xs
xsm
sm
md
lg

ศึกเบ้งเฮ็ก &七 &擒 &孟 &获

เผยแพร่:   โดย: สุขสันต์ วิเวกเมธากร

บุคคลหนึ่งในนวนิยายสามก๊ก..ซานกว๋อเหยี่ยนยี่ 三 国 演 义ซึ่งแฟนสามก๊กในเมืองไทยน่าจะรู้จักกันมากพอสมควรมีนามว่า..เบ้งเฮ็ก ในฐานะเป็นผู้ร้ายที่ค่อนไปทางเป็นตัวตลก

เพราะถูกหลัวกว้านจง 罗 贯 中หรือคุณหลอบรรจงใช้พู่กันละเลงไว้ให้มีบุคลิกอย่างนั้น นับเป็นบุคคลที่น่าสงสารมากทั้งในเรื่องชีวิตจริงและในบทละคร

เบ้งเฮ็ก 孟 获ซึ่งควรออกเสียงเป็น..เมิ่งวะ หรือ..มังวะ ตามภาษาถิ่นของผู้คนที่อยู่ทางแถบบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับพม่าหรือเมี้ยนม่าในปัจจุบัน สมัยสามก๊กเป็นถิ่นที่อยู่ของชนกลุ่มน้อยหลายเผ่าพันธุ์เช่น มอญ พม่า ไทยใหญ่ กะเหรี่ยง ฯลฯ

พิจารณาจากชื่อของเมิ่งวะ หรือ มังวะท่านผู้อ่านโปรดคิดตรองเองก็แล้วกันว่าเขาควรเป็นผู้คนในเผ่าพันธุ์ใด ถ้ามองตามสมัยนี้ เบ้งเฮ็กย่อมถูกจัดให้อยู่ในประเภทบุคคลสองสัญชาติหรือบางทีสามสัญชาติหรือมากกว่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นคนสัญชาติใดก็ตามเขาย่อมเป็นคนที่มีความสำคัญมากเป็นที่ยอมรับของชนส่วนน้อยจำนวนมากในยุคนั้น

หลังจากขงเบ้ง..จูเก๋อข่งหมิง 诸 葛 孔 明 สนับสนุนให้เล่าปี่ ..หลิวเป้ย 刘 备 บุกยึดเสฉวนจากเล่าเจี้ยง..หลิวจาง 刘 璋 ไปเป็นของตนแล้วนั้น ชนส่วนน้อยหลายเผ่าอันมีเบ้งเฮ็กเป็นแกนนำ ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกับเสฉวนภายใต้การปกครองของเล่าเจี้ยงมาก่อน ได้พากันหลบซุ่มเข้าในป่าดงพงไพร เพื่อสงวนท่าทีดูว่าเสฉวนภายใต้ผู้ปกครองกลุ่มใหม่จะดำเนินนโยบายอย่างไรกับชนส่วนน้อยในถิ่นแถบนั้น

ฝ่ายเล่าปี่ได้ตั้งตนเป็นฮ่องเต้แห่งเสฉวนแล้ว ต้องการแสดงความเก่งกล้าด้วยการยกทัพใหญ่ไปบุกซุนกวน..ซุนเฉวียน 孙 权 แต่กลับพลาดท่าเสียทีถูกลกซุน..ลู่ซุ่น 陆 逊 แม่ทัพใหญ่วัยจ๊าบของง่อก๊ก...หวูกว๋อ 吴 国 สั่งสอนให้รู้ฤทธิ์ด้วยการเผาทัพใหญ่ของเล่าปี่ยับเยินในสงครามหยีหลิง 彝 陵 之 战

ปัจจุบันเมืองหยีหลิงเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองหยีชาง 宜 昌 เป็นศูนย์ที่ตั้งใหญ่ของเขื่อนยักษ์ซานเสีย 三峡 ซึ่งเป็นอภิมหาโครงการสร้างเขื่อนใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติบนพิภพนี้เท่าที่ชาวโลกเคยสร้างเขื่อนกันมา

โดยใช้งบประมาณการก่อสร้างมากกว่าสองแสนล้านยูเอสดอลลาร์ และต้องอพยพผู้คนออกจากเมืองต่างๆ นับหลายสิบล้านคน เพื่อให้เป็นโครงการที่ไม่ใช่แค่เพ้อฝัน เริ่มสร้างมาตั้งแต่ ค.ศ.๑๙๙๔ โดยมีนายหลี่เผิง 李 鹏นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นเป็นผู้วางศิลาฤกษ์ และจะเสร็จสิ้นเปิดการใช้เขื่อนได้สมบูรณ์แบบใน ค.ศ. ๒๐๐๙

ลองตรวจพิจารณาประวัติศาสตร์ดูให้ดี จะเห็นว่าสมรภูมินองเลือดที่ถล่มกันราพณาสูรหลายแห่งในอดีตกาล หรือท้องถิ่นที่มีความขัดแย้งทางความคิดสูง ปัจจุบันกลับเป็นถิ่นสำคัญที่มีความเจริญรุ่งเรือง จากความร่วมมือของผู้คนทุกฝ่ายที่มาร่วมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว เพื่อความผาสุกของผู้คนที่จะเกิดตามมาในอนาคต

ย้อนกลับไปในยุคสามก๊ก เมื่อเล่าปี่สิ้นบุญเพราะตรอมใจตายที่พ่ายแพ้ยับเยินให้กับเด็กรุ่นหลัง ทิ้งอาเต๊า..อาโต่ว 阿 斗 รัชทายาทปัญญาอ่อนให้อยู่ในความดูแลอุปถัมภ์ค้ำชูของขงเบ้ง ผู้ถนัดใช้ลิ้นปลิ้นปล้อนกะล่อนเป็นเอกกว่าใครในพสุธา

ฝ่ายชนกลุ่มน้อยอันมีเบ้งเฮ็กเป็นแกนนำ ฉวยโอกาสที่พระเจ้าเล่าปี่ฮ่องเต้หูยาวแต่หูเบานำทัพไปปราชัยยับเยินต่อก๊กซุนกวนทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ก่อการกระด้างกระเดื่องซุ่มทำร้ายเจ้าหน้าที่ของเสฉวนเป็นรายวัน

โดยไม่ละเว้นถึงขั้นรังควานครูเสฉวนที่ออกไปสอนหนังสือตามหมู่บ้านกันดารห่างไกล ถึงขนาดครูเสฉวนต้องเรียกร้องให้อนุญาตพกพาอาวุธขณะสอนนักเรียน ทำให้เกิดความวุ่นวายขลุกขลัก เพราะบางทีครูเผลอเอากระบี่ขึ้นมาขีดเขียนแทนการใช้พู่กัน ยิ่งกว่านั้นคือการจัดชุดชนกลุ่มน้อยวัยจ๊าบเอามีดดาบไล่ฟันนักบวช ซึ่งออกไปธุดงค์หรือภิกขาจารสร้างความรำคาญให้ผู้คนในเสฉวนอย่างมาก

ขงเบ้งมีอำนาจสิทธิขาดเหนือใครในเสฉวน จึงเห็นว่าควรจัดการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นด้วยการกรีธาทัพใหญ่ลงไปทางใต้ เพื่อไล่ล่าพวกเบ้งเฮ็กให้หายซ่าส์ ในการทำศึกกับเบ้งเฮ็กช่วงแรกๆ ขงเบ้งยังไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยป่าเขาลำเนาไพรห้วยหนองคลองบึง ตามแบบถิ่นบรรพกาลที่ยังไม่มีการพัฒนา ขงเบ้งยังต้องเพลี่ยงพล้ำพาทหารไปเจอะกับยุทธวิธีการรบในป่า ที่เบ้งเฮ็กกับพวกหลอกให้หลงเข้าไปในถิ่น ที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรือมีสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ

ทำให้ขงเบ้งต้องรีบคิดทบทวนหาวิธีแก้ลำ และเห็นว่าควรใช้สงครามจิตวิทยาจะดีกว่าใช้กำลังทหารไปบดขยี้ จึงมีการหลอกจับเบ้งเฮ็กแล้วปล่อยตัวกลับไปทุกครั้ง อย่างที่นวนิยายเขียนว่าปล่อยไปเจ็ดครั้งก็จับได้อีกทุกครั้ง ความจริงไม่ใช่เพราะขงเบ้งใจดีแต่เป็นเพราะขงเบ้งไม่กล้าผลีผลามติดตามพวกเบ้งเฮ็กเข้าไปในป่า

สู้ปล่อยให้กลับไปพาพรรคพวกมาหาที่ตายย่อมง่ายกว่ากันเยอะเลย.
กำลังโหลดความคิดเห็น