เมื่อมีรายงานข่าวว่า เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคท กำลังวางแผนย้ายที่ประทับ ทำเอาสื่ออังกฤษพากันขุดคุ้ยสารพัดทรัพย์สินของราชวงศ์อังกฤษกันในวินด์เซอร์พาร์ค ว่าที่ที่ประทับใหม่ อย่าง “ฟอร์ต เบลเวเดเร” มีหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะหวั่นใจในประวัติศาสตร์ของที่นี่ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดรักของอดีตกษัตริย์อังกฤษกับหม้ายสาวชาวอเมริกัน ตำนานรักที่ทำเอาพสนิกรหัวใจสลาย เพราะกษัตริย์สละบัลลังก์เพื่อคนรัก
จากบ้านขนาดสี่ห้องนอน พร้อมห้องครัว ห้องน้ำ และสวนสวย ของ “แอดิเลด คอตเทจ” ที่พักที่เจ้าชายวิลเลียม เคท-พระชายา และพระโอรส-ธิดาทั้งสามทรงย้ายเข้ามาอยู่ในช่วงฤดูร้อนปี 2022 และได้รับการยกย่องเรื่องการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ทว่าตอนนี้ ดูเหมือนกำลังจะมองหาบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่ขึ้น มีรายงานว่า เชื้อพระวงศ์วินด์เซอร์กำลังพิจารณาย้ายไปอยู่ที่ ฟอร์ต เบลเวเดเร ซึ่งเป็นคฤหาสน์ที่งดงามทางตอนใต้สุดของวินด์เซอร์ เกรท พาร์ค
ฟอร์ต เบลเวเดเร ป้อมปราสาทสถาปัตยกรรมโกธิค สร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 18 มี 8 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ สระว่ายน้ำ และสนามเทนนิส เคยเป็นที่ประทับฤดูร้อน และต่อมาเป็นกระท่อมล่าสัตว์ ระหว่างปี 1930-1936 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 เคยประทับอยู่ที่ป้อมปราสาทแห่งนี้ ที่ซึ่งพระองค์ทรงพบกับ “วอลลิส ซิมป์สัน” คนรักที่เป็นหญิงหม้ายชาวอเมริกันจากการแต่งงานครั้งแรก แถมยังสมรสอยู่กับสามีคนที่สอง ซึ่งเป็นคนรู้จักของพระองค์ ก่อนที่พระองค์จะหลงเสน่ห์และปลูกต้นรักกัน เมื่อขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์ประสงค์จะเสกสมรสด้วย แต่ได้รับการคัดค้านจากทุกฝ่าย จนเกิดวิกฤตการเมือง ท้ายที่สุดทรงสละราชบัลลังก์กษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร เพื่อใช้ชีวิตคู่กับสตรีอันเป็นที่รัก นับเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์สั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ และเป็นที่มาของการที่หลายฝ่าย โดยเฉพาะ ผู้สนับสนุนราชวงศ์แบบพันธุ์แท้ ที่รู้สึกไม่ค่อยดีกับปราสาทแห่งนี้
เมื่อไม่นานมานี้ ฟอร์ต เบลเวเดเร เคยเป็นที่พำนักของ “ฮิลลารี และจอร์จ เวสตัน” มหาเศรษฐีชาวแคนาดา เพราะ วินด์เซอร์ โฮม พาร์ค และวินด์เซอร์ เกรท พาร์ค เป็นที่ดินผืนใหญ่รอบเมืองวินด์เซอร์ และเป็นที่ตั้งของฟอร์ต เบลเวเดเร เป็นกรรมสิทธิ์ของ Crown Estate ซึ่งเป็นทรัพย์สินของราชวงศ์อังกฤษ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นเจ้าของที่ดินเหล่านี้ ในช่วงรัชสมัยของพระองค์ แต่ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล ได้ทำการปล่อยเช่าพื้นที่ทำประโยชน์ หารายได้ให้กับราชวงศ์มาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง