xs
xsm
sm
md
lg

ความขัดแย้งจีน-ญี่ปุ่น (อีกแล้ว)

เผยแพร่:   โดย: โชติช่วง นาดอน

เรื่องปัญหาข้อพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเกี่ยวกับดินแดนเกาะเล็กเกาะน้อยกลางมหาสมุทรแปซิฟิกนั้น ผมเคยเรียนไว้หลายครั้งแล้วในคอลัมน์นี้ ที่เขียนถึงบ่อยก็เพราะผมสังเกตว่าการกระทบกระทั่งกันระหว่างกระแสชาตินิยมจัดของคนสองชาตินี้เกิดถี่ขึ้น

ถึงแม้ความร่วมมือ การพึ่งพิง (แน่นอนว่าแม้ธุรกิจจะเป็นการแข่งขันต่อสู้ แต่มองให้ถึงที่สุดแล้ว ก็คือ ต่างฝ่ายต่างต้องพึ่งกันและกัน) ของจีน-ญี่ปุ่น จะเพิ่มมากขึ้นทุกขณะก็ตาม

แต่กระแสชาตินิยมของสองชาติ ก็ยังออกมาโจมตีกันอยู่ตลอด โดยเฉพาะกระแส Anti ญี่ปุ่นของชาวจีนนั้นปลุกได้ง่าย เพราะญี่ปุ่นสร้างความเจ็บช้ำไว้กับชาวจีนมากในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา และมาถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีการถลกแผลใหม่ๆ ออกมารดราดน้ำเกลืออยู่เรื่อยๆ

อย่างเช่นภาพยนตร์โทรทัศน์รายการ Timewatch ของ BBC ชุดจักรพรรดิฮิโรฮิโต มีเนื้อหาส่วนหนึ่งเล่าถึงการรุกรานดินแดนจีนของกองทัพญี่ปุ่น ข้อมูลใหม่ที่แตกต่างจากเดิมที่เคยเผยแพร่อยู่คือ จำนวนชาวจีนที่ตายและบาดเจ็บโดยอาวุธเคมีของกองทัพญี่ปุ่น

ตัวเลขชาวจีนที่ตายและบาดเจ็บในสงครามญี่ปุ่นรุกรานจีน (ค.ศ.1934-1945) นั้น คุณหวางกวงย่า ทูตจีนประจำสหประชาชาติ แถลงที่นครเจนีวาเมื่อเดือนมกราคมศกนี้ว่า ระหว่างสงครามญี่ปุ่นรุกรานจีนนั้น มีชาวจีนตายและบาดเจ็บอย่างน้อย 35 ล้านคน (จำเพาะในเมืองนานกิงเมืองเดียวก็มากกว่า 3 แสนคนแล้ว)

ตัวเลขชาวจีนที่ตายและบาดเจ็บโดยอาวุธเคมี (อาวุธเคมีนั้นละเมิดหลักกฎหมายและจริยธรรมสากล) นั้น โดยทั่วไปมักจะเข้าใจกันว่าประมาณ 1 หมื่นคน แต่จากคำพิพากษาศาลทหารหลังจากญี่ปุ่นแพ้สงครามแสดงตัวเลขที่สูงกว่านั้น คือ ระบุว่าในช่วงระหว่างค.ศ. 1931-1345 กองทัพญี่ปุ่นใช้อาวุธเคมีในดินแดนจีน 1312 ครั้ง ทำให้ชาวจีนตายและบาดเจ็บ 36,968 คน

นั่นเป็นตัวเลขหลังสิ้นสงครามใหม่ๆ แต่จากการค้นคว้าโดย BBC พบข้อมูลใหม่ว่า มีชาวจีนตายและบาดเจ็บโดยอาวุธเคมีของกองทัพญี่ปุ่นประมาณ 2 ล้าน 7 แสนคน

ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้ช่วยคลี่คลายปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่นเลย มีแต่จะเพิ่มความเคืองแค้นญี่ปุ่นให้เกิดขึ้นในใจคนจีนมากขึ้น ซึ่งปฏิกริยาจากชาวจีนชาตินิยมจัด ก็จะไปกระตุ้นกระแสชาตินิยมขวาจัดในญี่ปุ่นให้เติบโตขยายตัวขึ้น เป็นวงวัฏจักรเลวร้ายที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งในภูมิภาค

ปัญหาปัจจุบันที่อาจจะเป็นสาเหตุกระทบกระทั่งระหว่างจีน-ญี่ปุ่นในอนาคตอันใกล้นี้ก็เห็นจะเป็นปัญหาหมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ไถ (หอตกปลา) ซึ่งญี่ปุ่นอ้างสิทธิครอบครองอยู่

เมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อน ก็มีแต่ชาวจีนในไต้หวันที่ประท้วงเรื่องที่ญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองหมู่เกาะแห่งนี้ แต่บัดนี้ชาวจีนในแผ่นดินใหญ่ได้เคลื่อนไหวประท้วงเองด้วยมาประมาณสามปีกว่าแล้ว และล่าสุด กระแสเคลื่อนไหวประท้วงก็ได้ขยายไปถึงชาวจีนในฮ่องกงแล้วด้วย โดยเมื่อวันที่ 24 มกราคมศกนี้ องค์กร Democratic Alliance for Betterment of Hong Kong ไปประท้วงรัฐบาลญี่ปุ่นหน้าสถานทูตญี่ปุ่นประจำฮ่องกง

ปัญหามันอยู่ที่ว่า รอบๆ หมุ่เกาะเตี้ยวอวี๋ไถมีแหล่งน้ำมัน !

ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรมนำหน้าของโลก แต่ต้องพึ่งน้ำมันจากต่างประเทศ จะไม่ดีใจ หวงแหนดินแดนส่วนนี้ได้อย่างไร

ส่วนจีน แม้จะมีแหล่งน้ำมันเอง แต่ก็ไม่พอใช้ ต้องการแหล่งน้ำมันใหม่ๆ อีกมาก จีนเริ่มขุดเจาะสำรวจแหล่งน้ำมันใต้ทะเล ในดินแดนส่วนของจีน (ใกล้หมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ไถ) แล้ว ดังที่ผมเขียนรายงานไว้เมื่อประมาณสองเดือนก่อน ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นก็ประท้วงจีน ขอให้แจ้งรายละเอียดโครางการขุดเจาะสำรวจให้ทางญี่ปุ่นทราบด้วย ญี่ปุ่นอ้างว่า หลุมขุดเจาะของจีนอยู่ใกล้กับขอบเขตดินแดนของญี่ปุ่น น้ำมัน มันก็อยู่ในหลุมเดียวกันนั่นแหละ

และเพื่อตอบโต้จีน ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศแผนโครงการพัฒนาเกาะชงจือหม่า อันเป็นเกาะ (หรือหินโสโครก) ที่อยู่ตอนใต้สุดของหมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ไถ เกาะชงจือหม่านี้ ทางการจีนบอกว่า ไม่ใช่เกาะ มันเป็นแค่หินโสโครกใหญ่ที่อยู่เหนือน้ำ ซึ่งก็ถูกคลื่นลมกัดกร่อนจนผาหินจะพังลง แต่ทางการญี่ปุ่นก็เข้าไปก่อสร้างเสริมให้ผาหินนั้น มั่นคงแข็งแรงขึ้น เพื่อให้มันคงสภาพของเกาะเอาไว้

เกาะชงจือหม่านี้อยู่ห่างจากนครโตเกียว 1,730 กิโลเมตร และเขตแดนของญี่ปุ่นจะขยายออกไปได้อีก 200 ไมล์ทะเลรอบเกาะชงจือหม่า ซึ่ง 200 ไมล์ทะเลนี้ก็จะไปทับซ้อนกับเขตแดนทางทะเลของจีนแน่นอน

นอกจากนี้ ทางการญี่ปุ่นยังเริ่มอนุญาตให้ชาวประมงเข้าไปจับปลาในเขตรอบเกาะชงจือหม่าได้แล้ว แถมยังจะสร้างสถานีผลิตกระแสไฟฟ้าจากกระแสน้ำขึ้นน้ำลง และตั้งสถานีรายงานภูมิอากาศและกระแสน้ำ นั่นคือ ญี่ปุ่นจะเปลี่ยนกองหินโสโครกให้เป็นเกาะที่มีชีวิตผู้คน เพื่อที่จะได้ตอบโต้กับทางจีน

เรื่องราวการแข่งขันกันใช้ประโยชน์จากทรัพยากรใต้ทะเลแถบหมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ไถระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเพิ่งจะเริ่มต้น เราหวังว่าจะมีหนทางรอมชอมกันได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น