...คืนที่อากาศร้อนจัดในเดือนกรกฎาคม ปี 1976 ใกล้เช้ามืดของวันใหม่ (วันที่ 28)
เวลาปักกิ่งตี 3 : 42 นาที 53.01 วินาที แสงวาบสีฟ้ากระพริบถี่ๆเหนือท้องฟ้าเมืองถังซัน ฟ้าร้องครืนคราง แล้วฉับพลันผืนดินก็สนั่นหวั่นไหว พร้อมเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง ระคนเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก ไม่กี่อึดใจต่อมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็พินาศราบเป็นหน้ากลอง ฝุ่นควันสีเทาลอยคลุ้ง ทั้งเมืองตกอยู่ในความเงียบงัน...
เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.8 ริกเตอร์ ความรุนแรงระดับ 11 ลึกลงไปใต้พื้นดินราว 11-16 กิโลเมตร ที่เมืองถังซัน สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ศูนย์กลางการสั่นสะเทือนในเขตอำเภอไคผิง เป็นรูปวงรีกว่า 47 ตร.กม. ทั่วอาณาเขตเมืองถังซันยังได้รับผลกระทบแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ระดับความรุนแรงต่างๆกัน รวมทั้งสิ้นราว 33,320 ตร.กม. และความรุนแรงระดับ 6 ที่เมืองทางเหนือขึ้นไปถึงเฉิงเต๋อ ใต้สุดที่เมืองชังโจว และพื้นที่บางส่วนแถบชานเมืองปักกิ่ง
แผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ รุนแรงกว่าแรงระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิม่าของญี่ปุ่นถึง 400 เท่า เกิดขึ้นภายในเวลาประมาณ 14-16 วินาที คร่าชีวิตชาวถังซันไปถึง 242,769 คน บาดเจ็บสาหัส 164,851 คน ทำลายอาคารบ้านเรือนไปกว่า 656,100 หลัง และสร้างความเสียหายให้กับระบบขนส่ง ไฟฟ้า น้ำประปา เส้นทางคมนาคมทั้งเมือง คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 3,000 ล้านหยวน
แผ่นดินไหวเมืองถังซัน...คือฝันร้ายของชาวเมืองถังซัน อีกยังเป็นมหันตภัยและโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ ในรอบ 50 ปี ภายหลังการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน...
แผ่นดินไหวจู่โจมที่ไหน ?
28 กรกฎาคม 1976 เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 - 8.1 ริกเตอร์ เมื่อเวลาราว 3 นาฬิกา 42 นาที
สถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว และสถานีสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ที่ฮ่องกง กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวัน สื่อยักษ์ใหญ่ในซีกโลกตะวันตก ฯลฯ ต่างออกประกาศและเผยแพร่ข่าวมหันตภัยนี้สู่ชาวโลกหลังเกิดเหตุไม่กี่นาที ข้อความข่าวหลายชิ้นรายงานตรงกันว่า เกิดเหตุที่ลองจิจูด 118.2 องศาตะวันออก ละติจูด 39.6 องศาเหนือ มันห่างจากกรุงปักกิ่งไปไม่ไกลนักทางตะวันออกเฉียงใต้ ดูเหมือนใครๆก็รู้แล้วว่าเกิดแผ่นดินไหวใกล้กรุงปักกิ่ง แต่ไม่อาจระบุสถานที่ที่แน่ชัดได้
ระดับความรุนแรงสุงสุด 11 ต่ำสุด 6 แม้ขณะเกิดแผ่นดินไหว อาคารสูงแถบจัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง ยังรู้สึกได้ถึงการโยกคลอนไปมาของเสาและคาน อนุสาวรีย์วีรชนกลางจัตุรัสฯก็มีอาการสั่นไหวจนสังเกตได้ แรงสั่นสะเทือนแผ่ขยายไปถึงนครเทียนจิน ทำให้บ้านเรือนบางส่วนถล่ม รวมถึงมณฑลและเขตปกครองตนเองทางเหนือ อาทิ มองโกเลียใน หนิงเซี่ย เฮยหลงเจียง ยังรับรู้ถึงการไหวเล็กน้อยของผืนดิน
เช้ามืด เวลาตี 4 : 30 นาที องค์การแผ่นดินไหวแห่งชาติ(จีน)ได้รับโทรเลขด่วน รายงานการเกิดแผ่นดินไหวจากสถานีประจำเมืองหนันจิง(นานกิง) หลันโจว คุนหมิง และจากเมืองอื่นๆอีกรวม 10 แห่ง มี 6 สถานีที่ระบุแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ แต่ตัวเลขแตกต่างกันมาก บ้างต่ำกว่า 7 ริกเตอร์ บ้างสูงกว่า 8 ริกเตอร์ ทว่าจุดศูนย์กลางการสั่นสะเทือนไม่สามารถระบุได้ คาดเดาได้เพียงว่า ‘อยู่ใกล้กรุงปักกิ่ง’
6 นาฬิกา องค์การสื่อสารและโทรเลขจีนรายงานว่า ขณะทำการติดต่อไปยังสถานีย่อยต่างๆทั่วประเทศ มีเพียงสถานีประจำเขตถังซันเท่านั้นที่สัญญาณขาดหาย หลังจากเจ้าหน้าที่พยายามทดสอบอยู่อีกระยะหนึ่ง ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับ....
................................
เมืองถังซัน มณฑลเหอเป่ย ห่างจากกรุงปักกิ่ง 154 กิโลเมตร ขณะนั้นเป็นเวลาพักผ่อนหลับใหลของชาวเมือง ใกล้เช้ามืดของคืนที่ร้อนอบอ้าว ในชั่วไม่กี่วินาทีหลังจากเวลาตี 3 : 42 นาที ประชากรกว่า 1 ล้านคนในเมืองอุตสาหกรรมขนาด 85 ตร.กม. ตกเป็นเหยื่อแผ่นดินไหวหฤโหด โดยไม่คาดฝัน และไม่มีการเตรียมระวังภัยล่วงหน้า
และกว่าที่ผู้คนภายนอกจะรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ วิญญาณกว่าแสนชีวิตได้หลุดลอยจากร่างไปแล้ว
ไม่มีหน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน !
หลังแผ่นดินไหวสงบ ผู้เคราะห์ร้ายยังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ประชาชนที่รอดชีวิตรวมตัวกันสร้างที่พักชั่วคราวขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย บางกลุ่มช่วยกันขุดซากที่ทับถมเพื่อนบ้านของเขา และคนอื่นๆก็พยายามหาอาหารเท่าที่หาได้มาช่วยเหลือกันเอง
ผู้รอดชีวิตจากการไหวครั้งแรก ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ได้รับความช่วยเหลือ 80% หลังจากการไหวครั้งที่สอง(อัฟเตอร์ช๊อค) ระดับ 7.1 ริกเตอร์ ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน ความหวังของอีกหลายชีวิตก็ถูกฝัง
พยาบาลเฟิงเฉิงป๋อ แห่งโรงพยาบาลทหารบก 255 ขณะเกิดเหตุเธอเข้าเวรอยู่ โชคร้ายที่ร่างกายท่อนล่างถูกทับอยู่ใต้เพดานชั้นบนของตึกที่ถล่มลงมา เพื่อนๆช่วยกันพยายามงัดซากตึกออกจากตัวเธอ แต่ก็ไม่สำเร็จจำเป็นต้องใช้ปั้นจั่น เลือดก็ยังคงไหลไม่หยุด ขณะที่รอเครื่องไม้เครื่องมือและเลือดมาช่วยเหลืออยู่นั้น เพื่อนๆทราบดีว่าเฉิงป๋อกำลังเดินเข้าสู่ความตาย พวกเขาผลัดกันมาอยู่ข้างๆเธอเพื่อปลอบขวัญ บางคนตักแตงโมเป็นคำๆป้อนใส่ปาก จนในที่สุดเฉิงป๋อได้ขอให้เพื่อนหวีผมให้เธอ และนั่นคือคำขอสุดท้ายที่พยาบาลสาววัย 20 ปีได้รับก่อนจากโลกนี้ไป
ผู้รอดชีวิตรายหนึ่งย้อนอดีตว่า หลายคนที่ค่อยๆปีนออกมาจากซากปรักหักพัง ยังงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น บ้างเข้าใจว่าถังซันถูกระเบิดลง แต่ละคนไม่ว่าชายหญิง ล้วนไม่ได้สวมเสื้อผ้าอยู่ บางคนอยู่ในชุดตัวละครแปลกๆ ชุดทหาร ชุดนอนของคนต่างชาติ ชายชราคนหนึ่งออกมาทั้งกระโปรงลายดอกของสตรี ซึ่งเข้าใจว่าคงหยิบเอาตามร้านค้าใกล้เคียงในช่วงโกลาหลนั้นเอง เนื่องจากคืนนั้นอากาศอบอ้าวมาก บางคนนอนใส่เสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชิ้น บางคนก็เพิ่งตื่นจาก ‘ฝันร้าย’ ทั้งที่เปลือยอยู่
เวลาสายของวันนั้น หลายคนหลับหูหลับตาหนีตายมาที่สนามบิน ทำให้ยาฉุกเฉินที่สนามบินเริ่มไม่เพียงพอ ต่อผู้ป่วยที่หลั่งไหลมาแออัดขึ้นเรื่อยๆ ในเวลานั้น ถังซันไม่มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มีเพียงหน่วยงานสาธารณสุข พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาล 40 คน หน่วยเดียวเท่านั้น ผู้เคราะห์ร้ายหลายรายหันหลังกลับเข้าเมือง เมื่อต้องพบกับสภาพเมืองที่พังพินาศ แม่น้ำที่กลายเป็นสายเลือด ทุกหนแห่งมีแต่ศพที่น่าอเนจอนาถ พวกเขาไม่มีที่ไปอีกแล้ว หลายคนสะอื้นไห้อยู่ตรงนั้น และรอคอย
บ่าย 2 โมง เครื่องบิน 3 ลำบรรทุกหน่วยรักษาพยาบาลจากมณฑลเหลียวหนิงมาถึงเป็นหน่วยแรก เวลาบ่าย 4 โมง หน่วยรักษาพยาบาลจากท้องที่ต่างๆกว่า 400 หน่วยเข้าถึงถังซัน ได้นำพยาบาลและแพทย์อีกกว่า 10,000 คน เข้าช่วยชีวิตเหยื่อแผ่นดินไหวถังซันในเวลาต่อมา และในเย็นวันนั้นโรงพยาบาลกลางกองทัพปลดแอกก็ตั้งศูนย์ผ่าตัดฉุกเฉินขึ้นที่สนามบิน 3 จุด
..................................
วันที่ 30 กรกฎาคม 2 วันหลังจากนั้น รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนออกคำสั่ง นำส่งผู้ป่วยจากเหตุแผ่นดินไหวเมืองถังซัน เข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลในเมืองและมณฑลต่างๆทั่วประเทศ 11 แห่ง บันทึกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 1976 รัฐบาลต้องขนส่งผู้ป่วยทั้งหมดด้วยรถไฟ 199 เที่ยว และทางอากาศอีก 470 เที่ยวบิน รวมผู้ป่วยทั้งสิ้น 100,623 ราย
.................................
ความเสียหายเกิดขึ้นทั่วทุกหย่อมหญ้า การบูรณะฟื้นฟูไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอาหารเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด ซึ่งบางส่วนยังต้องส่งเข้ามาทางร่มชูชีพ แต่อย่างไรก็ตามการแจกจ่ายอาหารก็ยังเข้าไปไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะน้ำเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขาดแคลนอย่างหนัก หลายคนจำต้องพึ่งพาน้ำที่มีสารปนเปื้อนอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว
บ้านกลายเป็นสุสานของศพที่ถูกฝังทั้งที่ยังนอนหลับ บางศพถูกกลบอย่างง่ายๆข้างที่พักของเขา ภายหลังได้ส่งผลกระทบด้านสุขอนามัย เมื่อฝนตกศพก็จะโผล่ขึ้นมาอีก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขุดศพขึ้นมาเผานอกเมือง
16 วันหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ผู้อำนวยการวังเฉิงหมิน แห่งองค์การแผ่นดินไหวแห่งชาติ ได้รับผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกว่า 300 ฉบับ เสนอให้พิจารณาเหตุการณ์ที่ถังซันเป็นบทเรียน และเรียกร้องให้มีการศึกษาการระวังภัยล่วงหน้า ก่อนการเกิดแผ่นดินไหว อีกทั้งรายงานการเกิดแผ่นดินไหวให้ทันท่วงที
หลังจากการช่วยเหลือฉุกเฉินยุติลง เมืองถังซันได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในทันที และเมื่อมองย้อนกลับไป ช่วงเวลาแห่งการสร้างเมืองทั้งเมือง และค่อยๆเกิดเป็นบ้านใหม่ และครอบครัวใหม่ของประชากรกว่าล้านคน ทำให้ถังซันในวันนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘เมืองกล้าหาญ’ แห่งชาติจีน พร้อมกับความทรงจำของ ‘ฝันร้าย’เมื่อ 28 ปีที่ผ่านมา.
ภาพจาก โซหูเน็ต/ซีน่าเน็ต/secretchina.com/kanzhongguo.com
ติดตามภาพเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเมืองถังซันโฉมใหม่ เพิ่มเติมได้ที่ 'แผ่นดินไหวถังซัน บทเรียนจากธรรรมชาติ' ในคอลัมน์ 'โฟโต้แกลลอรี่ : มุมจีน'