คนหมู่มากย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกันไปตามภูมิความรู้และวุฒิภาวะของแต่ละคน หลังจากที่มนุษย์มาอยู่รวมกันมากๆ จนกลายเป็นสังคมขึ้นมา เกิดการจัดระเบียบเพื่อให้สังคมนั้นอยู่กันราบรื่น
องค์กรสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ในการออกระเบียบต่างๆ คือ ที่ประชุม
ตามความหมายของสังคมที่เจริญนั้น ที่ประชุมคือสถานที่ผู้คนมาร่วมปรึกษา หารือกันเพื่อช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดีงามออกมาเป็นบรรทัดฐานให้สังคมนั้นนำไปยึดถือปฏิบัติตาม
ที่ประชุมมีระดับต่างๆ ตั้งแต่ที่ประชุมภายในครอบครัว ภายในหมู่บ้าน กระทั่งถึงที่ประชุมระดับประเทศ ระดับโลก ฯลฯ ซึ่งนิยมเรียกกันว่า..สภาที่ประชุม หรือเรียกย่อๆ ว่า..สภา
แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ประชุมสภาระดับใดทั้งนั้น ต้องมีลักษณะสำคัญคือการที่ผู้เข้าประชุมมาปรึกษาหารือกันอย่างใช้หัวสมอง แล้วใช้การพูดจาอย่างมีคุณธรรมในทางที่ถูกที่ควร เพื่อกลั่นกรองสาระที่มีประโยชน์ออกมาใช้เป็นระเบียบปฏิบัติหรือกฎหมายต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นกฎเกณฑ์ของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
จีนเรียกการประชุมปรึกษาหารือว่า..ยี่ 议 yi และเรียกสภาที่ประชุม..ยี่ย่วน议院yi yuan ส่วนสมาชิกที่เข้าประชุมเรียก..ยี่หยวน 议员yi yuan โปรดออกเสียงให้ถูกนะครับ อย่าออกเสียงเป็น สภายียวน หรือ สมาชิกยี้หยวน
มันจะกลายเป็นสภาเละเทะยิ่งกว่าสภาโจ๊ก
ดูจากคำ..ยี่ 议 yi อันหมายถึงประชุมปรึกษาหารือ มาจากคำเดิม ๒ คำรวมกันเป็นคำใหม่ได้แก่
เหยียน 言 yan อันเป็นคำที่เกิดจากคนมากมายหลายๆ คนมาใช้ปากสื่อสารกันกลายเป็นภาษาพูด หรือ คำพูด
ยี่ 义 yi อันเป็นคำที่เกิดจากคนสองคนหรือสองฝ่ายมาร่วมจับมือกัน สาบานกันด้วยหยดเลือดที่อยู่ตรงกลางเพื่อรักษาคุณธรรม
ฉะนั้น สมาชิกสภาใดๆ ก็ตาม ย่อมสื่อความหมายถึงการที่ผู้คนหลายหลากซึ่งมีความคิดความเห็นต่างๆ กัน มาร่วมปรึกษาหารือกันอย่างมีคุณธรรมด้วยกัน
แม้ว่าจะต้องแยกออกเป็นสองฝ่าย ตามสภาพที่ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายบริหาร อีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายค้านเพื่อคานอำนาจ แต่การประชุมในสภานั้นจะต้องลงเอยด้วยการกำหนดกรอบเกณท์ต่างๆ ออกมาอย่างมีคุณธรรมเพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม
การประชุมสภาใดๆ ที่มิได้ดำเนินการไปตามจุดมุ่งหมายดังกล่าวย่อมไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องแท้จริง
ยิ่งการประชุมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนของบางคน บางกลุ่ม บางแก๊ง โดยใช้วิธีพวกมากลากไป ยิ่งไม่ใช่สภาที่ประชุมอย่างมีคุณธรรม ถ้าไม่เรียกว่าสภาโจร ก็ต้องเรียกสภาทดแทนบุญคุณของคนที่ให้ข้าวให้น้ำเท่านั้น
โลกทุกวันนี้ คับแคบลงมาก เราได้เห็นบ่อยๆ ถึงสภาบางแห่งซึ่งประชุมกันอย่างอลเวง มีการทะเลาะวิวาทต่อยตีถึงขั้นกัดกันก็เคยมี โดยสมาชิกสภาหญิงปะทะคารมกับสมาชิกสภาชายอย่างรุนแรงแล้วเดินปรี่เข้าหากัน
สมาชิกสภาหญิงใช้เล็บตะปบและใช้ฟันกัดฝ่ายชาย ส่วนสมาชิกสภาชายโน้มคอฝ่ายหญิงลงมาตีเข่า เชื่อว่า คงมีท่านที่จำภาพเหตุการณ์ของสภาสิงสาราสัตว์ที่ว่านี้ได้โดยไม่ต้องออกชื่อว่าเป็นสภาของคนพันธุ์ไหน
บัดนี้ เราคุยว่าจะเป็นยุคสภาโกอินเตอร์
ทว่า แค่ประชุมนัดแรกๆ ไม่กี่ครั้ง ภาพข่าวการประชุมที่ไม่ราบรื่นกลับกลายเป็นหัวข่าวใหญ่ไปทั่วโลก
คงโกอินเตอร์สมใจอยากแล้วละ แต่เป็นภาพที่เราอยากให้คนชาติอื่นๆ เห็นกันกระนั้นหรือ ท่านผู้เจริญ !!!
แทนที่สมาชิกสภาผู้มีเกียรติตามที่ยกย่องกันอย่างยิ่งจะมาประชุมปรึกษาหารือกันด้วยสมองที่กลั่นกรองสิ่งต่างๆ อย่างรอบคอบ บางคนกลับทำเรื่องไม่เหมาะสมใช้วาจาเสียดสีตีชิ่งกลิ้งไปกลิ้งมา
ฝ่ายประธานป้ายแดงก็แข็งปั๋งแกร่งกร้าวห้าวหาญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน งานประชุมซึ่งควรใช้หัวมากกว่าจึงต้องลงเอยด้วยการใช้เท้า เดินออกจากที่ประชุมกันด้วยความหัวเสีย
น่าสงสารการเมืองระบอบสภาที่มีทีท่าจะไปได้สวย
โปรดสำเหนียกด้วยนะครับ มีตัวอย่างหลายประเทศที่มีสภาแบบเสียงท่วมท้นยังต้องเจอเหตุการณ์ “ อยู่ได้ด้วยฝ่ามือ แตกฮือเพราะฝ่าเท้า ”
องค์กรสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ในการออกระเบียบต่างๆ คือ ที่ประชุม
ตามความหมายของสังคมที่เจริญนั้น ที่ประชุมคือสถานที่ผู้คนมาร่วมปรึกษา หารือกันเพื่อช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดีงามออกมาเป็นบรรทัดฐานให้สังคมนั้นนำไปยึดถือปฏิบัติตาม
ที่ประชุมมีระดับต่างๆ ตั้งแต่ที่ประชุมภายในครอบครัว ภายในหมู่บ้าน กระทั่งถึงที่ประชุมระดับประเทศ ระดับโลก ฯลฯ ซึ่งนิยมเรียกกันว่า..สภาที่ประชุม หรือเรียกย่อๆ ว่า..สภา
แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ประชุมสภาระดับใดทั้งนั้น ต้องมีลักษณะสำคัญคือการที่ผู้เข้าประชุมมาปรึกษาหารือกันอย่างใช้หัวสมอง แล้วใช้การพูดจาอย่างมีคุณธรรมในทางที่ถูกที่ควร เพื่อกลั่นกรองสาระที่มีประโยชน์ออกมาใช้เป็นระเบียบปฏิบัติหรือกฎหมายต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นกฎเกณฑ์ของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
จีนเรียกการประชุมปรึกษาหารือว่า..ยี่ 议 yi และเรียกสภาที่ประชุม..ยี่ย่วน议院yi yuan ส่วนสมาชิกที่เข้าประชุมเรียก..ยี่หยวน 议员yi yuan โปรดออกเสียงให้ถูกนะครับ อย่าออกเสียงเป็น สภายียวน หรือ สมาชิกยี้หยวน
มันจะกลายเป็นสภาเละเทะยิ่งกว่าสภาโจ๊ก
ดูจากคำ..ยี่ 议 yi อันหมายถึงประชุมปรึกษาหารือ มาจากคำเดิม ๒ คำรวมกันเป็นคำใหม่ได้แก่
เหยียน 言 yan อันเป็นคำที่เกิดจากคนมากมายหลายๆ คนมาใช้ปากสื่อสารกันกลายเป็นภาษาพูด หรือ คำพูด
ยี่ 义 yi อันเป็นคำที่เกิดจากคนสองคนหรือสองฝ่ายมาร่วมจับมือกัน สาบานกันด้วยหยดเลือดที่อยู่ตรงกลางเพื่อรักษาคุณธรรม
ฉะนั้น สมาชิกสภาใดๆ ก็ตาม ย่อมสื่อความหมายถึงการที่ผู้คนหลายหลากซึ่งมีความคิดความเห็นต่างๆ กัน มาร่วมปรึกษาหารือกันอย่างมีคุณธรรมด้วยกัน
แม้ว่าจะต้องแยกออกเป็นสองฝ่าย ตามสภาพที่ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายบริหาร อีกฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายค้านเพื่อคานอำนาจ แต่การประชุมในสภานั้นจะต้องลงเอยด้วยการกำหนดกรอบเกณท์ต่างๆ ออกมาอย่างมีคุณธรรมเพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวม
การประชุมสภาใดๆ ที่มิได้ดำเนินการไปตามจุดมุ่งหมายดังกล่าวย่อมไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องแท้จริง
ยิ่งการประชุมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนของบางคน บางกลุ่ม บางแก๊ง โดยใช้วิธีพวกมากลากไป ยิ่งไม่ใช่สภาที่ประชุมอย่างมีคุณธรรม ถ้าไม่เรียกว่าสภาโจร ก็ต้องเรียกสภาทดแทนบุญคุณของคนที่ให้ข้าวให้น้ำเท่านั้น
โลกทุกวันนี้ คับแคบลงมาก เราได้เห็นบ่อยๆ ถึงสภาบางแห่งซึ่งประชุมกันอย่างอลเวง มีการทะเลาะวิวาทต่อยตีถึงขั้นกัดกันก็เคยมี โดยสมาชิกสภาหญิงปะทะคารมกับสมาชิกสภาชายอย่างรุนแรงแล้วเดินปรี่เข้าหากัน
สมาชิกสภาหญิงใช้เล็บตะปบและใช้ฟันกัดฝ่ายชาย ส่วนสมาชิกสภาชายโน้มคอฝ่ายหญิงลงมาตีเข่า เชื่อว่า คงมีท่านที่จำภาพเหตุการณ์ของสภาสิงสาราสัตว์ที่ว่านี้ได้โดยไม่ต้องออกชื่อว่าเป็นสภาของคนพันธุ์ไหน
บัดนี้ เราคุยว่าจะเป็นยุคสภาโกอินเตอร์
ทว่า แค่ประชุมนัดแรกๆ ไม่กี่ครั้ง ภาพข่าวการประชุมที่ไม่ราบรื่นกลับกลายเป็นหัวข่าวใหญ่ไปทั่วโลก
คงโกอินเตอร์สมใจอยากแล้วละ แต่เป็นภาพที่เราอยากให้คนชาติอื่นๆ เห็นกันกระนั้นหรือ ท่านผู้เจริญ !!!
แทนที่สมาชิกสภาผู้มีเกียรติตามที่ยกย่องกันอย่างยิ่งจะมาประชุมปรึกษาหารือกันด้วยสมองที่กลั่นกรองสิ่งต่างๆ อย่างรอบคอบ บางคนกลับทำเรื่องไม่เหมาะสมใช้วาจาเสียดสีตีชิ่งกลิ้งไปกลิ้งมา
ฝ่ายประธานป้ายแดงก็แข็งปั๋งแกร่งกร้าวห้าวหาญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน งานประชุมซึ่งควรใช้หัวมากกว่าจึงต้องลงเอยด้วยการใช้เท้า เดินออกจากที่ประชุมกันด้วยความหัวเสีย
น่าสงสารการเมืองระบอบสภาที่มีทีท่าจะไปได้สวย
โปรดสำเหนียกด้วยนะครับ มีตัวอย่างหลายประเทศที่มีสภาแบบเสียงท่วมท้นยังต้องเจอเหตุการณ์ “ อยู่ได้ด้วยฝ่ามือ แตกฮือเพราะฝ่าเท้า ”