ภาษาไทยมีเสน่ห์ตรงที่คำบางคำเพียงคำหนึ่งอาจมีความหมายแตกต่างออกไปได้ในหลายความหมาย บางทีมีความหมายในทางดี หรืออาจจะไม่ดีก็ได้ หรือบางทีมีความหมายคาบลูกคาบดอกจะดีหรือไม่ดี สุดแล้วแต่การตีความ ซึ่งยังขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนตีความของความหมายนั้นออกมาในทางใด เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและเป็นโทษแก่ผู้อื่น
บุคคลผู้เป็นเจ้าตำรับในการตีความหมายของคำไทยให้เป็นประโยชน์และโทษในลักษณะดังกล่าวเป็นบุคคลในนวนิยายเรื่องศรีธนญชัย ซึ่งถึงแม้จะไม่มีตัวตนจริงแต่ก็เป็นบุคคลที่มีผู้ลอกเลียนแบบไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเมือง จะเห็นผู้มีพฤติกรรมอย่างศรีธนญชัยคลาคล่ำจริงๆ
ความจริงเรื่องของศรีธนญชัยในนิยายนั้น ควรนับเป็นเรื่องเล่าขานกันแบบตลกซึ่งให้อารมณ์ขัน มากกว่าที่จะให้อ่านหรือฟังแล้วอารมณ์เสียหรือให้ใครลอกเลียนแบบไปใช้ในทางที่ไม่สร้างสรรค์เช่นไปใช้ในทางคดโกงเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
ขัน...เป็นคำไทยอีกคำหนึ่ง ซึ่งมีความหมายได้หลายอย่าง ทำหน้าที่เป็นได้ทั้งคำนาม คำกริยา คำวิเศษ ฯลฯ
เมื่อเป็นคำนาม หมายถึงภาชนะสำหรับใส่สิ่งของ โดยมากใช้เป็นขันใส่น้ำซึ่งจะนำน้ำนั้นมาบริโภคหรืออุปโภคก็ได้ บางทีก็เอาไปใส่สิ่งของอื่นๆ อีกได้มากมายสารพัด อย่างเช่นพวกยาจกขอทาน มักจะใช้เป็นเครื่องมือหากิน หรือบางทีใช้เป็นคำที่มีความหมายพิเศษเช่น การระดมทุนจากผู้คนหลายๆ คนเพื่อนำไปประกอบธุรกิจบางอย่าง ก็เรียกวิธีดำเนินการนั้นว่า “ ลงขัน ”
อย่างที่มีดำริจะหาเงินไปซื้อหุ้นกิจการสโมสรฟุตบอลจากต่างประเทศ โดยการให้ผู้มีขนหน้าแข้งดกๆ มาร่วมกันถือหุ้น อย่างนี้ย่อมเรียกได้ว่า ถอนขนหน้าแข้งคนละกระจุกไปลงขัน
เมื่อยามใช้เป็นคำวิเศษขยายความ ตรงนี้มีความสำคัญมาก เพราะหมายถึงอารมณ์ขัน อันเป็นสิ่งที่ผู้คนยุคนี้ค่อนข้างจะมีลดน้อยถอยลงไปมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ มักเป็นผู้ที่ขาดอารมณ์ขัน ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าห่วงใยจริงๆ เพราะการขาดอารมณ์ขันมักจะเป็นสาเหตุนำไปสู่ความผิดพลาดหลายๆ อย่างทั้งในเรื่องการตัดสินใจและในเรื่องบุคลิกภาพ
บ่อยครั้งทีเดียว ภาพที่ขาดอารมณ์ขันของผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่บางคน บางทีกลับกลายเป็นภาพที่ให้อารมณ์ขันแก่สาธารณชนไปเสียด้วยซ้ำ
ขัน ในกรณีที่เป็นคำกริยา หมายถึงอาการโก่งคอส่งเสียงร้องของสัตว์ปีกบางประเภทเช่น ไก่ขันเจื้อยแจ้ว นกเขาขันคู
กริยาขัน บางทียังใช้กับพวกขี้เหล้าเมายาที่ต้องส่งเสียงร้องโอ๊กอ๊าก รวมถึงยังใช้ได้กับสตรีที่มีอาการแพ้ท้องในยามที่เธอตั้งครรภ์อ่อนๆ แล้วเกิดคลื่นไส้อาเจียนร้องโอ๊กอ๊ากในยามเช้าๆ บางทีเอาไปเปรียบกับผู้ชายบางคนที่หมดน้ำยาว่า นกเขาไม่ขัน
ขัน ในความหมายที่เป็นกริยาอีกคำหนึ่ง หมายถึงการขันเครื่องมือเครื่องไม้ให้แน่นเช่น ขันน็อต ขันชะเนาะ ขันเกลียวเชือก จะเห็นคำว่าขันในความหมายที่เป็นกริยา ที่ยกมาให้ดูนี้มีข้อแตกต่างอย่างเห็นชัดเจนหลายประการเช่น
ขัน ในความหมายแรกคือการปลดปล่อยอะไรๆ ที่ไม่ค่อยดีออกไปเพื่อให้เกิดความสบายทั้งร่างกายและจิตใจ ขัน ในความหมายหลังคือการบีบรัดให้แน่นหนาเพื่อเก็บกักอะไรๆ ไม่ให้หลุดออกโดยง่าย
เมื่อพิจารณาความแตกต่างของกริยาขันทั้งสองอย่างนี้ให้ดีๆ จะเห็นว่าต่างมีคุณและโทษผสมผสานกันอยู่ในตัว โดยเฉพาะขันประการหลัง ถ้าขันให้พอดีๆ ไม่ตึงแน่นจนเกินไปย่อมทำให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้าขันจนแน่นตึงเปรี๊ยะ กลับกลายเป็นเกิดโทษได้เมื่อเกลียวถูกขันมากจนเกลียวหวาน ย่อมทำให้เสียการเสียงานได้เช่นกัน อย่างล้อยางรถยนต์ที่ถูกขันเกลียวน็อตจนหวาน เมื่อขับรถแล่นไปด้วยความเร็วสูงอาจเกิดอุบัติเหตุน็อตหลุดกระทั่งล้อหลุด ผลที่ตามมาอาจทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารต้องบาดเจ็บหรือล้มตาย นับเป็นความโชคร้ายที่เกิดจากการขันจนแน่นตึงมากเกินไป
ในยามที่สังคมเต็มไปด้วยปัญหามากมายหลายอย่าง คงต้องมีอารมณ์ขันกันบ้างแล้วละครับ มิฉะนั้น แค่หนังตลกโอ๊กอ๊ากก็จะทำให้ขันจนน็อตหลุดไปตามกัน หนังฉายไม่นานก็ต้องลาโรงไป แต่ถ้าน็อตหลุดคงไม่ใช่แค่ลาโรงหรอกครับ.
บุคคลผู้เป็นเจ้าตำรับในการตีความหมายของคำไทยให้เป็นประโยชน์และโทษในลักษณะดังกล่าวเป็นบุคคลในนวนิยายเรื่องศรีธนญชัย ซึ่งถึงแม้จะไม่มีตัวตนจริงแต่ก็เป็นบุคคลที่มีผู้ลอกเลียนแบบไปใช้ในชีวิตประจำวันไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเมือง จะเห็นผู้มีพฤติกรรมอย่างศรีธนญชัยคลาคล่ำจริงๆ
ความจริงเรื่องของศรีธนญชัยในนิยายนั้น ควรนับเป็นเรื่องเล่าขานกันแบบตลกซึ่งให้อารมณ์ขัน มากกว่าที่จะให้อ่านหรือฟังแล้วอารมณ์เสียหรือให้ใครลอกเลียนแบบไปใช้ในทางที่ไม่สร้างสรรค์เช่นไปใช้ในทางคดโกงเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
ขัน...เป็นคำไทยอีกคำหนึ่ง ซึ่งมีความหมายได้หลายอย่าง ทำหน้าที่เป็นได้ทั้งคำนาม คำกริยา คำวิเศษ ฯลฯ
เมื่อเป็นคำนาม หมายถึงภาชนะสำหรับใส่สิ่งของ โดยมากใช้เป็นขันใส่น้ำซึ่งจะนำน้ำนั้นมาบริโภคหรืออุปโภคก็ได้ บางทีก็เอาไปใส่สิ่งของอื่นๆ อีกได้มากมายสารพัด อย่างเช่นพวกยาจกขอทาน มักจะใช้เป็นเครื่องมือหากิน หรือบางทีใช้เป็นคำที่มีความหมายพิเศษเช่น การระดมทุนจากผู้คนหลายๆ คนเพื่อนำไปประกอบธุรกิจบางอย่าง ก็เรียกวิธีดำเนินการนั้นว่า “ ลงขัน ”
อย่างที่มีดำริจะหาเงินไปซื้อหุ้นกิจการสโมสรฟุตบอลจากต่างประเทศ โดยการให้ผู้มีขนหน้าแข้งดกๆ มาร่วมกันถือหุ้น อย่างนี้ย่อมเรียกได้ว่า ถอนขนหน้าแข้งคนละกระจุกไปลงขัน
เมื่อยามใช้เป็นคำวิเศษขยายความ ตรงนี้มีความสำคัญมาก เพราะหมายถึงอารมณ์ขัน อันเป็นสิ่งที่ผู้คนยุคนี้ค่อนข้างจะมีลดน้อยถอยลงไปมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ มักเป็นผู้ที่ขาดอารมณ์ขัน ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าห่วงใยจริงๆ เพราะการขาดอารมณ์ขันมักจะเป็นสาเหตุนำไปสู่ความผิดพลาดหลายๆ อย่างทั้งในเรื่องการตัดสินใจและในเรื่องบุคลิกภาพ
บ่อยครั้งทีเดียว ภาพที่ขาดอารมณ์ขันของผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่บางคน บางทีกลับกลายเป็นภาพที่ให้อารมณ์ขันแก่สาธารณชนไปเสียด้วยซ้ำ
ขัน ในกรณีที่เป็นคำกริยา หมายถึงอาการโก่งคอส่งเสียงร้องของสัตว์ปีกบางประเภทเช่น ไก่ขันเจื้อยแจ้ว นกเขาขันคู
กริยาขัน บางทียังใช้กับพวกขี้เหล้าเมายาที่ต้องส่งเสียงร้องโอ๊กอ๊าก รวมถึงยังใช้ได้กับสตรีที่มีอาการแพ้ท้องในยามที่เธอตั้งครรภ์อ่อนๆ แล้วเกิดคลื่นไส้อาเจียนร้องโอ๊กอ๊ากในยามเช้าๆ บางทีเอาไปเปรียบกับผู้ชายบางคนที่หมดน้ำยาว่า นกเขาไม่ขัน
ขัน ในความหมายที่เป็นกริยาอีกคำหนึ่ง หมายถึงการขันเครื่องมือเครื่องไม้ให้แน่นเช่น ขันน็อต ขันชะเนาะ ขันเกลียวเชือก จะเห็นคำว่าขันในความหมายที่เป็นกริยา ที่ยกมาให้ดูนี้มีข้อแตกต่างอย่างเห็นชัดเจนหลายประการเช่น
ขัน ในความหมายแรกคือการปลดปล่อยอะไรๆ ที่ไม่ค่อยดีออกไปเพื่อให้เกิดความสบายทั้งร่างกายและจิตใจ ขัน ในความหมายหลังคือการบีบรัดให้แน่นหนาเพื่อเก็บกักอะไรๆ ไม่ให้หลุดออกโดยง่าย
เมื่อพิจารณาความแตกต่างของกริยาขันทั้งสองอย่างนี้ให้ดีๆ จะเห็นว่าต่างมีคุณและโทษผสมผสานกันอยู่ในตัว โดยเฉพาะขันประการหลัง ถ้าขันให้พอดีๆ ไม่ตึงแน่นจนเกินไปย่อมทำให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้าขันจนแน่นตึงเปรี๊ยะ กลับกลายเป็นเกิดโทษได้เมื่อเกลียวถูกขันมากจนเกลียวหวาน ย่อมทำให้เสียการเสียงานได้เช่นกัน อย่างล้อยางรถยนต์ที่ถูกขันเกลียวน็อตจนหวาน เมื่อขับรถแล่นไปด้วยความเร็วสูงอาจเกิดอุบัติเหตุน็อตหลุดกระทั่งล้อหลุด ผลที่ตามมาอาจทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารต้องบาดเจ็บหรือล้มตาย นับเป็นความโชคร้ายที่เกิดจากการขันจนแน่นตึงมากเกินไป
ในยามที่สังคมเต็มไปด้วยปัญหามากมายหลายอย่าง คงต้องมีอารมณ์ขันกันบ้างแล้วละครับ มิฉะนั้น แค่หนังตลกโอ๊กอ๊ากก็จะทำให้ขันจนน็อตหลุดไปตามกัน หนังฉายไม่นานก็ต้องลาโรงไป แต่ถ้าน็อตหลุดคงไม่ใช่แค่ลาโรงหรอกครับ.