่คนไทยค่อนข้างรู้จักกันแพร่หลาย โดยเฉพาะเรื่องที่ปรากฏอยู่ในนวนิยายสามก๊กฉบับใช้เล่นงิ้ว ยังมีบางคนนำเรื่องราววิธีการหรือกลยุทธ์ที่ปรากฏในสามก๊กมาใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่อดีต สืบถึงปัจจุบัน
และน่าเชื่อว่า ยังต้องมีคนนำไปใช้กันอีกในอนาคต

กระผมเคยบอกไว้ว่า สามก๊กนั้นเปรียบเสมือนเป็นอาวุธสองคมและหนึ่งแหลม ซึ่งหากนำมาใช้โดยไม่ถูกที่ถูกทางให้ถูกกาลเทศะ อาวุธนั้นจะทำอันตรายต่อผู้ใช้อย่างเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสทีเดียว

บุคคลผู้ใช้อาวุธดังกล่าวนั้นที่เห็นชัดคือขงเบ้งหรือมังกรมหัศจรรย์ ผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทรหรือรู้ในทุกเรื่องแบบคนแสนรู้ ต่อให้เรื่องที่ไม่รู้เลยก็ต้องบอกว่ารู้ไว้ก่อนเพื่อรักษามาดของความเป็นพหูสูตร

อย่างเดียวที่ขงเบ้งควรรู้แต่ไม่รู้สักนิดเพราะอวดรู้ไปทุกเรื่องคือ ไม่รู้ว่าเรื่องสามก๊กที่ตนเองรับบทเป็นพระเอกแสดงนำนั้น ในท้ายที่สุดพระเอกต้องตายตอนจบอย่างน่าเวทนาแบบคนหมดสภาพ

ความที่ขงเบ้งเชื่อมั่นตนเองอย่างสูงจนกลายเป็นหลงตนเองนั้น ทำให้ขงเบ้งเกิดความโอหังถึงขั้นตั้งฉายาตนเองเป็น “ ฮกหลงซินแส ”

ตามความหมายในภาษาจีน..ฟู่หลงเซียนเซิง 伏龙先生 fu long xian sheng หมายถึงอาจารย์ผู้สยบมังกร

หากพิจารณาตามชื่อสำเนียงภาษาไทย..ฮกหลง เห็นควรแปลว่า ผู้ชอบโกหกจนลุ่มหลง หรือ โกหกจนติดเป็นนิสัยถาวรนั่นแหละครับ ซึ่งเหมาะเจาะกับพฤติกรรมอันแท้จริงของท่านที่ชอบทำอะไรๆในลักษณะหมกเม็ดอยู่บ่อยๆ
ซึ่งเหตุนี้ ทำให้ท่านอาจารย์สุมาเต๊กโช ( ซือหม่าเต๋อเชา ) 司马德操 si ma de cao ผู้มีฉายา..สุ่ยจิ้งเซียนเซิง 水镜先生shui jing xian sheng แปลว่าซินแสกระจกเงา อันหมายถึงผู้รู้แจ้งเห็นจริงซึ่งเป็นผู้ทรงภูมิปัญญาแท้จริงได้เปลี่ยนฉายาให้ขงเบ้งใหม่เป็น..โว่หลงเซียนเซิง 卧龙先生 wo long xian sheng หมายถึงอาจารย์มังกรไสยาสน์ ซึ่งถูกต้องตรงตามตัวจริงเสียงจริง พฤติกรรมจริง ของขงเบ้งมากกว่า

ถ้าท่านอ่านเรื่องสามก๊ก ไม่ว่าจะเป็นฉบับประวัติศาสตร์ หรือ ฉบับนวนิยายอย่างใช้สมองมากขึ้นอีกสักนิด จะเห็นชัดเจนว่าขงเบ้งเป็นผู้หลงตนเองซึ่งชอบอวดรู้และเป็นเผด็จการยิ่งกว่าใครในยุคสามก๊ก ไม่ใช่โจโฉอย่างที่หลายคนหลงเข้าใจผิดหรอกครับ

ท่านลองทบทวนอ่านสามก๊กดูให้ดีๆ เถิด จะเห็นว่าโจโฉค่อนข้างจะใจกว้างชอบฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และบางทีตนเองผิดพลาดพลั้งเผลอไปบ้างก็จะตำหนิตนเองโดยไม่รู้สึกว่าเป็นการเสียหน้า ผิดกับขงเบ้งซึ่งมีความดันทุรังสูง

ขงเบ้งนั้น ไม่ชอบฟังความคิดเห็นของผู้อื่นที่ผิดแปลกแตกต่างไปจากตน ชอบแต่คนที่ประจบสอพลอยกยอให้ขงเบ้งฉลาดหลักแหลมปานเทพยดาก็จะยิ้มแก้มปริเป็นคางสี่เหลี่ยม ขงเบ้งน่าจะมีชื่อเป็นไทยๆ “ ขงเบ่ง ” แบบชอบอวดเบ่งเก่งไปทุกเรื่อง

ดังนั้น คนที่รู้จักประจบสอพลอจึงมักเป็นที่พอใจของขงเบ้งมอบหมายให้ทำงานใหญ่ๆ ไม่ว่าจะมีฝีมือหรือความคิดอ่อนด้อยแค่ไหนก็ไม่มีความหมาย เพราะขงเบ้งคิดจะแต่งตั้งใครให้ดำรงตำแหน่งใดๆ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือหรือสติปัญญา แต่ขึ้นอยู่กับความพอใจของขงเบ้งเป็นสำคัญ

คณะรัฐมนตรีของขงเบ้งจึงเรียกได้ว่าเป็น คณะรัฐมนตรีตุ๊กตา..ขุ่ยเหล่ยเก๋อหยวน傀儡阁员 kui lei ge yuan สุดแล้วแต่ขงเบ้งจะให้เป็นรัฐมนตุ๊กไป อยู่ตำแหน่งไหนได้ทั้งนั้น เพราะความจริงแล้ว ขงเบ้งนั่นเองเป็นรัฐมนตรีว่าการทุกกระทรวงครอบจักรวาลไปหมด รวมทั้งเป็นโฆษกรัฐบาลตัวจริงเสียงจริงคุยจ้อได้ทุกเรื่องแบบว่ามีข้อมูลเป็นผักบุ้งสักนิดหน่อยก็เก็บไปฝอยได้น้ำท่วมทุ่งทุกสัปดาห์

ถ้าท่านไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ลองอ่านดูถึงแผนการทำศึกสงครามหรือการวางแผนใดๆ ก็ตาม ขงเบ้งไม่เคยปรึกษาหารือกับใครโดยจัดการเขียนแผนนั้นใส่ไว้ในถุงต่างๆ มอบให้ผู้ถือถุงนำไปปฏิบัติ ท่านลองคิดดูเถิดครับ ผู้รับงานไปปฏิบัติโดยไม่ต้องมีความคิดของตัวเองเพียงแค่เปิดถุงดูตามวันเวลาที่ขงเบ้งกำหนดไว้จะทำงานให้ดีอย่างไร

ขอยกตัวอย่างรัฐมนตุ๊กท่านหนึ่งซึ่งขอใช้นามสมมติ.. สุมานิด.. รายนี้เป็นสตรีด้วยนะครับ เจ๊นิดเป็นคนสนิทที่ขงเบ้งไว้วางใจน่าดู เพราะเจ๊นิดก็รูปร่างหน้าตาน่าเอ็นดูจริงๆ ขงเบ้งจึงมอบงานสำคัญให้เจ๊บ่อยๆ ไม่ว่าจะให้ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

คราวหนึ่งถึงขนาดให้เจ๊นิดไปทำไร่ไถนา เจ๊รีบทำหน้าสวยไปกำเคียว ทำท่าทะมัดทะแมงเกี่ยวข้าว ภาพออกมากลายเป็นข่าวฮือฮาไปหลายวันใครไม่อยากตกเป็นข่าวแบบนี้ อย่าทำหน้าสวยไปกำเคียวเป็นอันขาดนะจะบอกให้
กำลังโหลดความคิดเห็น