xs
xsm
sm
md
lg

สู่ ซานซี:ภูห้าหอ กับ เมืองในหุบ

เผยแพร่:   โดย: วริษฐ์ ลิ้มทองกุล


ท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม เมฆขาวเรียงตัวซ้อนกันเป็นชั้นๆ ส่วนเทือกเขาเขียวด้านล่างก็สานตัวเรียงกันไป คล้ายกับงานฝีมือถักทอชั้นเยี่ยม ที่มีเจ้าของผลงานเป็น ผู้ให้กำเนิดโลกใบนี้ หากไม่บอกว่าผมอยู่เมืองจีน ผมก็คงนึกว่า ผมฝันและพลัดหลงเข้าไปในภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music ซึ่งโชคดีที่ผมยังเกิดทันได้ชม ... : )

รถทัวร์ขนาด 20 ที่นั่ง ลัดเลาะ ทุ่งหญ้าที่ทอดตัวไปไกลสุดลูกหูลูกตา ผ่านเมืองเล็ก เมืองน้อย ข้ามภูเขาลูกแล้วลูกเล่า พาเราลึกเข้ามาในหุบเขา มายังหมู่บ้านที่มีชื่อว่า ไถหวย (台怀)

ไถหวย เป็นหมู่บ้านที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขา 5 ลูก อันถูกขนานนามว่า อู่ไถซาน (五台山) หรือ ภูห้าหอ และเป็นถูกจัดเป็นหนึ่งสี่ยอดภูพุทธแห่งแผ่นดินจีน อีกด้วย

สี่ยอดภูพุทธแห่งแผ่นดินจีน (四大佛教名山) นั้นประกอบด้วย
หนึ่ง ผู่ถัวซาน (普陀山) หรือ ภูพุทโธ แห่งมณฑลเจ้อเจียง
สอง จิ่วหัวซาน (九华山) หรือ ภูเก้าวิจิตร แห่งมณฑลอานฮุย
สาม เอ๋อเหมยซาน (峨眉山) หรือ ภูคิ้วนาง แห่งมณฑลเสฉวน ภูเขาแห่งนี้ชาวกำลังภายในเรียกว่า เขาง๊อไบ๊
และสุดท้ายคือ อู่ไถซาน (五台山) หรือ ภูห้าหอ แห่งมณฑลซานซี

สำหรับ "อู่ไถซาน" นั้นมียอดสำคัญอยู่ 5 ยอดโดยยอดที่สำคัญที่สุดก็คือ ยอดเหนือ (北台) ที่มีความสูงกว่า 3,058 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สูงจนถูกยกให้เป็นหลังคาของจีนตอนเหนือ

ผมเคยสงสัยว่า มี 5 ยอดภูแห่งแผ่นดินจีน หรือ อู่เยว่ (五岳) แล้วทำไมยังมี 'ยอดภู' แบบอื่นอีกด้วย?

คำตอบที่พบก็คือ ภูเขาของเมืองจีนนั้นมีมากมายนับกันไม่ถ้วน ภูสวยๆ นอกเหนือจาก "อู่เยว่" แล้วก็ยังมียอดภูทิวทัศน์เยี่ยม สี่ยอดภูเต๋า สี่ยอดภูพุทธ* (สังเกตดีๆ ว่า ภูเขาที่ขึ้นชื่อว่าสวย ไม่ว่าจะขึ้นไปยากลำบากลำบนเพียงใด ก็มักจะมีผู้ศรัทธาในศาสนา ดั้นด้นขึ้นไปสร้างวัดจองโลเกชั่นไว้อยู่แล้ว)

สำหรับมณฑลซานซี จุดหมายของเราคราวนี้ก็เหมาะที่จะได้ชื่อว่า ซานซี จริงๆ เพราะ เป็นมลฑลเดียวของจีนที่มีทั้ง "5 ยอดภูแห่งแผ่นดินจีน" และ "4 ยอดภูพุทธ" .... สาเหตุที่มาของชื่อ ซานซี อันนี้อย่าคิดมากครับ เพราะเป็นข้อสังเกตสนุกๆ ของผมเอง

เมื่อได้สัมผัสของจริงแล้ว ผมก็พบว่า "อู่ไถซาน" สมควรที่จะได้ชื่อเป็นหนึ่งในสี่ยอดภูพุทธจริงๆ เพราะ ตัวเลขบอกว่า ในบริเวณเขาทั้ง 5 ลูกนี้มีวัดพุทธอยู่มากถึง 47 แห่ง โดยแบ่งเป็น ส่วนในอ้อมกอดของเทือกเขา (台内) 39 แห่ง และด้านนอก (台外) อีก 8 แห่ง**

หากผู้มาเยือนไม่ได้เป็น "แฟนพันธุ์แท้" ตัวจริง หรือ เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาอย่างแรงกล้าแล้วละก็ คงมีน้อยคนนักที่จะไปเหยียบให้ครบทุกวัด

วัดสำคัญๆ ของ อู่ไถซาน ส่วนใหญ่แล้วก็ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านไถหวย ที่ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพจากหมู่บ้านการเกษตร กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอันคึกคักไปเสียแล้วด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังของอู่ไถซาน โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม หน้าร้อนของเมืองจีน

วัดเสี่ยนทง (显通寺) เป็นวัดที่ได้ชื่อว่ามีความเก่าแก่และมีเนื้อที่ใหญ่โตที่สุดของวัดในบริเวณอู่ไถซาน โดยความเก่าแก่ของ วัดแห่งนี้นั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศจีน เนื่องจากมีอายุเกือบ 2,000 ปีแล้ว โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.68 ในสมัยฮั่นตะวันออก (东汉:ค.ศ.25-220) เรียกได้ว่าความเก่าแก่เป็นรองเป็น วัดม้าขาว (白马寺) วัดพุทธแห่งแรกของประเทศจีนที่ตั้งอยู่ที่ ลั่วหยาง มณฑลเหอหนานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ความน่าสนใจของวัดเสี่ยนทง ไม่เพียงอยู่ที่ความเก่าแก่ แต่ยังอยู่ที่ศาลา และวิหาร ที่ในแต่ละยุคสมัยได้มีการสร้างเพิ่มเติมให้มีความความสวยงามผิดแผกกันไป อย่างเช่น วิหารไร้คาน (无量殿:Beamless Hall) อันเป็นวิหารทรงตะวันตกสีขาวปลอด ไม่มีคานรองรับ และสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง

วิหารทองแดง (铜殿) สร้างขึ้นด้วยทองแดงกว่า 10,000 ชั่ง (5,000 กิโลกรัม) 1 ใน 3 แห่งที่มีในจีน (อีกสองแห่งคือ เอ๋อเหมยซาน เสฉวน และ เป่าหัวซาน เจียงซู) ภายหลังได้มีการทาสีทองทับอีกครั้ง และภายในก็บรรจุพระพุทธรูปขี่สิงโต และพระพุทธรูปองค์เล็กๆ อีกกว่า 10,000 องค์

ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม มรดกเก่าแก่ทางศาสนาเหล่านี้ หลุดรอดจากการทำลายล้างของบรรดาเรดการ์ดมาได้ก็เพราะ การเดินทางผ่านเทือกเขาอันสลับซับซ้อนเข้ามายังหมู่บ้านพุทธ ไถหวยนี้มีความยากลำบากอย่างยิ่ง

วัดถ่าย่วน (塔院寺) หรือ เรียกกันว่า วัดเจดีย์ขาว (大白塔) เนื่องจากวัดแห่งนี้ภายในมี เจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของ อู่ไถซาน เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสถูปแบบทิเบตสูง 53.37 เมตร อันถือว่าสูงที่สุดในประเทศจีน

ศาสนสถาน อีกหนึ่งแห่งที่เป็นไฮไลต์ของอู่ไถซาน ก็คือ วัดไต้หลัวติ่ง (黛螺顶)

การขึ้นไปที่วัดไต้หลัวติ่งนั้นมี รถกระเช้าขึ้นไปในราคา 25 หยวน แต่ถ้าหากศรัทธาจริงก็ไม่ต้อง "ใช้เงิน" แต่ "ใช้แรง" เพียง 1,080 ขั้นเท่านั้นเอง

ระหว่างทางเดินขึ้นยอดของวัดแห่งนี้ ไม่ได้มีเสน่ห์เพียงแค่ความสูง หรือ ทิวทัศน์ที่เมื่อยิ่งขึ้นไปสูงมองลงมาก็ยิ่งสวยเท่านั้น แต่เมื่อผมมองไปรอบตัว ตามรายทางก็จะพบกับ พระและผู้ศรัทธา ในศาสนา ที่ใช้วิธีเดินขึ้นไปพลาง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนเขาไปพลาง ทีละขั้น ทีละขั้น

ผู้ศรัทธาจริงๆ จะกราบแบบ "อัษฎางคประดิษฐ์" ซึ่งเป็นการกราบแบบนอนราบของชาวทิเบต เวลากราบตัวจะไถไปกับพื้นดิน (หรือถ้าขึ้นบันไดก็ขั้นบันได) หัวบริเวณส่วนหน้าผากก็ย่อมไถไปกับพื้นดินด้วย ดังนั้นผู้ที่กราบแบบนี้ส่วนใหญ่ ถ้าไม่สวมหนังสัตว์บริเวณหัวเข่า ข้อศอก และบริเวณส่วนหน้าอกลงไปถึงท้อง เสื้อผ้าและส่วนหน้าของร่างกายก็จะถลอกปอกเปิกไปหมด ..... หากไม่ได้มาเห็นกับตาก็คงไม่เชื่อ

วัดผู่ฮั่ว (普化寺) เป็นวัดที่ด้านหลังอิงกับภูเขา อันสงบเงียบ วัดแห่งนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวคึกคักจนเกินไปนักเนื่องจากไม่ได้อยู่ในบริเวณศูนย์กลางของไถหวย แต่ก็น่ามาเยือนเนื่องจากมีกำแพงบังตา (照壁; แบบที่มีในซื่อเหอย่วน หรือ บ้านทรงโบราณของจีนที่มีลานอยู่กลางบ้าน) สวยงามและใหญ่ที่สุดของวัดในบริเวณอู่ไถซาน นอกจากนี้ยังมี วิหารพระนอน ซึ่งประทับอยู่ด้านหลัง

มา 'ซานซี' เที่ยวนี้จะเรียกว่า ผมและคณะมา "ทัวร์ไหว้พระ" ก็คงได้ เพราะคำนวณดูจำนวนวัดที่ไปเยือนแล้วดูเหมือนว่า นิ้วมือกับนิ้วเท้าที่มีในร่างกายนั้นยังไม่พอให้นับครบ
........................................
เกือบ 2 ทุ่มแล้ว ฟ้าที่อู่ไถซานก็ยังไม่มืด ผมเดินตามรอยทางม้า ขึ้นไปบนเนินเขาแห่งหนึ่ง เมื่อหาที่ว่างเหมาะๆ ได้ ผมก็นั่งลงหันหน้ามองไปยังหมู่บ้านที่อยู่เบื้องล่าง

ควันขาวบางๆ ถูกปล่อยออกมาจากปล่องควัน ลอยผ่านกลุ่มวัดขึ้นไปช้าๆ แล้วสลายไปเมื่อเจอกับแสงแดดสุดท้ายแห่งวัน

พระอาทิตย์เริ่มโรยตัวลับขอบฟ้าไปทีละน้อย ทีละน้อย เมฆสีขาวปนเทา เมื่อกระทบกับแสงแดดจึงสะท้อนออกมาเป็นสีทองอร่าม สำหรับผม คนเมือง ผู้จากบ้านมาไกลแสนไกล ณ ช่วงเวลานั้นถือเป็น ช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นทางจิตใจที่หาเสพไม่ได้ง่ายๆ นัก

Tips สำหรับการเดินทาง:
- การเดินทางจากต้าถง ไป อู่ไถซาน วิธีซึ่งประหยัดที่สุดก็คือ การซื้อทัวร์ โดยสำนักงานใหญ่ของ CITS ที่ต้าถงนั้นอยู่ในโรงแรมหยุนกัง (云冈宾馆) โดยราคาทัวร์ 2 วัน 1 คืน รวมค่ารถ ที่พัก อาหารสามมื้อ และค่าบัตรเข้าชม นั้นอยู่ 330 หยวนต่อคน หรือ ถ้าหากไม่อยากไปกับ CITS ก็มี ทัวร์คังฮุย (康辉) ซึ่งก็มีสำนักงานตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมหยุนกังเช่นกัน
- ปัจจุบันเส้นทางระหว่าง ต้าถง-อู่ไถซาน นั้นค่อนข้างสะดวกสบายเพราะใช้เวลาเดินทางราว 4 ชั่วโมงครึ่งถึง 5 ชั่วโมง โดยเส้นทางดังกล่าวนั้นผ่าน เจดีย์ไม้ (木塔) ที่มีอายุเกือบ 1,000 ปีด้วย

อ้างอิงจาก :
*หนังสือจงกั๋วหลี่ว์โหยวตี้หลี่ (中国旅游地理) ปี ค.ศ. 2003 โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแร่ธาตุจีน
**คู่มือแนะนำอู่ไถซาน โดยหน่วยงานของรัฐบาลจีนที่ดูแลเขตอู่ไถซาน









กำลังโหลดความคิดเห็น